ปักหมุดที่สุดของ 6 ร้านอาหารอิตาเลียน ที่เหล่าฟู้ดดี้ชาว Bangkokian ต้องตามไปลิ้มลอง!

Published on September 23, 2022

เอาใจ Italian Food Lovers ด้วยการเปิดวาร์ปหลากหลายร้านอาหารอิตาเลียนคุณภาพที่เต็มไปด้วยความพรีเมียม ทั้งในแง่ของวัตถุดิบที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดี รวมถึงความพิถีพิถันในการปรุงอาหาร เพื่อให้ได้รสชาติและมาตรฐานตามแบบดั้งเดิม พร้อมเพิ่มเติมการนำเสนอความโมเดิร์นลงไปได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

และหากใครที่กำลังมองหาร้านอาหารอิตาเลียนชั้นนำในกรุงเทพฯ เพื่อแวะไปรับประทานอาหหารร่วมกับคนพิเศษอยู่ละก็ ครั้งนี้ได้มีการรวบรวม 6 สุดยอดร้านอาหารอิตาเลียนที่ล้วนผ่านการคัดสรรจากหนังสือ KTC Culinary Collective in Bangkok, Chiang Mai & Phuket ทั้งยังพ่วงความเอ็กซ์คลูซีฟมากับโปรโมชันสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท ให้ได้เลือกไปอิ่มอร่อยอย่างคุ้มค่า ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ดี ๆ รับคะแนน KTC FOREVER สุดสูง x10* เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ร้านอาหารที่ร่วมรายการ สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตอบโจทย์การรับประทานอาหารมื้อพิเศษอีกด้วย รับรองว่าสายอาหารอิตาเลียนตัวจริงคนไหนได้ตามไปเช็กอิน จะต้องฟินไปกับความอร่อยสุดประทับใจแน่นอน

1.ÑAM ÑAM PASTA AND TAPAS


ÑAM ÑAM PASTA AND TAPAS ร้านพาสต้าเส้นสดโฮมเมดที่ได้มีการหยิบยืมชื่อร้านอาหารมาจากภาษาสเปน อ่านออกเสียงว่า ‘ยัมยัม’ ที่แปลว่า ‘อร่อย’ ผ่านการรังสรรค์โดย ‘เชฟน้ำ-ปุณฑริก พงษ์พานิช’ ซึ่งเคยมีโอกาสไปเรียนทำพาสต้าเส้นสดสไตล์โฮมเมดกับคุณยายชาวอิตาลี ณ เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ทำให้เส้นพาสต้าของที่นี่โดดเด่นด้วยเทคนิคแฮนด์คราฟต์ โดยมีประเภทเส้นพาสต้าให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Spaghettini, Reginette, Linguine, Fettucini, Fusilli, Bucatini, Rigatoni, Gemelli, Pipe Rigate และ Creste Di Galo Rigate รวมถึงประเภท อื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน รวมถึงการเฉพาะเจาะจงนำเข้าแป้งทำเส้นพาสต้ามาจากอิตาลีท่ีเดียวเท่าน้ัน

บรรยากาศภายใน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง บวกความพิเศษด้วยห้องเล็ก ๆ แยกเป็นส่วนตัวเพื่อเผยให้เห็นครัวเปิด โชว์กรรมวิธีทำเส้นสดแบบจานต่อจาน


 

ÑAM ÑAM PASTA AND TAPAS (Photo by KTC Culinary Collective)

ด้วยมุมมองของเชฟน้ำที่เลือกนำเส้นพาสต้ามาเป็นสื่อกลางในปรุงอาหาร จึงคัดสรรวัตถุดิบต่าง ๆ มาผสมผสานอย่างหลากหลาย สร้างกิมมิกด้วยรูปร่างหน้าตาของเส้นพาสต้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งสารพันเมนูของทางร้านนั้น เน้นความเรียบง่ายตามแบบต้นตำรับอาหารอิตาเลียน ทว่าแอบหยอดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปให้ได้ความอร่อยไม่ซ้ำแบบ

