ได้เวลาอัพเดตร้านใหม่ให้ได้ไปฮอปกันอีกแล้ว สำหรับครั้งนี้ BKK. ขอลิสต์ร้านใหม่หลากหลายรูปแบบในย่านอารีย์มาให้เหล่าสายฮอปได้หายคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่น่ารัก ๆ ร้านกาแฟ บาร์มัทฉะ ร้านเนื้อ หรือจะเป็นร้านซีฟู้ดสุดอร่อยก็มีมาให้เลือกสรร ว่าแล้วก็เตรียมเลือกร้านที่ใช่ ใส่ชุดที่ชอบ แล้วตามไปเช็คลิสต์พร้อม ๆ กันเลย!
เริ่มกันที่มัทฉะบาร์เปิดใหม่ เอาใจแฟนชาเขียวอย่าง MTCH มัทฉะบาร์ใจกลางย่านอารีย์ที่ตั้งใจชงมัทฉะคุณภาพพรีเมียมด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้เหล่า Matcha Lover ได้ลิ้มรสสัมผัสของชาเขียวที่ดีที่สุดผ่านแก้วพิเศษทุก ๆ เมนู
FULL REVIEWทางร้านเลือกนำเสนอมัทฉะออกมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งการชงกับน้ำร้อน การชงกับนมเย็น ๆ ซึ่งก็มีเวลาการตีชาที่แตกต่างกันออกไป เริ่มที่เมนูแสนคลาสสิกอย่าง MTCH LATTE UJI OKUMIDORI (150 บาท) มัทฉะลาเต้ซึ่งใช้วิธีการตีผงมัทฉะชั้นดีที่นำเข้าจากเมืองอุจิเข้ากับน้ำร้อน แล้วเทลงบนนมสดเย็น ๆ โดยชาชนิดนี้จะให้รสสัมผัสที่นุ่มนวลแบบ Cotton Candy
ส่วนหนึ่งในเมนูที่ต้องลองคือ Watermelon MTCH (130 บาท) ชา Samidori ที่ผสานเข้ากับน้ำแตงโมสดกลิ่นหอมหวาน เกิดเป็นรสชาติอันแสนสดชื่น แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหน ๆ และไม่ควรพลาดสั่งมาลองชิม
MTCH
พหลโยธินซอย 2 เขตพญาไท
เปิด วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 07.00-19.00 น.
โทร. 06-5691-3584
www.facebook.com/mtch.bkk
TROPI HOOLA นับเป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวานจากจังหวัดเชียงใหม่ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้คนกรุงเทพฯ ได้ลิ้มลองกันภายในโครงการ Gump’s Ari Community โดยร้านนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ คุณไอซ์, คุณบลู และ คุณลูกเกด ซึ่งรับหน้าที่ดูแลในส่วนของการครีเอตเมนูขนมโฮมเมดและเมนูเครื่องดื่มสุดน่ารัก ๆ สไตล์ Summer โดยเฉพาะเมนูโดนัทและเครปที่ทำกันสดใหม่แบบวันต่อวันกันเลยทีเดียว
ส่วนของเมนูขนมและเครื่องดื่มสไตล์โฮมเมดที่ไม่ควรพลาด เริ่มต้นกันที่เมนู Tropi Hoola Slurpee (129 บาท) สเลอปี้ยาคูลท์ที่อัดแน่นไปด้วยท็อปปิ้งแบบเน้น ๆ ทั้ง Burnt Creme Brûlée, Taiwanese Milk Tea, Brown Sugar Jelly และ Custard เนื้อเนียนที่ทานคู่กันแล้วได้รสชาติสุดประทับใจ
หรือจะเป็นเมนูขนมอย่าง Crepe Brûlée Cheese Cake (99 บาท) เครปเย็นเครมบูเลที่สามารถเลือกท็อปปิ้งเองได้ตามชอบ แต่แนะนำให้ลองทานพีชสดแสนหอมหวาน ซึ่งด้านในประกอบไปด้วย Burnt Creme Brûlée, Japanese Cheese Cake, Fresh Fruit, Butter Crumble และครีมสด
TROPI HOOLA
โครงการ Gump's Ari เขตพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น.
