Sweet Dishes on the Table
คุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะรู้สึกหิวเวลาได้ชมรายการอาหารหรือเปล่า? ความสงสัยในรสชาติ และความน่าทานของแต่ละเมนูที่เชฟผู้เข้าแข่งขันในรายการต่าง ๆ ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านเมนูสุดครีเอทให้ได้กลืนน้ำลายหน้าจอ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครได้ลิ้มรสนอกจากกรรมการผู้ตัดสิน แต่วันนี้ Sweet Chef Cafe คาเฟ่ขนมในย่านสยามสแควร์ จะมาสานฝันคนหิวให้เป็นจริง ด้วยการเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษจากฝีมือของผู้เข้าแข่งขันในรายการ Sweet Chef Thailand รายการแข่งทำขนมรูปแบบใหม่ จากช่อง Workpoint ที่รวมทุกความอร่อยมาไว้ที่นี่ที่เดียว
Sweet Concept and Detail
ใครที่ผ่านไปผ่านมาในย่านสยามสแควร์ ซอย 3 คงเคยสังเกตเห็นประตูสีชมพูหวานสะดุดตาของร้าน Sweet Chef Cafe กันบ้าง ซึ่งคอนเซ็ปต์ของทางร้านจะอ้างอิงสไตล์การตกแต่งมาจากรายการทีวี ที่เลือกใช้สีลาเวนเดอร์ และแอบซ่อนดีเทลต่าง ๆ ไว้ในทุก ๆ มุมของร้าน อย่างมุมกำแพงโค้งที่มีการออกแบบลวดลายผนังให้เป็นรูปสลักอุปกรณ์เครื่องครัว
Sweet Land and Talented Chef
ว่ากันว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารและผลไม้มากมาย ทำให้คนในพื้นที่ต่าง ๆ สามารถพัฒนาทักษะและต่อยอดนำเอาวัตถุดิบในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ สำหรับรายการแข่งขันทำอาหาร ทำขนมต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้เหล่าผู้ที่มีใจรักในการสร้างสรรค์เมนูเหล่านี้ ได้มาโชว์ฝีไม้ลายมือให้ทุกคนได้เห็น โดย Sweet Chef Cafe นั้น ได้มีการสร้างมุมมองที่แตกต่างออกไป เพราะนอกจากจะได้เห็นวิธีการทำอาหารทุกขั้นตอนแล้ว ยังได้สัมผัสถึงความคิดสร้างสรรค์และลิ้มรสความอร่อยของเมนูต่าง ๆ จากผู้เข้าแข่งขันอีกด้วย
เริ่มต้นความอร่อยด้วยเมนูดี ๆ จาก Sweet Chef Thailand Episode 1 อย่าง มูสหยดน้ำผึ้ง (325 บาท) เมนูสุดพิเศษจาก คุณโนเบล-ผู้เข้าแข่งขัน ที่จับคู่ความอร่อยรสเปรี้ยวอมหวานมาผสานไว้ด้วยกันผ่านมูสเลมอนครีมชีสแบบเสิร์ฟเย็น ที่สอดไส้มาด้วยเจลลี่ยูซุผสมน้ำผึ้ง, มะม่วงสุกและสปันจ์เค้กวานิลลา เคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลต เสิร์ฟมาพร้อมกับคุกกี้น้ำผึ้งหอมหวาน และไอศกรีมยูซุที่มาตัดรสชาติกันได้เป็นอย่างดี
หรือจะลองเป็น เค้กส้มฉุนสยาม (265 บาท) เมนูคลายร้อนแบบไทย ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมากจาก ‘ส้มฉุน’ ซึ่ง คุณบิ๊ก-ผู้เข้าแข่งขัน เจ้าของเมนูได้เลือกใช้มูสลิ้นจี่ สอดไส้เจลลี่เงาะ วางบนฐานแป้งทาร์ต ผสมกับน้ำส้มซ่า และเพิ่มความพิเศษด้วย Glaze น้ำขิง ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยส้มสด เมล็ดทับทิม ช็อกโกแลต และหอมเจียว
แต่ถ้าใครอยากลิ้มลองเมนูที่มีกลิ่นอายของความเป็นจีน ลองสั่ง ชูปาเปา (250 บาท) เมนูขนมจาก คุณลี่ ซึ่งครีเอทความอร่อยด้วยชูครีมที่เสิร์ฟมาในเข่ง โดยแบ่งชูครีมออกเป็นขนาดพอดีคำ สอดไส้ไข่เค็มอบควันเทียน 7 ลูก และสอดไส้ช็อกโกแลต 1 ลูก โดยมีส่วนผสมของเกลือทะเลจากธรรมชาติ ช่วยชูรสชาติให้โดดเด่น เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสที่มีส่วนผสมของมะพร้าวและถั่วทองทอด
ต่อกันที่ความหอมหวานจาก Episode 2 ที่ คุณอิน หนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน นำเสนอเมนู ไอติมกะทิ รักเก่าที่บ้านเกิด (325 บาท) ไอศกรีมกะทิเนื้อเนียนที่มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว เสิร์ฟมาพร้อมกันกับมูสเผือกสอดไส้ครีมข้าวโพด, ฟักทองเชื่อม, ข้าวเหนียวใบเตย และเจลลี่ส้มซ่า แล้วโรยหน้าด้วยข้าวเม่าและถั่วลิสงคั่ว เพิ่มความกรุบกรอบเคี้ยวเพลินให้กับทุก ๆ คำที่ได้ลอง
มาถึงเมนู เค้กไข่ลูกเขย (250 บาท) กันบ้าง จานนี้มาจาก Episode 4 ครีเอทความอร่อยโดย คุณตั้ว-ผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งได้เลือกใช้เค้กเนื้อนุ่มที่ผสมผสานเนื้อไข่เอาไว้ในตัวเค้ก ให้กลิ่นหอมของหอมเจียว เพิ่มรสเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยซอสมะขาม เติมความกลมกล่อมให้มากขึ้นด้วยความหอมหวานจากไวท์ช็อกโกแลตและไข่เค็ม ปิดท้ายด้วยการโรยพริกแห้ง เป็นเมนูสุดพิเศษที่ผสมผสานระหว่างของคาวและของหวานได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มให้ได้ลิ้มลองกันด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Bitter Orange with Ginger Juice (100 บาท) น้ำส้มซ่า ที่ให้ความหอมหวาน ช่วยเติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี หรือจะลองเป็น Torch Ginger Drink (100 บาท) ความหอมหวานของน้ำดอกดาหลา ที่มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดื่มแล้วช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ปิดท้ายด้วยความเปรี้ยวซ่าจาก Yuzu Lemon Honey (120 บาท) เครื่องดื่มที่ผสมผสานความเปรี้ยวอมหวานของน้ำส้มยูซุ เลมอน และน้ำผึ้งได้อย่างลงตัว
