สำหรับใครที่มีแพลนจะหาที่ท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ เราขอชวนคุณไป Hopping คาเฟ่ที่เมืองเชียงใหม่แต่ได้ feel เหมือนไปเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมตัวสัมผัสกับอากาศหนาว ๆ พร้อมเช็คอินที่คาเฟ่น่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ที่เราเลือกมาเพื่อทุกคนโดยเฉพาะ
ก่อนออกเดินทาง เราเริ่มต้นจัดกระเป๋าสำหรับทริปนี้ด้วยกระเป๋าเดินทางยี่ห้อ Calvin Klein ขนาด Cabin Size Trolly ไซส์เล็กกะทัดรัด ที่สามารถจุของได้ไม่น้อย มีที่บรรจุสัมภาระอย่างเป็นสัดส่วน ปลอดภัยด้วยระบบ TSA Lock ป้องกันการกระแทก และสะดวกสบายด้วยระบบล้อเลื่อน 8 ล้อที่หมุนได้ 360 องศา
ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว แน่นอนว่าเราต้องการกระเป๋าเป้เพื่อจัดใส่ไอเท็มกระจุกกระจิกสำหรับไปหยิบใช้ระหว่างการเดินทาง แนะนำกระเป๋าเป้ยี่ห้อ Hellolulu รุ่น TATE เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์พร้อมซับใน ประกอบด้วยช่องซิบหลัก ช่องหุ้มเบาะ ขนาดพอดีกับแล็ปท็อป 13 นิ้ว (W33 x D2.5 x H23 ซม.) มีกระเป๋าด้านข้างสองฝั่ง กระเป๋าใส่อุปกรณ์เสริมด้านหน้าพร้อมสายคล้องกุญแจ และอุปกรณ์เสริม UTX Duraflex รองรับการบรรจุที่มีน้ำหนัก ที่สำคัญสามารถกันน้ำได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะฝนตกหรือว่าแดดออก ก็พกพาง่าย ไปได้ทุกที่
ส่วนใครที่มีกล้อง Mirrorless เล็ก ๆ กระเป๋ากล้อง Hellolulu รุ่น Mika สามารถใส่กล้องตัวเก่งของเราได้สบาย เนื่องจากภายในค่อนข้างใหญ่ มีช่องเล็กสำหรับใส่ Memory Card เปิดปิดด้วยช่องแม่เหล็ก สะดวก รวดเร็ว พร้อมถ่ายภาพได้ในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมสายคล้องไหล่ Carabineer สามารถปรับได้สำหรับสะพาย ไม่ต้องกลัวว่าจะรับน้ำหนักไม่ไหว เพราะมีตัวเสริม UTX Duraflex รับของหนักได้สบาย ที่สำคัญสามารถกันน้ำได้ค่อนข้างดีเหมือนกับรุ่น TATE เนื่องจากใช้ผ้าไนลอน แล้วเสริมด้วยโพลีเอสเตอร์ ทำให้เราสนุกกับการถ่ายรูปทุกครั้งโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น ๆ สามารถดูรายละเอียดกระเป๋าได้ที่ www.hellolulu.com
จัดกระเป๋าเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเริ่ม Hopping คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นในเชียงใหม่กันได้เลย
หากใครเคยได้ยินชื่อร้าน มีใจให้มัทฉะ ร้านชาเขียวมัทฉะเล็ก ๆ ย่านช้างคลานในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องมาลองสัมผัสบรรยากาศใหม่ในชื่อ Magokoro Teahouse and Matcha Cafe - มีใจให้มัทฉะ ที่ คุณเป้ง เจ้าของร้านได้เนรมิตเอาบรรยากาศแบบสวนเซ็นญี่ปุ่นมาให้นั่งพักผ่อนกัน แถมในเรื่องของเมนูที่นี่ก็มีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายอย่าง ทั้งเมนูเครื่องดื่มและเมนูขนมหวาน ที่แน่นไปด้วยคุณภาพและรสสัมผัสของความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
ลองสั่งเซ็ต Matsukaza Cereminial Set (239 บาท) ก็จะได้เป็นชาเขียวมัทฉะกับขนมหวานใส้ถั่วแดง ที่เมื่อทานด้วยกันแล้ว ความเข้มข้นของมัทฉะกับรสชาติหวานหอมของขนมก็เข้ากันอย่างน่าประทับใจ
ส่วนเครื่องดื่มที่ถือเป็น Signature ตลอดกาลของร้านก็คงหนีไม่พ้น Magokoro Latte (139 บาท) แก้วนี้พิเศษตรงที่ลูกค้าสามารถเลือกประเภทของชาเองได้ แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับชาเขียวมัทฉะมากนักแนะนำให้เลือกเป็นชา Magokoro เพราะให้รสสัมผัสกลาง ๆ ดื่มง่าย และยังได้รสชาเขียวแท้ ๆ แนะนำให้จับคู่กับขนม Matcha Roll (119 บาท) โรลชาเขียวมัทฉะรสเข้ม เนื้อแน่น ไม่หวานจัด ทานคู่กับเครื่องดื่มไปเพลิน ๆ เป็นอีกหนึ่งขนมที่โดดเด่นของที่นี่
ต่อด้วย Cheese Tart (125 บาท) กลมกล่อมไปด้วยรสชาติหวานมัน และรสสัมผัสของชีสที่ติดอยู่ที่ปลายลิ้น ส่วนแป้งทาร์ตก็หวานพอดี ทานได้เพลิน ๆ
ปิดท้ายด้วยเมนูน่ารักที่เพิ่งออกมาไม่นานในเมนูของ Australian Navel Orange Trifle (Seasonal Special) (239 บาท) ที่ประกอบไปด้วย Genoise เป็น Italian Sponge Cake อยู่ด้านล่าง ตามด้วย Tiramisu, Sencha Jelly เพิ่มความหอมของส้มด้วย Fresh Australian Navel Orange และ Homemade Navel Orange Sorbet สุดท้ายจึงตกแต่งด้วยส้มสไลซ์เชื่อม ทานแล้วได้ความสดชื่นไปเต็ม ๆ
Magokoro Teahouse and Matcha Cafe - มีใจให้มัทฉะ
ถนนศรีดอนไชย ตำบลช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 20.00 น.