เริ่มต้นกันที่จานแรกกับ ‘Roasted Veggie Salad’ รวมมิตรพืชตระกูลหัวอย่างบีทรูท แครอท แก่นตะวัน ที่นำไปย่างและอบจนมีรสหวานอ่อน ๆ คลุกเคล้ากับทรัฟเฟิลออยล์ น้ำมันมะกอก และครีมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โรยหน้าด้วยเฮเซลนัทกรุบกรอบ ส่วนน้ำสลัดเบสเป็นบัลซามิก ส่วนความพิเศษอยู่ที่การเสิร์ฟสลัดด้วยอุณหภูมิที่อุ่น แถมได้ใจนักชิมสายวีแกน เพราะจานนี้ปราศจากผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อสัตว์

ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูวีแกนหน้าตาน่าทานอย่าง ‘Mush-room Tortellini’ พาสต้าทรงเกี๊ยวสอดไส้เห็ดรวม ใช้เทคนิคการผัดเพื่อดึงความหอมตามธรรมชาติของเห็ดให้พาสต้าจานนี้มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยจะเสิร์ฟมากับซอสมะเขือเทศบด ได้เท็กซ์เจอร์ทั้งเนื้อและน้ำมะเขือเทศที่มาช่วยชูรสอีกระดับ หรือจะเป็นจานคลาสสิกขายดีประจำร้านอย่าง ‘Reginette Bolognese’ ที่เน้นรสชาติของเนื้อที่แน่นแต่นุ่ม พร้อมด้วยมะเขือเทศเชอร์รีที่ช่วยเติมความหวาน ผสมผสานเข้ากับผักหลากหลายชนิด เช่น หอมใหญ่ เซเลอรี แครอท ที่นำไปตุ๋นจนกระทั่งได้เนื้อสัมผัสนิ่มเคี้ยวง่าย ให้รสเค็มนิด ๆ มันหน่อย ๆ อร่อยละมุนลิ้น

 

‘Mush-room Tortellini’ พาสต้าทรงเกี๊ยวสอดไส้เห็ดรวม หนึ่งในเมนูวีแกนน่าลองของทางร้าน (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท
รับฟรี เมนู Panna Cotta 1 ที่ มูลค่า 130 บาท เมื่อรับประทานครบ 1,200 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

1 ส.ค. 65 - 31 ม.ค. 66


ÑAM ÑAM PASTA AND TAPAS
RQ.49Mall กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
โทร. 098 520 8026
www.namnampasta.com
www.facebook.com/namnampastaandtapas
www.instagram.com/namnampastaandtapas


2.CONTENTO


ด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวมาทั่วทุกมุมโลกของ ‘คุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน’ ทำให้จุดประกายเกิดเป็นร้านอาหารอิตาเลียน ชื่อ CONTENTO ที่มีความหมายว่า ‘มีความสุขสำราญ’ ขึ้นมา เพื่อให้เป็นตัวแทนความสุขที่เกิดจากการเดินทาง เสมือนจุดนัดพบปะสังสรรค์ของคนที่รักการท่องโลก รวมถึงเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เขาจะแบ่งปันสูตรอาหารจานอร่อยจากความประทับใจในระหว่างทริปเดินทาง

ร้านอาหารแห่งนี้เป็นการดึงกลิ่นอายความเป็นอิตาลีวินเทจมาใช้ในการสร้างตัวอาคาร เมื่อผลักประตูสู่ด้านในจะพบบันไดวนที่ทอดตัวขึ้นไปสู่ช้ัน 2 ซึ่งตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนบ้านของศิลปินหรือนักสะสมงานศิลป์ชาวอิตาลีใจกลางกรุงโรมหรือมิลาน

ส่วนช้ันล่างให้บรรยากาศเหมือนร้านอาหารอิตาเลียนแบบบ้าน ๆ ที่พบเห็นได้ตามชนบททางตอนใต้ของอิตาลี โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหัวใจหลักในการตกแต่งพื้นหินขัด กำแพงปูกระเบื้อง เครื่องครัววินเทจ ตลอดจนการตกแต่งที่ทางร้านจะหมุนเปลี่ยนโดยยึดตามฤดูกาลของอิตาลี อย่างช่วงฤดูร้อนกลางปี วิถีชีวิตผู้คนในอิตาลีตอนใต้จะนิยมรับประทานเลมอนกันมาก ทางร้านก็เลือกประดับประดาไปด้วยซุ้มเถาเลมอน ให้ความรู้สึกราวกับกำลังนั่งรื่นรมย์กับอาหารกลางสวนเลมอน

 

CONTENTO (Photo by KTC Culinary Collective)

อาหารของท่ีนี่นำเสนอรสชาติจัดจ้านตำรับอิตาเลียนตอนใต้ อย่างเมนูแรก ‘Naked Tomatoes’ เพียงแรกกัดก็สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำสดชื่นถึงเนื้อใน เพราะใช้เทคนิคการจุ่มมะเขือเทศลงในน้ำร้อนเดือด แล้วนำมาลอกเปลือกออก วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อมะเขือเทศดูดซับซอสพอนสึที่หมักทิ้งไว้ข้ามคืนแบบเข้าเนื้อ เสิร์ฟคลุกเคล้ามากับชีสสด ยอดผักมิซูนา และขนมปังซาวร์โดว์อบกรอบ

จานสองหน้าตาสวยงามเสิร์ฟมาในหม้อหูจับ ‘Porcini Croquette’ โดยครอแก็ตสูตรทางร้านจะแตกต่าง เพราะกัดแล้วเนื้อในที่เป็นเห็ดรวมมิตรกับชีสจะไหลเยิ้มออกมาเป็นลาวา ท็อปปิ้งด้วยหมูดำไอเบอริโกจากสเปน รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นอโรมาของเห็ดติดปลายจมูก ตามมาด้วยเมนู ‘Pan Chicken’ ซึ่งถือเป็นจานโปรดในความทรงจำของคุณอู้สมัยอยู่เมืองฟลอเรนซ์ เป็นไก่นุ่มกับเนยชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟมาในกระทะที่ยกขึ้นจากเตาร้อน ๆ ส่วนใครที่อยากล้างปากด้วยเครื่องดื่มสักแก้ว ขอแนะนำ ‘Sangria’ ที่ทางร้านใส่น้ำสับปะรดคั้นสดผสมลงไปด้วย ทำให้มีรสหวานอมเปรี้ยวไม่ซ้ำสูตร Sangria ทั่วไป แถมด้วยก้านซินนามอนเผาตอนเสิร์ฟ เพื่อเพิ่มกลิ่นสโมคกี้ ตลอดทั้งมื้ออาหารจึงได้อารมณ์เหมือนเดินทางไปเยือนอิตาลีผ่านบรรยากาศและรสชาติอาหารต้นตำรับ

 

‘Porcini Croquette’ เมนูครอแก็ตสูตรของทางร้าน สร้างความแตกต่างด้วยการสอดไส้เห็ดรวมมิตรและชีสลาวา ท็อปปิ้งด้วยหมูดำไอเบอริโกจากสเปน (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท
รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อรับประทานครบ 3,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป 

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

1 ส.ค. 65 - 31 ม.ค. 66


CONTENTO
โรงสำราญ ถนนไมตรีจิตต์ กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 17.00-23.00 น.
โทร. 090 898 2397
www.facebook.com/CONTENTOBKK
www.instagram.com/contentobkk

3. LA BOTTEGA


LA BOTTEGA อีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนท่ีเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของศิลปะแห่งอาหารชั้นสูง นำเสนอในรูปแบบที่ร่วมสมัยเข้าใจง่าย ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบในทุก ๆ จาน นำทีมสร้างสรรค์ความอร่อยโดย ‘เชฟลูก้า แอปพิโน (Luca Appino)’ เชฟชาวอิตาลีผู้ปลุกกระแสร้าน Enoteca ให้โด่งดังติดลมบน ก่อนจะมาเปิดร้านอาหารของตัวเองในช่ือ La Bottega di Luca เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ร่วมด้วย ‘เชฟมาร์โค อวาซานี (Marco Avesani)’ มาช่วยเสริมทัพในฐานะหัวหน้าเชฟอีกคน