โทร. 08-6912-4663
www.facebook.com/TropihoolaAri4
Fuu.Soufflepancake ร้านแพนเค้กสุดน่ารัก ที่ส่งตรงความอร่อยจากเชียงใหม่สู่ใจกลางย่านอารีย์ ซึ่งตัวร้านนั้นตั้งอยู่ในโครงการ Gump’s Ari ภายใต้การดูแลของ คุณโอ๋ และ คุณอั๋น สองพี่น้องเจ้าของร้านที่ช่วยกันดูแลทั้งเรื่องขนมและเครื่องดื่มของที่นี่ โดยทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนู Homemade Souffle Pancake และเครื่องดื่มที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวัน
มาทานซูเฟล่แพนเค้กเจ้าอร่อยทั้งทีต้องไม่พลาดสั่งเมนู Strawberry White Christmas (245 บาท) Homemade Souffle Pancake แพนเค้กสูตรเฉพาะ โดยเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสตรอเบอร์รีและสตรอเบอร์รีสด ให้เนื้อสัมผัสนุ่มฟูสมกับชื่อ 'Fuu' ที่สื่อถึงความ 'ฟู' ของแพนเค้กนั่นเอง
อีกเมนูแนะนำ Salted Caramel (98 บาท) นมคาราเมลปั่นเนื้อเนียนนุ่ม รสหวานปนเค็มแบบ Salted Caramel ท็อปด้านบนด้วยคาราเมลสูตรโฮมเมดแบบเข้มข้นที่ทางร้านทำขึ้นเอง ดื่มแล้วอารมณ์ดีแน่นอน
Fuu.Soufflepancake
โครงการ Gump's Ari เขตพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
www.facebook.com/Fuu.Soufflepancake
สำหรับใครที่เป็นสายกาแฟ Cold Brew ตัวจริง ต้องห้ามพลาดมาลองชิมหลากหลายเมนูเครื่องดื่มที่มีกาแฟสกัดเย็นเป็นส่วนประกอบหลักกันที่ Brewjey Cold Brew Coffee ร้านกาแฟที่ตั้งใจครีเอตเมนูกาแฟให้มีสีสันมากยิ่งขึ้นด้วยการสร้างสรรค์เมนูในรูปแบบของ Cocktail ซึ่งปรับส่วนผสมในส่วนของแอลกอฮอล์ให้เป็นกาแฟ Cold Brew สูตรเฉพาะของทางร้าน
มาถึงเมนูแนะนำของทางร้านกันบ้าง ซึ่งกาแฟของที่นี่ย่อมเพิ่มความพิเศษลงไปแน่นอน เริ่มกันที่ Cold Brew (180 บาท) กาแฟสกัดเย็นสูตรของทางร้านที่เสิร์ฟมาเป็นขวด ดื่มง่าย ได้กลิ่นหอม ๆ ของเมล็ดกาแฟคุณภาพที่มาช่วยเพิ่มความสดชื่นยามบ่าย
สำหรับเมนู Signature ของที่นี่ ต้องยกให้ Java Colada (150 บาท) โดยแก้วนี้เลือกใช้กาแฟ Cold Brew ผสมเข้ากับสับปะรด มะพร้าว และกะทิ แต่งกลิ่นหอม ๆ ด้วยส้ม พร้อมท็อปด้านบนด้วย Coconut Foam ที่ทางร้านทำเอง วิธีการดื่มคือต้องตักโฟมด้านบนทานก่อน จากนั้นค่อยดื่มน้ำตาม จะได้รสชาติที่ลงตัว
BrewJay
โครงการ Gump's Ari เขตพญาไท
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.30-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.