โทร. 05-2010-204
www.facebook.com/magokoro.tea
อีกร้านขนมสไตล์ญี่ปุ่นเปิดใหม่ที่ซ่อนอยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านช้างคลานของเชียงใหม่ ตัวร้านถูกตกแต่งแบบสวนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นเช่นกัน มีสวนหินที่เป็นศิลปะชั้นสูงของญี่ปุ่นให้ชม ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายเหมาะกับการนั่งคุยกันพร้อมจิบชาร้อนยาว ๆ ทั้งวัน ส่วนขนมต่าง ๆ มีให้เลือกหลากหลาย โดยทุกอย่างจะส่งตรงมาจากญี่ปุ่น พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสรสชาติญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบออริจินอล
ใครที่ยังไม่คุ้นชินกับเมนูของทางร้าน ลองสั่ง Moji Delight (325 บาท) เซ็ตโมจิย่างที่การตกแต่งจานไม่ธรรมดา โดยจะเสิร์ฟมาในจานใหญ่พร้อมการจัดเสิร์ฟแบบสวนญี่ปุ่น พร้อมกับผีเสื้อสองตัวที่กำลังดอมดมเกสรดอกไม้
หรือจะลองชิมโมจิย่างในเมนูของ Ri - Kyo Moji (120 บาท) เซ็ตแป้งโมจิย่าง ให้รสสัมผัสแปลกใหม่เพราะค่อนไปทางของคาวมากกว่าของหวาน เสิร์ฟมาบนจานที่ตกแต่งด้วยหมู่มวลดอกไม้ชวนให้หลงใหล จับคู่ทานกับชาร้อนเข้ากันเป็นอย่างดี
ส่วนชาของที่นี่มีให้เลือกหลากกลายแบบ แต่รับรองได้เลยว่าแน่นไปด้วยคุณภาพเพราะส่งตรงจากญี่ปุ่นทั้งหมด แนะนำ Genmai Aroma (150 บาท) ชาเกนไมหอม ๆ ให้รสสัมผัสนุ่ม บางเบา พร้อมพาคุณดื่มด่ำไปกับรสชาติและบรรยากาศการพักผ่อนในวันหยุดแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่คอญี่ปุ่นต้องไม่พลาด
ด้านบนของร้านเปิดเป็นที่พักในแบบฟูกนอนบนเสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่น
Wabi Cha
ถนนระแกง ซอย 3 ตำบลหายยา จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 20.00 น.
โทร. 05-2005-504
www.facebook.com/wabichateahouse
สำหรับร้านกาแฟเล็ก ๆ สไตล์โฮมเมดที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานในซอยเล็ก ๆ ก่อนถึงประตูท่าแพ นั่นคือ Buacheen Brew Bar เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟในเชียงใหม่ที่คอกาแฟไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ในร้าน The Localist Craft Community พื้นที่จัดเวิร์คช็อปงานคราฟต์และช็อปขายสินค้าแฮนด์เมด ซึ่งเจ้าของร้านอย่าง คุณนุ่น ตั้งใจจะทำที่นี่ให้เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ พร้อมด้วยขนมโฮมเมดที่ขายควบคู่กันไปด้วย โดยจะเสิร์ฟให้ทั้งคนที่มาเวิร์คช็อปและคนที่ตั้งใจมาดื่มกาแฟที่ร้าน
เมนูที่นี่เน้นความเรียบง่ายแต่แน่นไปด้วยคุณภาพ โดยที่ร้านใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นหลัก ลองชิม Local Brew (85 บาท) Cold Brew รสนุ่มที่แทรกไปด้วยความเฟรชและกลิ่นหอม ๆ ของเลมอน
หรืออีกเมนูน่ารักควรสั่งมาลองชิมอย่าง Coffee Jelly (75 บาท) หรือกาแฟวุ้นที่ให้รสสัมผัสที่แปลกออกไป เหมาะกับคนชอบลองอะไรใหม่ ๆ
ส่วนเมนูขนมก็มี Banan Bread Filled Cream Cheese (60 บาท) เค้กกล้วยหอมครีมชีส ให้รสหวานมัน นุ่ม กลมกล่อม ไม่หวานจัด เป็นขนมอีกหนึ่งตัวที่ทานตัดรสกาแฟได้ดี
Buacheen Brew Bar
ถนนช้างม่อย จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวันพฤหัสบดี - วันอังคาร เวลา 09.00 - 17.00 น.