บรรยากาศการตกแต่งร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ภายในร้านอาหารแนว Trattoria ในย่านชุมชนหรือเมืองชนบทของอิตาลี บริเวณระเบียงด้านนอกเปิดรับแสงธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยเงาต้นไม้ร่มรื่น ส่วนด้านในให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์อิฐผสมไม้ ผนังประดับภาพวาดสีสัน สวยสดใส สอดรับกับเบาะเก้าอี้และโซฟาสีส้มสดโดดเด่น พร้อมด้วยห้องครัวใหญ่กรุกระจกใส เผยให้เห็นความคึกคักและทุกขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟมากฝีมือ

 

LA BOTTEGA (Photo by KTC Culinary Collective)

แต่ละเมนูของที่ร้านหยิบยืมแรงบันดาลใจมาจากอาหารอิตาเลียนตอนใต้สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน พร้อมทั้งผสมผสานแนวคิดและสไตล์ของทั้งเชฟลูก้าและเชฟมาร์โค ลงไปด้วยเพื่อรังสรรค์รสชาติอันเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ เสิร์ฟมาในรูปแบบสวยงาม ตั้งแต่ภาชนะไปจนถึงอาหารพอร์ชันใหญ่ที่สามารถแบ่งกันรับประทานได้หลายคน

เมนูแนะนำจานแรกคือ ‘Crunchy Frisée Salad’ สลัดผักใบหยักและผักร็อกเก็ต จับคู่มากับแอปเปิ้ลเขียวเนื้อสดกรอบ ด้านล่างเป็นถั่วหลากชนิด เพราะเชฟมาร์โคได้แนวคิดมาจากอาหารท้องถิ่นสมัยเขายังเด็ก ซึ่งในหลายๆ เมนูที่เขาโปรดปรานมักจะมีถั่วเป็นส่วนประกอบเสมอ บวกกับเบคอนกวนชาเล (Guan- ciale) ที่ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสขณะเคี้ยว แล้วราดเดรสซิ่งเข้มข้นจาก Smoked Maple Syrup ตัดหวานด้วยรสเปรี้ยวนิด ๆ จากมะนาวและเลมอน ต่อมาว่ากันด้วยเมนูพาสต้าโฮมเมด ‘Fettuccine Alla Norcia’ เส้นเฟตตูชินีที่ทำกันสด ๆ คลุกเคล้ากับซอสสไตล์เมืองนอร์เซีย (Norcia) ซึ่งเข้มข้นเป็นพิเศษ เพิ่มผิวสัมผัสด้วยทรัฟเฟิลสดและก้านโรสแมรี่ที่มาเติมกลิ่นอโรมา ตัดรสหนัก ๆ ด้วยจานปลา ‘Sea Bream Carpaccio’ ปลาทรายแดงหรือปลากะพงสีน้ำเงินสด แล่เป็นชิ้นบาง ๆ วางสลับกับกลีบส้ม ราดซอนพอนสึชุ่มฉ่ำ แล้วบีบเลมอนปิดท้าย เป็นเมนูเบา ๆ ที่รับประทานง่ายไม่หนักท้อง

จบมื้อด้วย 'Tiramisu' ของหวานสุดคลาสสิกของอิตาลีที่ดีไซน์หน้าตาขนมให้ดูนุ่มเบาและทันสมัยยิ่งขึ้น ประกอบด้วย มูสมาสคาโปนชีส เมอแรงก์ ครัมเบิลกาแฟเอสเพรสโซและช็อกโกแลตชิพกรอบบาง ช่วยให้อิ่มฟินแบบครบรสตามแบบฉบับอาหารอิตาเลียนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน


 

‘Crunchy Frisée Salad’ สลัดผักใบหยักและผักร็อกเก็ต หนึ่งในเมนูจานเรียกน้ำย่อยแนะนำของทางร้าน (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท
รับฟรี เครื่องดื่ม Welcome Drink 1 ที่ มูลค่า 350 บาท / 1 ท่าน (จำกัด 6 ที่ / โต๊ะ / เซลส์สลิป)

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

1 ส.ค. 65 - 31 ม.ค. 66


LA BOTTEGA
เดอะ 49 เทอเรซ ซอยสุขุมวิท 49
เปิด วันจันทร์ เวลา 17.30-23.30 น.
วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30-23.30 น.
โทร. 02 204 1731, 097 114 7342
www.labottega.name
www.facebook.com/labottegabangkok
www.instagram.com/labottegabangkok

4.PIZZA MASSILIA


PIZZA MASSILIA หนึ่งในร้านพิซซ่าในเมืองไทยที่มอบรสชาติอันเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของอิตาเลียนแท้ ๆ มาพร้อมแนวตกแต่งร้านในสไตล์บาโรก (Baroque) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองมากในฝรั่งเศสยุคศตวรรษที่ 17 บรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกโอ่อ่าชวนฝัน ด้วยผนังสีฟ้าพาสเทล สลับกับวอลล์เปเปอร์ลวดลายลูกไม้ฉลุ เก้าอี้หวาย สานหุ้มเบาะพิมพ์ลายดอกไม้ ส่วนกลางร้านนั้นติดตั้งเตาผิงจำลอง ที่ด้านบนจัดวางกรอบรูปและงานปูนปั้นวินเทจ ขนาบสองด้านข้างด้วยกระจกบานโค้งสีขาวสูงจรดเพดาน โดดเด่นด้วยเตาอบพิซซ่าปูกระเบื้องสีทองที่สร้างสรรค์โดยสเตฟาโน เฟอร์รารา (Stefano Ferrara) โดยใช้หินภูเขาไฟนำเข้าจากคัมปาเนีย (Campania) มาเป็นเชื้อเพลิง

ในส่วนของอุปกรณ์และวัตถุดิบต่าง ๆ ทางร้านเน้นนำเข้าแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแป้งโม่หินจากอิตาลีสำหรับใช้ทำโดวจ์ ในขณะที่พิซซ่านั้นทางร้านเลือกใช้แป้งออร์แกนิกของ Mulino Marino ที่หมักนานถึง 72 ชั่วโมงจนฟูนุ่ม ตลอดจนของสดต่าง ๆ อาทิ มอร์ตาเดลลา (Mortadella) โคลด์คัทจากเมืองโบโลญญา มะเขือเทศซานมาร์ซาโน (San Marzano Tomato) มะเขือเทศที่การันตีด้วยระบบ DOP, ชีสบูราต้า (Burrata) จากหมู่บ้านแอนเดรีย (Andrea) ใน Puglia และมะเขือเทศเพียนโนโล (Piennolo Tomato) จาก Vesuvio

 

PIZZA MASSILIA (Photo by KTC Culinary Collective)

มาถึงที่นี่ พิซซ่าเท่านั้นที่ต้องสั่งมาชิมเป็นจานแรก ขอแนะนำ ‘Black Truffle Pizza’ พิซซ่าแป้งหนาแบบคลาสสิก ตามสไตล์เนเปิลส์ หอมกลิ่นครีมทรัฟเฟิล โรยหน้าด้วยกวนชาเล (Guanciale) เบคอนแก้มหมูที่ผ่านการหมักเกลือและพริกไทยให้รสชาติเค็มมัน พร้อมตกแต่งด้วยใบเบซิล ส่วนความพิเศษอยู่ตรงที่เชฟจะสไลซ์แบล็คทรัฟเฟิลสดแบบจัดเต็มมาให้ถึงที่โต๊ะ

ส่วนอาหารเรียกน้ำย่อยคือ ‘Octopus Carpaccio’ ปลาหมึกยักษ์ที่ผ่านการปรุงสุกอย่างช้า ๆ กับสมุนไพรและเลมอน ยกเสิร์ฟ มาพร้อมสลัดเบบี้สปิแนชและร็อกเก็ต ราดน้ำสลัด เลมอน และน้ำมันมะกอก ให้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบของอัลมอนด์ฝาน เป็นจานที่สัมผัสได้ทั้งกลิ่นอายและรสชาติแห่งท้องทะเล มีทั้งความหวานผสานเค็ม และความสดชื่นจากรสเปรี้ยว อีกหนึ่งเมนูที่ชวนให้ คิดถึงทะเลคือ ‘Linguine Clams & Bottarga’ เส้นลิงกวินีผัดหอยตลับในซอสไวน์ขาว ออนท็อปด้วยไข่ปลากระบอกตากแห้งขูด เติมรสเปรี้ยวนิด ๆ ด้วยมะเขือเทศที่มาช่วยตัดรสเลี่ยน