โทร. 09-8302-2964
www.facebook.com/brewjaycoldbrew
ร้านอาหารชื่อดังที่ประสบความสำเร็จมาแล้วเป็นอย่างดีที่เขาใหญ่อย่าง Kinlenn Eatery & Play ก็ได้ขยายความอร่อยมาเปิดบริการให้ชาวอารีย์ได้ลิ้มรสอาหารหลากหลายสไตล์ภายใต้โลเคชันดี ๆ กันที่ Kinlenn Eatery & Play Ari ด้วยตัวร้านที่อยู่ติดกับ BTS สถานีอารีย์ จึงสามารถเดินทางมาทานอาหารกันได้แบบสบาย ๆ
ทางร้านเสิร์ฟทั้งแบบเซ็ตเมนูข้าวน่าทานอย่าง ข้าวคลุกน้ำพริกลงเรือปลาแซลมอนทอดน้ำปลา (275 บาท) เป็นข้าวสวยร้อน ๆ ที่นำไปคลุกเคล้ากับน้ำพริกลงเรือรสชาติแบบไทย ๆ ก่อนจะเพิ่มความพิเศษด้วยการท็อปด้านบนด้วยปลาแซลมอนทอดน้ำปลาชิ้นโต เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงทั้งน้ำพริกลงเรือ ไข่เค็ม หมูหวาน และผักสดหวานกรอบให้ทานคู่กันกับน้ำพริก
หรือจะเป็นเซ็ต เส้นหมี่น้ำยาปู (490 บาท) ที่ทางร้านจัดมาเต็มอิ่ม ทั้งแกงปูใบชะพลูแบบฉบับอาหารใต้แท้ ๆ มาพร้อมกับเส้นหมี่ขาวจัดเป็นคำ ๆ ให้ทานง่าย มีใบเหลียงผัดไข่ เคียงมาด้วยหมูหวาน ทั้งหมดให้รสชาติถึงเครื่องตามแบบฉบับของทางร้าน อีกทั้งยังมีพริกน้ำปลาและผักสดให้ได้ทานแกล้มภายในเซ็ตนี้อีกด้วย
Kinlenn Eatery & Play Ari
BTS สถานีอารีย์ (ทางออกที่ 2)
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
โทร. 06-4229-2263
www.facebook.com/Kinlenn-Eatery-Play-Ari-106012957507938
หนึ่งในร้านเนื้อย่างชื่อดังจากย่านช้างม่อย จังหวัดเชียงใหม่อย่าง Kobe King ก็พร้อมส่งตรงความอร่อยอีกครั้งภายใต้คอนเซ็ปต์ 'เนื้อราชา ราคามิตรภาพ' ด้วยความที่เป็นร้านเนื้อย่างซึ่งเข้าถึงง่าย โดยทางร้านได้ทำการเปิดบ้านหลังใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการ Gump’s Ari ย่านสุดฮิปของกรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศของสไตล์อิซากายะ
มาเยือนร้าน Kobe King ทั้งที เมนูเนื้อวัวคุณภาพดีที่ไม่ควรพลาด แนะนำให้ลองสั่งเซ็ต คอร์สเนื้อไทยวากิว 5 ส่วน (599 บาท) ที่นำเนื้อวากิวคุณภาพดีจากหลายส่วนมาให้ลิ้มลองกัน ทั้งส่วนของคารุบิพรีเมียม ใบพายพรีเมียม เนื้อสุกี้ญี่ปุ่น ซี่โครงติดกระดูกพรีเมียม ซี่โครงเต๋าพรีเมียม มาพร้อมข้าวญี่ปุ่น ซุป สลัดญี่ปุ่น และกิมจิเป็นเครื่องเคียงให้ทานคู่กัน
ก่อนจะเอาใจคนชอบทานแกงกะหรี่กับเมนู Japanese Curry Thai Wagyu Steak with Rice (349 บาท) ข้าวหน้าเนื้อไทยวากิวสเต๊กแกงกะหรี่ ที่เสิร์ฟมาแบบจานใหญ่ พร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ ที่ถูกจัดมาเป็นทรงกลม ด้านในเป็นแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟเคียงมากับเนื้อสเต๊กและชีสหอม ๆ
Kobe King Japanese BBQ Gump Ari
โครงการ Gump's Ari เขตพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 12.00-15.00 น. และ 17.00-23.00 น.
โทร. 09-8975-4436
www.facebook.com/kobekingari
และอีกหนึ่งร้านที่ชาวอารีย์คิดถึง จาก Food Truck แสนอบอุ่นที่หลายคนอาจจะเคยคุ้นตากันมาบ้างแล้ว สำหรับร้าน Summer Street ที่เสิร์ฟอาหารซีฟู้ดสดใหม่ในบรรยากาศสบาย ๆ ครั้งนี้ คุณวี คุณออย และ คุณก้าบ สามหุ้นส่วนของร้านได้ย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่ ภายใต้ชื่อ Summer Summer ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับปากซอยอารีย์ 4 ที่เดินทางไปทานได้สะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของเมนูอาหาร ที่นี่ยังคงคอนเซ็ปต์ซีฟู้ดคุณภาพดีที่ย่างมาแบบสดใหม่ให้คุณได้ทานกันแบบง่าย ๆ สบาย ๆ อาทิ อาหารทะเลชุดกลาง (599 บาท) ซีฟู้ดสด ๆ ที่เสิร์ฟทั้งกุ้ง ปลาหมึก หอยเชลล์ หอยแครง หอยแมลงภู่ และหอยหวานจาก Local Farm ที่ทางร้านไปคัดสรรมาด้วยตัวเอง แล้วนำมาย่างหอม ๆ เสิร์ฟมาร้อน ๆ พร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านในถาดใหญ่ เป็นหนึ่งในเซ็ตปาร์ตี้ที่คุณและชาวแก๊งไม่ควรพลาด!
