จากเมนูอาหารยอดฮิตส่วนใหญ่ที่คนไทยนิยมสั่งมาทาน ซึ่งมักจะมีอยู่ไม่กี่อย่าง สับเปลี่ยนกันไปมาระหว่างข้าวผัด ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า และผัดกะเพราที่เมื่อไม่รู้จะสั่งอะไรมาทานเป็นอันต้องเลือกสั่งเมนูเหล่านี้ ทำให้ร้าน Easy! Buddy ร้านกะเพราสูตรเด็ดของ เชฟบัดดี้-ถมธนัตถ์ หทโยดม ได้ไอเดียในการเปลี่ยนนิยามของข้าวผัดกะเพราให้เปลี่ยนไปจากที่เคย กลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ที่ทำให้เมนูนี้น่าทานมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศสุดทันสมัย กับพิกัดร้านที่ตั้งอยู่ใน Dinning Hall ของโครงการ Glowfish Office บริเวณชั้น 2 อาคารสาทรธานี อีกหนึ่งพื้นที่ดี ๆ ที่สามารถนั่งทำงานและทานอาหารได้อย่างชิลล์ ๆ ตลอดทั้งวัน
โดยปกติแล้วในการทำอาหารแต่ละจาน มักจะมีเนื้อส่วนที่ไม่ได้นำมาใช้ถูกทิ้งไปให้เสียดาย เชฟบัดดี้ เชฟมากฝีมือที่พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าของร้าน Chef’s Table จึงเลือกที่จะนำเนื้อดี ๆ เหล่านั้น แยกส่วนจากที่ใช้เสิร์ฟในคอร์สอาหารมาทำเป็นเมนูไทย ๆ ปิดท้ายมื้อให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาทานอาหารแบบ Chef’s Table หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไอเดียการแยกส่วนเนื้อมาทำเป็นเมนูพิเศษนี้กลับกลายเป็นว่าได้รับความนิยมอย่างมากจนต้องเปิดร้าน Buddy to go ข้าวผัดกะเพราแบบเดลิเวอรี่บนพื้นที่ดี ๆ ในโครงการ Glowfish Office ให้ชาวสาทรได้มาลิ้มลองผัดกะเพราในรูปแบบที่ต่างออกไป แน่นอนว่าเมนูเด่นของทางร้านนี้คือข้าวผัดกะเพรา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่หลายคนเคยทานกันนั้นจะเป็นข้าวผัดกะเพราแบบราดข้าว แต่สำหรับที่ Easy Buddy แล้ว เป็นการเสิร์ฟข้าวผัดกะเพราในแบบคลุกเคล้าที่เข้าถึงรสชาติของกะเพราได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่เมนูรองท้องน่าลิ้มลองอย่าง Crispy Wonton with Chinese Sausage and Black Truffle (200 บาท) เกี๊ยวทอดที่เพิ่มความพิเศษด้วยการสอดไส้หมูสับผสมกับกุนเชียง พร้อมเสิร์ฟมาคู่กันกับน้ำจิ้มหวาน หรือหากใครชอบทานเมนูข้าวเหนียวแบบบ้าน ๆ แนะนำให้ลองทาน So Full Two Hundred (200 บาท) จานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากข้าวเหนียวจิ้มน้ำหมูปิ้ง กลายมาเป็นข้าวเหนียวผัดกะเพรารสชาติแบบถึงเครื่องที่เสิร์ฟมาคู่กับท็อปปิ้งไข่เป็ดดาวและเนื้อเซอร์ลอยหมัก ต่อกันที่เมนูซิกเนเจอร์อย่าง Buddy’s Favourite (250 บาท) เมนูกะเพราที่สามารถเลือกวัตถุดิบมาสร้างสรรค์ความอร่อยได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทางร้านแนะนำเป็นข้าวสวยร้อน ๆ ผัดกับเครื่องกะเพราและเนื้อสับคั่ว เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้งเนื้อสันนอกที่ให้รสชาติเข้ากันดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ไข่เป็ดดาว ข้าวโพดกริลล์ และน้ำพริกกากหมูแบบไทย ๆ ที่มาเติมความแซ่บมากยิ่งขึ้น แต่หากใครอยากลองทานแบบอื่น ๆ ก็สามารถเลือกท็อปปิ้งและวัตถุดิบในแบบที่ชอบได้เช่นกัน จะทานพร้อมข้าวสวย ข้าวเหนียว ควินัว หรือเส้นหมี่ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน จากนั้นปิดท้ายกันด้วย Healthy by any chance ? (320 บาท) กะเพราควินัวที่ให้รสเข้มข้นของกะเพราแบบถึงเครื่อง ทานคู่กับท็อปปิ้งแนะนำอย่างแซลมอนและไข่ออนเซ็น จานนี้ได้รสจัดจ้านแบบไทย ๆ อีกทั้งทานแล้วยังสุขภาพดีอีกด้วยEasy! Buddy
Dining Hall at Glowfish Office ชั้น 2
เปิดทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-20.30 น. และวันศุกร์ เวลา 10.00-21.00 น.
www.facebook.com/Easybuddybkk