'Enjoy Sophisticated Vibes X The Life Artois' at Cocotte Farm Roast & Winery
The Life Artois ชวนคุณมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ให้รางวัลตัวเองไปกับมื้ออร่อยคู่กับเครื่องดื่มดีต่อใจ และชิลล์เอาต์ยามค่ำคืนกับหลากหลายร้านบรรรยากาศดีที่เราคัดสรรมาให้คุณแล้ว ในซีรีส์คอนเทนต์ Enjoy Sophisticated Vibes X The Life Artois
ครั้งนี้เราพามาดินเนอร์มื้อพิเศษที่คุณจะต้องไปประทับใจที่ Cocotte Farm Roast & Winery ร้านอาหารฝรั่งเศสคุณภาพพรีเมียมที่ถือเป็นหนึ่งร้านยอดนิยมในย่านพร้อมพงษ์ และเป็นร้านโปรดในใจของใครหลาย ๆ คน เพราะที่นี่พร้อมเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษและเครื่องดื่มสดชื่น ให้คุณและคนพิเศษได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติที่ถ่ายทอดผ่านฝีมือของเชฟมากประสบการณ์ในบรรยากาศสุดโมเดิร์นใจกลางเมือง
Modern and Rustic Style
บรรยากาศร้านชิลล์ ๆ เหมาะแก่การมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ทานมื้อค่ำดินเนอร์ออกเดทแบบโรเเมนติก เฉลิมฉลองและแฮงเอาต์กับเพื่อน ๆ หลังเลิกงาน ด้านในร้านตกแต่งเน้นสไตล์วินเทจและคลาสสิก ผสมผสานไปกับความโมเดิร์นทันสมัยจากเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้โซฟาหนังขนาดใหญ่ นั่งสบาย และเพิ่มฟีล Rustic ด้วยเคาน์เตอร์บาร์หรือจะเป็นฝั่งของ Open Kitchen โซน Delicatessen ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเคาน์เตอร์ขายวัตถุดิบในแถบยุโรป เป็นมุมที่ให้ทุกคนสามารถเดินไปเลือกชีสและ Cold Cuts ที่ชอบมาทานคู่กับเครื่องดื่มได้
Cocotte Farm Roast & Winery ยังโดดเด่นในเรื่องของการคัดสรรเอาวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั้งในและต่างประเทศ โดยเเน้นใช้วัตถุดิบออร์แกนิกจากธรรมชาติ ที่ปลอดภัยไร้สารพิษมาครีเอตเป็นเมนูพิเศษโดยเชฟมากประสบการณ์ให้ผู้แวะเวียนเข้ามาได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น Chef's Platter, Cold Cuts & Cheese ,Truffle Board, เนื้อสายพันธ์ุต่าง ๆ และซีฟู้ดสด ๆ จากท้องทะเล ที่เมื่อจับคู่จิบกับเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว ก็ผสมผสานกันออกมาเป็นรสชาติที่น่าประทับใจ ทางร้านยังถูกการันตีคุณภาพด้วยหลากหลายรางวัล ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพของทุกจานที่ถูกเสิร์ฟมาได้เป็นอย่างดี
A Great Taste from Premium Ingredients
The Life Artois ชวนให้คุณเฉลิมฉลองและมอบรางวัลให้กับตัวเอง ด้วยการเติมพลังงานดี ๆ จากอาหารจานอร่อย ท่ามกลาง Vibes สุดชิลล์ ครั้งนี้ขอแนะนำเมนูเบา ๆ ในจาน Starter เริ่มต้นอย่าง Cocotte Caesar Salad 3.0 (360 บาท) ซีซาร์สลัดแสนคลาสสิกที่เต็มไปด้วยรสสัมผัสสุดสดชื่น จานนี้เชฟเสิร์ฟ Baby Cos Lettuce มากับเนื้อไก่อบที่เป็น Signature ของทางร้าน ตามด้วยไข่นกกระทาต้ม พาร์เมซานชีส เบคอนกรอบ และ Garlic Croutons พร้อมกับ Caesar Dressing ที่พอคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้ว ดีงามแบบสุด ๆ
ต่อด้วยเมนู Starter จานถัดไปอย่าง Wagyu A5 Nigiri (320 บาท) นิกิริสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานความฉ่ำของเนื้อวากิว A5 ที่เป็นเนื้อส่วนใบพายพิเศษขนาดพอดีคำ มีรสสัมผัสความนุ่มของไขมันและเอ็นที่กำลังดี ด้านล่างเป็นแผ่นมันฝรั่งแบบ Rösti ตามด้วยอะโวคาโด ซอสชิมิชูร์ริ ท็อปด้วย Jalepeños พริกดองสไตล์เม็กซิกัน รวมกันเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ที่มีกลิ่นหอมแตะจมูกชัดเจนทันทีที่วางจานเสิร์ฟ
ปิดท้ายด้วยเมนูสำหรับคนรักเนื้ออย่าง Porterhouse Black Angus 1.2 kg (3,490 บาท) จานนี้เสิร์ฟเนื้อ Australian Black Angus Beef, 270 days grain-fed ขนาด 1.2 กิโลกรัม ย่างระดับ Medium Rare เสิร์ฟมาแบบชิ้นโตบนเขียงไม้ เคียงมากับซอส 3 อย่างให้เลือก พร้อมกระเทียมย่าง เฟรนช์ฟรายส์และมันบดเนื้อเนียน ทานคู่กันเพิ่มความกลมกล่อม ยิ่งทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นชื่นใจสดจากแท็ป ยิ่งช่วยเพิ่มรสชาติให้มื้อนี้กลายเป็นค่ำคืนแห่งความอร่อยที่น่าประทับใจ