 

‘Black Truffle Pizza’ พิซซ่าแป้งหนาแบบคลาสสิก ตามสไตล์เนเปิลส์ (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท
รับฟรี เมนู Tiramisu 1 ที่ มูลค่า 250 บาท เมื่อรับประทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

1 ส.ค. 65 - 31 ม.ค. 66


PIZZA MASSILIA

สาขาร่วมฤดี โทร. 094 552 2025

สาขาสุขุมวิท 49 โทร. 095 580 6560
เปิดทุกวัน เวลา 11.30-22.00 น.
www.pizzamassilia.com
www.facebook.com/pizzamassiliaruamrudee
www.instagram.com/pizzamassiliabkk

5.CLARA


CLARA ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสไตล์อิตาเลียนกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียน ฝีมือสร้างสรรค์ของ เชฟ Christian Martena และ คุณ Maitre D’Clara Del Corso-Martena โดยหยิบเอาชื่อของหญิงสาวผู้เป็นทั้งหุ้นส่วนชีวิตและหุ้นส่วนธุรกิจมาเป็นแรงบันดาลใจในการต้ังชื่อร้านว่า ‘CLARA’ 

บรรยากาศโดยรอบร้าน โดดเด่นด้วยสวนสวยสุดร่มรื่น เบื้องหลังประตูกระจกบานใหญ่ คือบริเวณโถงอันกว้างขวาง จัดวางโต๊ะที่นั่งแบบกระจายตัวโดยรอบ เหนือขึ้นไปทางด้านขวาเป็นชั้นลอยที่ให้ความเป็นส่วนตัว มีโต๊ะไม้ตัวยาวที่รองรับได้ประมาณ 10 ที่นั่ง ส่วนตรงข้ามโต๊ะเป็นครัวเปิดโล่งที่สามารถมองเห็นทุกจังหวะเคลื่อนไหวของเชฟ และหากกวาดสายตาไปรอบร้าน จะพบกับภาพเขียนแขวนประดับอยู่ตามผนัง ตลอดทั้งงานประติมากรรมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งโต๊ะเก้าอี้ที่ออกแบบโดยศิลปินจากทั่วโลก ซึ่งเป็นความตั้งใจของเชฟคริสเตียนและภรรยา ที่ต้องการจะรักษาบรรยากาศวันเก่า ๆ ของอาร์ตแกลเลอรีแห่งนี้ไว้นั่นเอง

 

CLARA (Photo by KTC Culinary Collective)

เชฟคริสเตียนรังสรรค์เมนูโดยหยิบจับความทรงจำในวัยเยาว์ มาผสมผสานกับความเชี่ยวชาญในอาหารอิตาเลียนสมัยใหม่ โดยปรับเปลี่ยนเมนูไปตามฤดูกาลในอิตาลี ถ่ายทอดผ่านคอร์สเมนูที่ตั้งชื่อตามแคว้นต่าง ๆ ของประเทศบ้านเกิด โดยมีให้เลือกแบบ 5 คอร์ส หรือ 7 คอร์ส รวมถึงเมนู A la carte ให้ได้อิ่มอร่อยอีกด้วย