นอกจากเมนูแสนคลาสสิกที่อยู่คู่กับทางร้านมาอย่างเนิ่นนานแล้ว ยังมีเมนูใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับคนที่ชอบทานรสชาติแซ่บ ๆ โดยเฉพาะ อย่างเมนู ยำไหลบัวหอยแครงไข่แดง (140 บาท) ไหลบัวกรอบ ๆ ที่หั่นมาแบบชิ้นพอดีคำ คลุกเคล้ามาในน้ำยำรสชาติจัดจ้าน ครบเครื่อง เต็มอิ่มไปด้วยไข่แดงเค็มลูกใหญ่และหอยแครงสดลวกมาพอสะดุ้งที่ทานแล้วให้รสชาติแบบเข้ากัน
Summer Summer
พหลโยธินซอย 7 เขตพญาไท
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-22.00 น. และวันเสาร์ เวลา 16.30-22.00 น.
โทร. 08-1649-9497
www.facebook.com/SummerSummer-by-SummerStreet-1615933711964393
ส่วนใครยังที่จำคาเฟ่สีพาสเทลสุดคัลเลอร์ฟูลที่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 ซึ่งทางเจ้าของร้าน คุณเพียงพลอย-รุจิยาทร โชคสิริวรรณ และ คุณบอม-วัชรพงษ์ ทองยาน สร้างสรรค์พื้นที่แห่งนี้ให้เป็นคาเฟ่ผลไม้ได้แล้วละก็ เชื่อว่า Oh Vacoda Café นับเป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่ประทับใจอยู่ในความทรงจำของใครหลายคนอย่างแน่นอน และหากมีโอกาสได้กลับมาเยือนคาเฟ่แห่งนี้อีกครั้ง คุณจะต้องประทับใจกับโฉมใหม่ของร้านอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุดนั้นได้มีการเปลี่ยนบรรยากาศทุกค่ำคืนของวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ให้เป็น Fruit Bar The Social Club บาร์นีออนสีสันสดใสที่เพิ่มเติมกลิ่นอายความสนุกสนานเข้าไปมากยิ่งขึ้น เพื่อต้อนรับสายแฮงเอาต์ทั้งหลายให้เข้ามานั่งชิลล์ พบปะสังสรรค์กับเพื่อนใหม่ ๆ
เริ่มที่ค็อกเทล Pina Vacoda (260 บาท) ค็อกเทลแก้วสวยที่ตกแต่งมาในธีมซัมเมอร์แสนสดใส โดยนำเอาไอศกรีมอะโวคาโดออร์แกนิก เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านมาเชคเข้ากับค็อกเทลที่เบสรสชาติด้วยสับปะรด เหล้ารัม และบรั่นดี ก่อนจะเพิ่มรสชาตินุ่มละมึนด้วยครีมกะทิและสับปะรดเผาน้ำตาล ที่ตกแต่งด้วยร่มสุดเก๋ไก๋ และอีกหนึ่งเมนู Lemon Cheesecake (220 บาท) ที่เพียงแค่ชื่อก็ชวนให้นึกถึงขนมหวานอย่างเลมอนชีสเค้ก หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์แสนอร่อยของทางร้านอีกเช่นเดียวกัน โดยแก้วนี้ได้นำเหล้าโซจูไปผสมกับเหล้าผลไม้อย่าง Limonchello จากอิตาลี ก่อนจะเพิ่มเติมความหวานด้วยไซรัปชีสเค้ก และใส่โซดาเพื่อเพิ่มความซาบซ่า ดื่มแล้วชื่นใจแน่นอน
Fruit Bar & The Social Club
ซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 เขตพญาไท
เปิด วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-23.30 น.
โทร. 08-9497-8926
www.facebook.com/fruitbar.thesocialclub