Good Old Days in Bangkok’s Old Town
‘เจริญกรุง’ อีกหนึ่งย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ที่ยังคงเสน่ห์สถาปัตยกรรมเก่าและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนไทยเชื้อสายจีนไว้ได้เป็นอย่างดี ส่งต่อความคลาสสิกอย่างต่อเนื่องอีกครั้งผ่านคาเฟ่สุดฮิปสไตล์จีนอย่าง Hēijīi Bangkok ที่ตั้งอยู่ภายในซอยเจริญกรุง 43 โดยดึงเอากลิ่นอายชุมชนเก่าแก่ของคนไทยเชื้อสายจีนและหลากหลายเรื่องราวความทรงจำในวัยเด็กของผู้เป็นเจ้าของมาไว้ภายในร้าน ถ่ายทอดผ่านเมนูเครื่องดื่มและโฮมเมดเบเกอรี่ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมการต้อนรับแสนอบอุ่น
Live Like A Local
คาเฟ่แห่งนี้เป็นการสานฝันของ คุณมิก-ประภาส ระสินานนท์ หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง Hēijīi Bangkok ผู้เติบโตมาในครอบครัวของคนไทยเชื้อสายจีนแท้ ๆ ได้นำเอาประสบการณ์และความทรงจำเมื่อครั้งยังเด็ก ประกอบกับความหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในย่านเจริญกรุง รวมความหลากหลายของสถานที่ที่น่าสนใจต่าง ๆ ทั้งคาเฟ่ อาร์ตแกลเลอรี พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ ที่รวมตัวกันอยู่ในละแวกดังกล่าวมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบตัวร้าน เมนูอาหารและเครื่องดื่มให้มีความคลาสสิกในแบบจีนร่วมสมัยกลมกลืนไปกับชุมชนเก่าแก่ในย่านนี้ ซึ่งหากใครแวะมาที่นี่ก็จะได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่ยังดำเนินชีวิตแบบเก่าให้เราได้เห็นกันจนถึงทุกวันนี้
ที่มาของชื่อร้าน Hēijīi Bangkok มาจากคำว่า ‘เฮยจี’ หมายถึง ‘ไก่ดำ’ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำในวัยเด็กของคุณมิก เมื่อครั้งที่คุณแม่ของเขามักทำเมนูไก่ดำตุ๋นยาจีนให้ทานอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งถูกนำมาใช้เป็นโลโก้สัญลักษณ์เป็นรูปไก่ดำประจำร้าน เพื่อสื่อถึงเรื่องราวความประทับใจในวัยเยาว์ของผู้เป็นเจ้าของนั่นเอง
Very Chinese Style
บรรยากาศโดยรวมของทางร้านเป็นสไตล์จีนประยุกต์ที่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิกทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นหลังคาจีนโบราณ ประตูบานเฟี้ยมแบบห้องแถวชุมชนจีน เฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ งานไม้ ผนังอิฐปูนเปลือยที่คงเอกลักษณ์โครงสร้างดั้งเดิมของตัวอาคารไว้ แต่ก็ดูเท่ ร่วมสมัยในแบบสไตล์ลอฟท์ เพดานสีเขียวไทยโทนที่คนสมัยก่อนนิยมใช้ ได้กลิ่นอายของความเป็นชุมชนจีนไว้ได้ครบถ้วน
ก่อนจะเพิ่มกิมมิกด้วยตัวอักษรภาษาจีนเขียนด้วยลายมือของเพื่อนบ้านที่มีความหมายดี ๆ ว่า ‘Wish You Good Luck’ หรือ ‘ขอให้โชคดี’ เสมือนเป็นคำอวยพรที่ทางร้านมอบให้แก่ผู้มาใช้บริการทุกคน และถึงแม้ตัวร้านจะมีขนาดกะทัดรัด แต่ก็แบ่งโซนนั่งอย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นมุมเคาน์เตอร์บาร์กาแฟ มุมโต๊ะยาวติดกระจก และโต๊ะเล็กที่ให้ความเป็นส่วนตัวไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่อีกหนึ่งแห่งที่มาเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับย่านนี้อย่างมาก
Homemade Menu By Heart Made
มาถึงในส่วนของเมนูแนะนำกันบ้าง ที่นี่จะเน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยสารพัดเมนูโฮมเมด ทั้งเมนูอาหารทานเล่นกับปอเปี๊ยะทอดสไตล์จีน เมนูเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ อาหารว่าง และโฮมเมดเบเกอรี่ โดยคุณมิกและผองเพื่อนคนสนิทที่มาร่วมดูแลคาเฟ่แห่งนี้ รวมทั้งสิ้น 7 คน ต่างก็ร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือ ครีเอทเมนูอาหารและเครื่องตามความถนัดของแต่ละคน ทุกเมนูล้วนทำเอง นับตั้งแต่เมนูกาแฟที่ผ่านการชงด้วยมือ ไปจนถึงเมนูขนมที่ทางร้านก็ลงมือทำเอง ทำสดใหม่แบบวันต่อวันเช่นกัน
เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มสุดเบสิกอย่างกาแฟที่ตั้งใจเสิร์ฟแบบไม่ใช่เครื่อง ด้วยเมนูหลัก ๆ คือ กาแฟดำและกาแฟนม โดยเมนูร้อนจะเสิร์ฟแบบ Aeropress เลือกใช้เมล็ดกาแฟ Seasonal ที่น่าสนใจตามฤดูกาล ส่วนเมนูเย็นทางร้านจะใช้เมล็ดกาแฟ House Blend และเสิร์ฟแบบ Cold Brew ขอแนะนำ Hot Coffee : EL Salvador (Aeropress) (95 บาท) กาแฟดำแบบร้อนที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟของ El Salvador ผ่านกรรมวิธีการชงด้วยอุปกรณ์อย่าง Aeropress อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่เป็นการชงแบบละเมียดละไม ที่ให้รสชาติกลมกล่อม ดื่มง่าย สอดรับกับบรรยากาศความคลาสสิกของตัวร้านไปในตัว
นอกจากเมนูเครื่องดื่มประเภทกาแฟแล้ว ทางร้านยังเสิร์ฟชาจีนที่มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เช่น Gong Fu Tea, ชาอู่หลง หรือชาจีนเกรดพรีเมียมที่เสิร์ฟในรูปแบบของ Tea Pot ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงในอนาคต ทางร้านยังมีไอเดียที่จะนำยาจีนมาเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มอีกด้วย โดยครีเอทรสชาติให้ดื่มง่าย รับรองว่าคนรักชาทั้งหลายไม่เคยดื่มที่ไหนมาก่อนแน่นอน
หากใครที่ไม่ดื่มกาแฟ ลองสั่ง Hongkong Papaya Milk (85 บาท) นมมะละกอปั่นสดสูตรฮ่องกง ให้รสหวานอย่างเป็นธรรมชาติ เสิร์ฟมาในแก้วแบบ Take Away ที่ใช้กระดาษสีน้ำตาลสกรีนโลโก้รูปไก่ตราสัญลักษณ์ของคาเฟ่แทนฝาแก้วพลาสติกทั่วไป
สิ่งเล็ก ๆ ที่ทางร้านร่วมรณรงค์ คือความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้แก้วน้ำพลาสติกที่ย่อยสลายง่าย พร้อมสร้างกิมมิกโดยการใช้กระดาษสกรีนโลโก้รูปไก่แทนการใช้ฝาพลาสติก เพื่อผลิตขยะให้น้อยที่สุด เช่นเดียวกันกับกระดาษรองปูโต๊ะของที่เลือกใช้หนังสือพิมพ์จีนจากร้านเพื่อนบ้านมาทำที่รองโต๊ะแบบเก๋ ๆ ซึ่งถือเป็นการอุดหนุนคนในชุมชนเดียวกันไปในตัว
สำหรับเมนูอาหารว่างที่พลาดไม่ได้คือ Chinese Spring Roll (150 บาท) ปอเปี๊ยะทอดสไตล์จีนแบบกรอบนอกนุ่มใน พร้อมสอดไส้ที่อัดแน่นไปด้วยหมูสับ เห็ดหูหนู แครอท และวุ้นเส้นคำโต เสิร์ฟมาพร้อมผักเครื่องเคียงและน้ำจิ้มรสหวาน
ในส่วนของโฮมเมดเบเกอรี่ แนะนำให้ลองทานเมนูเค้ก ไม่ว่าจะเป็น Earl Grey Chiffon (150 บาท) เค้กชิฟฟ่อนเนื้อนุ่มที่มีส่วนผสมของชาเอิร์ลเกรย์หอม ๆ สอดไส้ครีมและอัลมอนด์ที่นำไปผัดกับน้ำตาล ให้ความกรอบและความหวานกำลังดี ผสมผสานกันอย่างลงตัว ลองตักทานพร้อม ๆ กัน จะสัมผัสได้ถึงความละมุนของเค้กชิฟฟ่อนชิ้นนี้เต็ม ๆ คำ
ก่อนจะปิดท้ายกับอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์อย่าง Financier with Kumquat Sauce (150 บาท) ขนมเค้กสไตล์ฝรั่งเศสขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีส่วนผสมของเนย ไข่ และอัลมอนด์ มีสีเหลืองเข้ม กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกับแยมส้มจีนที่ทางร้านทำเอง โดยใช้ส้มจีนที่ปลูกไว้ด้านหน้าร้านมาเป็นวัตถุดิบ ให้รสเปรี้ยวอมหวาน และกลิ่นหอมสดชื่นของส้ม เชื่อว่าใครได้ลองชิมเป็นต้องติดใจ!
Must Read!
- หากขับรถมาทานที่ร้าน สามารถจอดรถได้ที่ TCDC หรือไปรษณีย์กลางบางรัก โดยมีค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท