ช่วงนี้ใครเบื่อ ๆ เหงา ๆ เราขอชวนมาเติมน้ำตาลเพิ่มหวานความความสดใสที่ 5 คาเฟ่ขนมหวานแบบไทย ๆ นอกจากร้านจะน่ารัก บรรยากาศดี เครื่องดื่มและขนมหวาน ยังจัดวางมาอย่างสวยงามให้ได้เก็บภาพสวย ๆ สำหรับโพสท์ลงโซเชียลได้อีกด้วย
เมื่อความเก๋ไก๋ของคาเฟ่ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เพียงความน่ารักหรือสัญชาติของขนมเท่านั้น หากแต่เป็นการเลือกนำเสนอคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างออกไปก็สามารถสร้างความน่าสนใจให้ตัวคาเฟ่ได้ไม่แพ้กันเช่นเดียวกับ KANOM CHAN Thai Dessert Rooftop Bar คาเฟ่ขนมไทยและรูฟท็อปบาร์ใจกลางย่านบางลำพูที่ตั้งอยู่บนชั้น 5 บริเวณดาดฟ้าของโรงแรม Na Banglampoo เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูขนมไทยรสต้นตำรับ พร้อมปรับรูปลักษณ์หน้าตาขนมไทยใหม่ให้ดูทันสมัยและน่าทานมากยิ่งขึ้น
KANOM CHAN Thai Dessert Rooftop Bar ตกแต่งร้านด้วยธีมบรรยากาศของบ้านเรือนไทย แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือคาเฟ่ด้านในและรูฟท็อปด้านนอก โดยทั้ง 2 ส่วนนี้ต่างก็พรีเซ็นต์ความเป็นไทยผ่านการเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์สไตล์ไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาวม้า ร่มแดง หมอนอิง เครื่องสาน แคร่ โต๊ะ-เก้าอี้ไม้ไผ่
เริ่มจากขนมไทยซิกเนเจอร์อย่าง ขนมครก (95 บาท) ขนมครกตามตำรับชาววังที่เสิร์ฟมาบนกระทะทองเหลือง โดยสามารถเลือกท็อปปิ้งหรือหน้าต่าง ๆ ได้ตามต้องการ อาทิ ต้นหอม เผือก ข้าวโพด ฝอยทอง มะพร้าว งา และกุ้ง เป็นต้น ขนมครกของที่นี่ให้แป้งขอบแบบกรอบนอกนุ่มใน มีรสหวานน้อยเข้ากับท็อปปิ้งหน้าต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ที่ห้ามพลาดเห็นจะเป็นเมนูที่ใช้ชื่อเดียวกันกับชื่อร้านคือ ขนมชั้น (65 บาท) ที่ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมแป้งท้าวยายม่อมมาเซ็ตตัวแบ่งเป็นชั้น ๆ เนื้อสัมผัสนุ่มหนุบหนับ เป็นรูปพิมพ์ดอกกุหลาบ เสิร์ฟแบบคำเล็ก ๆ ให้รสหวานกำลังดี (ส่วนใครที่อยากทานขนมฟักทอง ขนมกล้วย ทางร้านก็มีเสิร์ฟให้ในลักษณะเดียวกัน)
หรือลองสั่ง ข้าวเหนียวทุเรียน (95 บาท) ใครที่ชอบทานทุเรียนเมนูนี้ทางร้านมีให้ทานตลอดทั้งปีแม้จะไม่ใช่หน้าฤดูกาล สำหรับข้าวเหนียวทุเรียนของที่นี่แตกต่างจากที่อื่นตรงที่การคัดสรรวัตถุดิบที่ส่งตรงมาจากแหล่งวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อทั้งสิ้น ทั้งทุเรียน ข้าวเหนียวมูน และน้ำกะทิจึงให้รสละมุน ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
KANOM CHAN Thai Dessert Rooftop Bar
ชั้น 5 โรงแรม ณ บางลำพู
เปิดทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 00.00 น.
