Haoma เสิร์ฟมื้อพิเศษในบรรยากาศสวนสมุนไพร

Haoma อีกร้านอาหารดี ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Causal Fine Dining ให้คุณรู้สึกเหมือนทานอาหารอยู่ในฟาร์ม มีสีเขียวและความร่มรื่นของต้นไม้ให้บรรยากาศสบาย ๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ ปูนเปลือย และกระจกบานใหญ่รับแสงธรรมชาติจากด้านนอก เสิร์ฟมื้ออร่อยให้คุณได้ใช้เวลาซึมซับช่วงเวลาดี ๆ ได้อย่างเต็มที่ มีทั้งโซนแอร์เย็นฉ่ำ ๆ ด้านในร้านและโซน Out Door ด้านนอกใกล้ชิดกับสวนนั่งสบาย มีไฟสีส้มอบอุ่นเปิดในตอนเย็น เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ

แถมทุกเมนูสะอาดมีคุณภาพ เพราะ เชฟ Deepanker Khosla เชฟหนุ่มชาวอินเดียนั้นให้ความสำคัญกับความสดใหม่ของวัตถุดิบเป็นพิเศษด้วยการปลูกผักและสนุนไพรที่ต้องใช้ในครัวไว้ที่ส่วนของสวนด้านข้าง และยังมีการเลี้ยงปลาไว้ด้านหลังอีกด้วย  จึงมั่นใจได้เลยว่าทุกจานของที่นี่สะอาด สดใหม่ปลอดภัยแน่นอน
อาจมีหลายคนสงสัยในชื่อของร้านว่า Haoma มาจากไหน จริง ๆ แล้วร้านนี้ตั้งชื่อจากภาษาโบราณ Haoma แปลว่าจิตวิญญาณของต้นไม้ เพราะตามโบราณนั้นเชื่อกันว่าต้นไม้เป็นจุดเชื่อมต่อของทุกอย่างบนโลก ดังนั้นการตั้งชื่อนี้จึงเป็นการเคารพธรรมชาติ และเป็นสัญลักษณ์แสดงความอุดมสมบูรณ์
สำหรับเมนูใหม่ในครั้งนี้เป็นแบบ 7 Couse โดยจานแรกเป็นการเริ่มต้นรีเฟรชวันของคุณให้พร้อมกับมื้ออร่อยที่จะตามมาอีกหลายจาน กับสตรอเบอร์รี่สดลูกโตในเมนู Laoto - fermented Lacal Berries ที่เชฟเลือกเสิร์ฟสตรอเบอร์รี่คลุกกับซอสให้รสหวานเค็ม ทานคู่กับข้าวเกรียบและซอสมะขามรสออกเปรี้ยว และปิดท้ายด้วยแตงโมชิ้นเล็กที่ซ่อนชีสและแตงกว่าอยู่ด้านล่าง จานต่อมาคือ Egg, Smoked Hollandaise ที่มีส่วนผสมของเฮเซลนัทและ Burnt Butter โดยจานนี้เป็นการแยกไข่แดงและไข่ขาว โดยนำไข่แดงไป Smoke และไข่ขาวมาปรุงใหม่ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสใบหูเสือ และยังมีขนมปังแบบ Local, เนยผสมเครื่องเทศ และ Semi-Dried Tomatoes หอมกลิ่นเนยและยังได้รสเย็น ๆ ของสมุนไพรอีกด้วย
ต่อที่จานให้ความสดชื่นสดชื่นอย่าง Scallop ในซอสมะนาว จานนี้เชฟใช้ Scallop ชิ้นใหญ่ผ่านบาง ๆ เรียงไว้ปนกับลูกตาลฝานบางเช่นกัน ก่อนราดด้วยน้ำมะนาว ในจานยังมีส่วนประกอบของ Avocado, Green Mango, Tiger Milk, Quinoa และ Pickled Chilli ที่เมื่อทานรวมกันแล้วอร่อยกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างดี ต่อมาเป็นจานที่เชฟภูมิใจนำเสนอกับ Chicken Liver Maxnum ที่เชฟใช้ตับไก่บดมาปั้นเป็นแท่ง เสียบไม้ด้านล่างก่อนนำไปชุบกับช็อกโกแลต เสิร์ฟมาพร้อมกับฟักทอง หน้าตาเหมือนของหวานแต่เป็นจานอาหารคาว ถือเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นของวันนี้ มาที่จานหลัก Duck & Chicken Sandwich เชฟนำเนื้อเป็ดและเนื้อไก่มาม้วนเข้าด้วยกัน โดยใช้เทคนิคให้เนื้อทั้งสองติดกันด้วย Natural Gum ที่คล้ายยางไม้มาเป็นตัวเชื่อม ราดด้วยซอสจากเปลือกมันฝรั่ง เรียกได้ว่าอร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี

ขั้นด้วย  Balsamic Strawberry Vanilla Whey ที่มีส่วนผสมของใบหูเสือ หรือ Indian Borage ให้รสเย็นและกลิ่นหอม
ปิดท้ายคอร์สด้วย ไอศกรีมเกล็ดตะวัน เสิร์ฟมาพร้อมกับ Caramelized Milk Bread, Sunchock, Wood Ants, Charcoal และ Cocoa nib ถือเป็นอีกหนึ่งของหวานจานเยี่ยมล้างปากได้เป็นอย่างดี ปิดมื้ออิ่มท้องสุขใจมื้อนี้ได้อย่างน่าประทับใจ