โทร. 08-1858-7882
www.facebook.com/Buacheen-Brew-Bar-1372993279501381
หลายคนที่ได้ไปเชียงใหม่คงคุ้นชื่อกับร้านกาแฟ live.aday กันมาบ้าง มาวันนี้ทางร้านได้เอาใจคนที่ชอบทานขนมหวานด้วยคาเฟ่ขนมหวานสไตล์เกาหลีที่เปิดคู่กัน โดยมาในสไตล์วินเทจโมเดิร์นและติดกระจกใสบานใหญ่ที่เป็นมุมยอดฮิตของคนที่ชอบถ่ายรูป
เมนูขนมส่วนใหญ่เลือกใช้วัตถุดิบนำเข้า ครีเอทโดย คุณแจน เจ้าของร้าน ที่ได้มีโอกาสไปเรียนทำขนมกับชาวเกาหลีใต้ ทำให้ได้สูตรขนมน่ารัก ๆ ในสไตล์เกาหลีแท้ ๆ มาเสิร์ฟให้ทุกคนได้ทาน สำหรับเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์เห็นจะเป็น Pearl Snow (100 บาท) มูสเค้กลูกบอลรสมะม่วงและเสาวรส ซ่อนแครนเบอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ไว้ด้านใน เคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลต เป็นเมนูน่ารัก ๆ ที่สาว ๆ ชื่นชอบ ถัดมาเป็นเมนูน่ารักอีกเช่นกัน ทางร้านแนะนำ Matcha Dacquoise (80 บาท) บัตเตอร์เค้กรสมัทฉะโรยไอซิ่ง หรือถ้าไม่ชอบชาเขียวอาจจะสั่งเป็น Choco Dacquoise (80 บาท) สำหรับคนที่ชอบโกโก้
ปิดท้ายด้วยเมนูหวาน ๆ อย่าง Soft Roll Strawberry (80 บาท) โรลเค้กไส้ครีมและสตรอเบอร์รี่ ไม่ผสมน้ำมันและเนย เพิ่มความหวาน ละมุน ด้วย Milk Cream เหมาะกับคนที่แพ้นมและชอบขนมแคลอรี่น้อย
live.aday
107/1 ถนนระแกง ตำบลช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่
เปิดวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 11.00 - 17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
โทร. 08-1595-1555
www.facebook.com/liveaday-157031544938632
อีกหนึ่งคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่ให้บรรยากาศแบบมินิมอลสีขาวสะอาดตาและเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน อย่าง Tenten ที่ตั้งอยู่บนถนนบำรุงบุรีของจังหวัดเชียงใหม่ วิวสวย ๆ ติดคูเมืองทำให้สามารถนั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิถีชีวิตชาวเชียงใหม่ได้เพลิน ๆ
ร้านนี้เน้นเป็นเมนูขนมญี่ปุ่น Homemade แนะนำ Choux Cream (98 บาท) ชูครีมสูตร Homemade แบบญี่ปุ่น แป้งกรอบเบาเข้ากับครีมแน่น ๆ ด้านในเป็นอย่างดี
หรือจะเป็น Shiratama 4 Seasons (88 บาท) ดังโงะแบบต้นตำรับ มากับสี่รสชาติทั้งมัทฉะ ถั่วแดง แป้งถั่วเหลืองและน้ำผึ้ง
เครื่องดื่มของทางร้าน แนะนำ Americano Rosemary Orange (88 บาท) อเมริกาโน่กับน้ำส้ม แก้วโปรดของใครหลายคนที่มาพร้อมกับความหอมของโรสแมรี่
ต่อด้วยความครีมมี่ของ Kahlua Agave (168 บาท) แก้วนี้ที่ใช้เมล็ดกาแฟจากเม็กซิกันและไทยออกมาแบบเพอร์เฟ็กชอต ได้ความเข้มข้นครีมมี่ลงตัว
Tenten テンテン - Chiang Mai
ถนนบำรุงบุรี จังหวัดเชียงใหม่
เปิดทุกวัน 09.00 - 10.00 น.
โทร. 08-8869-0000
www.facebook.com/tentencnx