โทร 08-5484-4044
www.facebook.com/kanomchanthaidesserts
สัมผัสรสชาติและเสน่ห์ของขนมไทยได้แล้วที่คาเฟ่เล็ก ๆ ด้านหน้าของโรงแรมสยามนิทรา ติดกับสะพานหัวช้าง ย่านราชเทวีอย่าง เฌอชีวา ที่คุณเขม เจ้าของร้านได้นำสูตรขนมไทยของทางบ้านจากคุณตาคุณยายมาถ่ายทอดผ่านกรรมวิธีสุดวิจิตรบรรจงแบบไทย ๆ ทำสดใหม่ทุกวัน ให้ผู้คนได้ซึมซับเสน่ห์ความเป็นไทยเหล่านี้ไปด้วยกัน
ทางร้านแนะนำเซ็ต Afternoon Tea ให้ได้นั่งทอดอารมณ์ จิบชาคู่การทานขนมไทยที่เพิ่มความหรูหราด้วยการตั้งชื่อตามชั้นของสวรรค์ ตั้งแต่ ยามา (490 บาท) หรือเซ็ตตู้ทองที่ประกอบด้วยขนมมงคล 9 อย่าง พร้อมชาร้อน 1 กา
หรือจะเป็น เซ็ตดุสิตา (590 บาท) รวมขนมไทย ขนมมงคลคู่กับชาร้อน และเซ็ตยอดฮิตอย่าง นิมมานรดี (790 บาท) ชุดชายามบ่ายที่หรูหราไปด้วยความสวยงามวิจิตรของขนมไทยหลากหลายชนิด ทั้งขนมมงคลต่าง ๆ, ข้าวเหนียวมะม่วง, ขนมกะทิที่เปลี่ยนไปทุกอาทิตย์ และสามารถเลือกชาร้อนหรือน้ำสมุนไพรสูตรเก่าแก่ของทางร้านได้อีก 2 แก้ว
หรือใครต้องการแก้วเย็นชื่นใจ ลองสั่ง น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ (120 บาท) เพิ่มสีสันและความสวยงามด้วยสีแดงทับทิม รสหวานหอมอมเปรี้ยวนิดหน่อยสไตล์สาวหวาน
Cher Cheeva Thai Dessert Cafe
สะพานหัวช้าง ถนนพญาไท
เปิดทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 12.00 - 18.00 น.
โทร 06-2445-5565
www.facebook.com/chercheeva
เวฬาฌา (เว-ลา-ชา) คาเฟ่ในย่านอารีย์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมการดื่มชาจากหลากหลายประเทศมารวมไว้ที่นี่โดยคุณปอย จินตวรรณ เจ้าของร้านที่ชื่นชอบในการดื่ม Afternoon Tea และเลือกหยิบขนมหวานของไทยมาทานคู่กับชาคุณภาพดีกว่า 40 ชนิด
ลองสั่ง ขนมไทยรวม (290 บาท) เซ็ตขนมไทยยอดนิยมเสิร์ฟในเข่งสาน ขนทัพมาทั้งตะโก้ ลูกชุบ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง กลีบลำดวนและอาลัว แต่ถ้าใครมากันน้อยหรือมาคนเดียวจะสั่งแบบจานเดี่ยว เมนูละ 49 บาทก็ได้
ต่อกันที่เมนูหวานเย็นแบบไทย ๆ อย่าง ขนมทับทิมกรอบ (89 บาท) น้ำแข็งไสเสิร์ฟกับเครื่องทับทิมกรอบและน้ำกะทิในถ้วยขนมแบบไทย ๆ
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเมนูดับร้อนเหมาะกับอากาศประเทศไทยอย่าง กล้วยเชื่อมไอศกรีมกะทิ (89 บาท) กล้วยเชื่อมแบบไทย ๆ เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมกะทิรสชาติไม่หวานจนเกินไป ทำให้เมื่อกล้วยเชื่อมและไอศกรีมรวมกันจะได้รสชาติที่พอดี
เวฬาฌา
BTS อารีย์
เปิดทุกวันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 10.00 - 20.00 น.