ครั้งนี้เชฟเชิญชวนให้สัมผัสกับรสชาติแห่งฤดูร้อน เริ่มออกเดินทางจากแคว้น Pluglia ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเชฟ ภายใต้เมนู ‘Cuttlefish, Almond, Black Ink, Plankton Add on Sea Urchin’ ที่เชฟเลือกวัตถุดิบท้องถิ่นมา 3 ชนิด มีหมึกกระดอง เม่นทะเล และอัลมอนด์ โดยนำหมึกกระดองมานึ่งในเตาอบ ตกแต่งรอบจานด้วยหมึกดำ อัลมอนด์สด นมอัลมอนด์โฮมเมด และเม่นทะเลสด ให้รสสัมผัสนุ่มเบาและได้กลิ่นอายของทะเลฤดูร้อน จานถัดมา ‘Liguria: Lobster, Cherry, Chan- terelle, Pesto’ เชฟต้องการนำเสนอเพสโต้ ซึ่งถือกำเนิดมาจากแคว้นลิกูเรียในมุมมองที่ต่างออกไป โดยเลือกใช้ใบเสจ ทาร์รากอน และพาร์สลีย์แทนใบเบซิล ส่วนล็อบสเตอร์ก็มีการนำไป Poached ในเนยอุ่น ๆ ตามด้วยซอสที่ทำจากเชอร์รี แอปเปิ้ลเขียว และเหล้ายิน ให้รสหวานสดชื่นของเนื้อล็อบสเตอร์ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสเชอร์รีแบบเข้าเนื้อ ส่วนแต่ละเมนูถัดมาก็ล้วนให้ความรู้สึกอิ่มเอมต่อรสสัมผัสแห่งฤดูร้อนตลอดทั้งคอร์สอาหารกันเลยทีเดียว

 

‘Liguria: Lobster, Cherry, Chan- terelle, Pesto’ เพสโต้ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสเชอร์รีอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท
รับฟรี เครื่องดื่ม Welcome Drink 1 ที่ / 1 ท่าน (จำกัด 4 ที่ / โต๊ะ / เซลส์สลิป) 

พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

1 ส.ค. 65 - 31 ม.ค. 66


CLARA
ซอยประเสริฐสุข ช่องนนทรี กรุงเทพฯ
เปิด วันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 17.00-23.00 น.
โทร. 095 879 6257
www.clarabangkok.com
www.facebook.com/clarabangkok
www.instagram.com/clarabangkok

6.JOJO’S WINE & BAR


หากคุณตกหลุมรักและกำลังตามหาร้านอาหารอิตาเลียน กึ่งบาร์เล็ก ๆ ท่ีเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์โรแมนติกเฉพาะตัว อย่างที่เห็นได้ในภาพยนตร์หรือซีรีส์ญี่ปุ่น ร้าน Jojo’s Wine & Bar แห่งนี้ จะสานฝันของคุณให้เต็มอิ่ม โดยไม่ต้องลัดฟ้าไปไกลถึงดินแดนอาทิตย์อุทัย ตั้งแต่ทางเดินเล็ก ๆ หน้าประตูทางเข้าไปจนถึงด้านในล้วนจำลองบรรยากาศมาจากร้านอาหารกึ่งบาร์สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยความโปรดปรานส่วนตัวของ ‘คุณโจ้-ฉลองชัย มาเสถียรวงศ์’ ที่มีต่อรสชาติอาหารอิตาเลียนและญี่ปุ่น รวมไปถึงไวน์ ตลอดจนมีโอกาสสัมผัสกับบาร์สไตล์ญี่ปุ่นจากการท่ีได้เดินทางไปทำงานที่นั่นบ่อย ๆ และท่ีสำคัญยังได้รู้จักใกล้ชิดกับเชฟฝีมือดีจากแดนปลาดิบอีกหลายคน จุดประกายให้คุณโจ้ได้แบ่งปันสิ่งท่ีเขาประทับใจแก่บรรดานักชิมในเมืองไทย ได้ลองสัมผัสความอร่อยท่ีหลอมรวมความสุขไปด้วยกัน

 

JOJO’S WINE & BAR (Photo by KTC Culinary Collective)

ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม มาปรุงแต่งภายใต้สูตรเฉพาะท่ีผสมผสานเทคนิคกรรมวิธีแบบอิตาเลียน เข้ากับแนวคิดกลิ่นอายของชนชาติซามูไร แล้วสร้างสรรค์ออกมาเป็นสารพัดเมนูแสนอร่อยประจำร้าน นอกจากนี้ยังพร้อมเสิร์ฟไวน์คุณภาพดีในราคาเป็นมิตร โดยเน้นไปที่ไวน์โลกเก่า ทั้งจากอิตาลีและฝรั่งเศสอีกด้วย

อาหารจานแรกพร้อมเสิร์ฟ ‘Salmon Tartare’ ปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์ คลุกเคล้ามากับหอมแดงและต้นอ่อนหัวผักกาดที่ช่วยเพิ่มเน้ือสัมผัสสดกรอบ ชุ่มฉ่ำด้วยทรัฟเฟิลยูซุซอส ตกแต่งด้วยอิคุระด้านบน ส่วนใครที่อยากอิ่มหนำกับฟัวกราส์แบบจุใจ แนะนำว่าห้ามพลาด ‘Mini Rossini Steak’ สเต๊กเน้ือสันในช้ันดี ออนท็อปด้วยฟัวกราส์ตับห่านแท้ชิ้นใหญ่กว่าที่ไหน ๆ เพราะทางร้านตั้งใจหั่นมาเป็นชิ้นขนาดไล่เลี่ยกับเนื้อ เพื่อจะได้ตัดรับประทานคู่กันได้หมดพอดีในทุกคำ ราดซอสไวน์แดงสูตรเฉพาะทางร้าน ช่วยชูกลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบทั้งหมดให้โดดเด่น อร่อยล้ำชุ่มฉ่ำอยู่ในปาก

อีกหนึ่งเมนูเนื้อเน้น ๆ คือ ‘130g. Busyu Wagyu Striptloin Steak’ ที่คัดสรรเนื้อวากิวพิเศษจากญี่ปุ่น ย่างด้วยเทคนิคเทปปันยากิ อาศัยไฟอ่อน ๆ เพื่อให้เนื้อค่อย ๆ สุกแบบพอดี เสิร์ฟคู่ผักย่าง จิ้มกับซอสวาซาบิดองกับโชยุ หรือหอมแดงดอง เป็นเมนูที่มีความเป็นญี่ปุ่นในจานอิตาเลียน แล้วปิดท้ายมื้อด้วยขนม ‘Panna Cotta’ รสเปรี้ยวอมหวาน มีความหนึบหนับและนุ่มเนียนในปาก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนน่าลอง ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก เหมาะกับการชวนคนรู้ใจมาร่วมดื่มด่ำความทรงจำแสนพิเศษอย่างเป็นส่วนตัว

 

หลากหลายเมนูแนะนำของทางร้าน (Photo by KTC Culinary Collective)

สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC MASTERCARD ทุกประเภท
รับส่วนลด 15% เฉพาะค่าอาหาร (ไม่รวมค่าภาษีและค่าบริการ) 
เมื่อรับประทานครบ 2,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป
 
พร้อมรับคะแนน KTC สุดสูง x10*
สำหรับบัตรเครดิต KTC X WORLD REWARDS MASTERCARD
และ KTC WORLD MASTERCARD ทุกประเภท ตามเงื่อนไขที่กำหนด

1 ส.ค. 65 - 31 ม.ค. 66


JOJO’S WINE & BAR

ซอยสุขุมวิท 49 กรุงเทพฯ
เปิด วันพุธ-จันทร์ (หยุดวันอังคาร) เวลา 11.00-15.00 น. และ 18.00-23.00 น.
โทร. 090 995 5792
www.facebook.com/jojoswineandbar
www.instagram.com/jojoswineandbar


เอาเป็นว่าใครที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนหรืออยากลองเปิดประสบการณ์ทานอาหารมื้อพิเศษที่ 6 ร้านอาหารอิตาเลียนชั้นนำในกรุงเทพฯ ทั้งหมดนี้กันดูสักครั้ง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับร้านอาหารหรูในกรุงเทพ เชียงใหม่ และภูเก็ตได้ที่ https://ktc.promo/culinary-collective-v2-bkk-menu หากยังไม่มีบัตรเครดิต KTC MASTERCARD คลิกสมัครเลย https://ktc.promo/apply-mastercard