www.instagram.com/v_lacha/?hl=th
วันดีคาเฟ่ คาเฟ่สไตล์ไทยที่นำขนมไทยมาดัดแปลงให้เป็นไอศกรีมหลากหลายรสชาติ โดยทางร้านได้เลือกใช้วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของไทยมาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำไอศกรีม เพื่อให้ได้รสชาติไทยแท้ และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองในแต่ละเมนู
ทางร้านได้นำขนมไทยมาดัดแปลงให้เป็นไอศกรีม และมีรสชาติหลากหลาย ลองสั่งเมนูขายดี อย่าง ไอศกรีมกะทิหน้ากุ้ง (99 บาท) ไอศกรีมเนื้อตาลโตนดและกะทิ ทานกับข้าวเหนียวมูน ไส้มะพร้าวกุ้ง และทองม้วนกรอบ มีให้เลือกทั้งรสหวานและรสเค็ม
ต่อด้วยเมนู ไอศกรีมชาชัก (99 บาท) ทำจากชาใต้ศรีลังกา เบลนด์ชาจนได้หัวชาที่เข้มข้น ก่อนจะนำชามาชักหลาย ๆ รอบ แล้วนำไปปั่นจนได้เป็นเนื้อไอศกรีม ทานกับ เจลลี่น้ำตาลทรายแดง ไข่มุกหนึบ ๆ และโรตีกรอบ
หรือจะลองอีกหนึ่งเมนูที่ขายดี อย่าง ไอศกรีมขนมตาล (189 บาท) ไอศกรีมรสขนมตาล และไอศกรีมรสกะทิสูตรหอม หวาน เข้มข้น ราดครีมกะทิด้านบนพร้อมโรยมะพร้าวคั่ว เสิร์ฟพร้อมขนมตาลอุ่นนึ่งร้อน ๆ ให้ทานเป็นท็อปปิ้งคู่กัน
วันดีคาเฟ่
พหลโยธินซอย 7
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 12.30 น.
โทร 09-4146-4049
www.facebook.com/onedeecafe
นอกจากถนนข้าวสารจะเป็นแหล่งรวมตัวของชาวต่างชาติแล้ว ถนนเส้นนี้ก็เต็มไปด้วยร้านสตรีทฟู้ดหลากหลายสไตล์ และหนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ขนมไทยหนึ่งเดียวในย่านนี้ กับ เสน่ห์ ร้านขนมไทยโฮมเมดระหว่าง 3 หุ้นส่วน คุณหนุ่น ธัญชิตา, คุณกอล์ฟ กฤษดา และคุณท้อ สุปรีดา ที่นอกจากจะเสิร์ฟขนมไทยและเครื่องดื่มดี ๆ แล้ว ทางร้านยังมีจัดเวิร์คช็อปขนมไทยทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และวันเสาร์อีกด้วย
ลองชิมขนมมงคลที่หาทานยากทั้ง ทองเอก (70 บาท/เซ็ต) ขนมทองเอกสีเหลืองสดที่ได้จากไข่ไก่ พิมพ์ลายดอกไม้สวยงาม ก่อนจะติดทองคำเปลวเพิ่มความเป็นสิริมงคล
ส่วน เสน่ห์จันทร์ (70 บาท/เซ็ต) เป็นขนมที่หมายถึงต้นจันทน์ มีกลิ่นหอม ชวนหลงใหล และให้สีเหลืองสด โดยวิธีการทำขนมทั้งคู่จะคล้ายกัน แตกต่างกันที่ทองเอกจะเติมกลิ่นมะลิ ส่วนเสน่ห์จันทร์จะเติมกลิ่นชินนามอน
และในบางวันทางร้านก็มีขนมโบราณหาทานยาก อย่าง บุหลันดั้นเมฆ (60 บาท/ชิ้น) แป้งข้าวเจ้าใส่น้ำลอยดอกมะลิ เรียงใส่ถ้วยตะไลแล้วนึ่งให้สุกปานกลาง หยอดสังขยาไข่แดงแล้วนึ่งต่อจนสุก จะมีความหนึบ ๆ ของแป้ง และความหวานมันของสังขยา เป็นสูตรชาววังที่ทางร้านแนะนำให้ลอง
เสน่ห์
ข้าวสาร
เปิดทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 12.00 น.
โทร 06-3541-4964
www.facebook.com/sane.workshop