เมื่อการได้ทำในสิ่งที่รักเป็นสิ่งเดียวกับการมอบความสุขให้คนอื่น ๆ เส้นทางการเป็นเชฟของ ‘คุณพลอย-ณัฐณิชา บุญเลิศ’ จึงกลายเป็นคำตอบที่ชัดเจนให้เธอเลือกเดินในสายอาชีพนี้ด้วยความมุ่งมั่น ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนอาจคุ้นหน้าและรู้จักเธอในฐานะเชฟผู้เข้าแข่งขันในรายการ Masterchef Thailand Season 1 รวมถึงรายการ TOPCHEF Thailand 2023 มาก่อน แต่มีอีกหนึ่งบทบาทที่คนทั่วไปอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักนั่นคือการเป็นผู้ก่อตั้ง AMI Brunch & Bubbles ร้านยอดนิยมในย่านอารีย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการ Sharing ความอร่อยกับเพื่อน ๆ ผ่านหลากหลายเมนูอาหารที่ไม่นิยามสัญชาติ
แอร์โฮสเตสผู้หลงใหลในการทำอาหาร
“ตอนอยู่ทีมทำอาหารสมัยเรียน ก็มีการแข่งขันทำอาหารมาเรื่อย ๆ ทั้งรายการของต่างประเทศแล้วก็ในประเทศค่ะ จนเรียนจบแล้วก็ยังชอบทำอาหารอยู่ เลยไปเรียนต่อที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศอังกฤษ แต่ว่าระหว่างนั้น เรามีความฝันอยากเป็นแอร์ มันเหมือนเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วว่าอยากเป็นค่ะ พอเรียนจบที่กอร์ดอง เบลอ ก็ไปเป็นแอร์ฯ ได้ประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นก็มีรายการ MasterChef Thailand เปิดรับสมัครคนเข้าแข่งขัน มีเพื่อนชวนไปสมัคร เราก็ไปสมัครแข่งขันเป็นเพื่อนเค้า แต่พอได้เข้ารอบสุดท้าย ทีนี้ก็ยาวเลย เหมือนได้กลับมาทำอาหารอีกครั้งหนึ่งแบบเต็มตัว เลยตัดสินใจว่าขอทำอาหารต่อแล้วกัน เพราะจริง ๆ แล้ว เหมือนชีวิตพลอยก็ปูมาด้วยการทำอาหารตั้งแต่แรก ตอนที่อยู่มหาลัยเราฝึกงานที่โรงแรมหลายที่ ทุกอย่างมันเหมือนจัดสรรมาให้เราหมดแล้ว เลยเลือกเดินหน้าต่อในเส้นทางสายอาชีพนี้ค่ะ”
“พลอยรู้สึกว่าแบ็คของพลอย มันค่อนข้างแน่นพอที่พลอยจะเลือกทำอาชีพเกี่ยวกับการทำอาหารต่อ คือพลอยไม่ได้เลือกที่ทำทั้ง ๆ ที่ข้างในกลวง พลอยรู้สึกว่าจริง ๆ เราก็เติมหลายอย่างให้ตัวเองมาก ๆ ทั้งตอนฝึกงานที่เลือกฝึกในที่ที่น่าสนใจ เราเลือกโรงแรมที่ดี ห้องอาหารที่ดี เหมือนเราเลือกทุกอย่างให้ตัวเองแล้วประมาณนึง เพียงแค่ว่ามันยังไม่ถูกเอามาใช้ เพราะว่าตอนนั้นยังเป็นแอร์ฯ อยู่ค่ะ เรียกว่า MasterChef เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราได้กลับมาทำอาชีพนี้อีกครั้งหนึ่ง และพลอยก็เชื่อว่าเราตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเส้นทางนี้”
ความท้าทายที่ต้องเผชิญบนเส้นทางสู่การเป็นเชฟ
“การตัดสินใจลงแข่งขันในรายการ MasterChef Thailand ครั้งนั้น ด้วยความที่มันเป็นซีซั่นแรก มันไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ไม่มีตัวอย่างให้ดู ไม่มีประสบการณ์ตรงมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องไปในทางไหน ทุกคนในรายการ ทั้งกรรมการ คนแข่ง ทีมงาน ทุกคนใหม่หมดค่ะ ทุกอย่างที่เราทำมันออกมา คือรีแอ็คชั่นล้วน ๆ สิ่งที่ต้องทำจริง ๆ โจทย์มาแบบไหนก็ทำแบบนั้น ก็เลยรู้สึกว่าการเตรียมตัวให้พร้อมมันน้อยมาก มันเหมือนพลอยขุดคุ้ยทุกอย่างที่เป็นประสบการณ์เก่าออกมา เพื่อเอามาใช้ในการแข่งขันครั้งนี้”
ศิลปะที่นำมาผสมผสานบนจานอาหาร
“พลอยคิดว่าพลอยเป็นคนแปลกนะ แปลกในที่นี้คือ ชอบทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น อย่างเช่นถ้าคนอื่นทำแบบนี้ เราจะทำแบบนึง เวลาแข่งขัน คนอื่นใช้เนื้อสัตว์ งั้นเราไม่ใช้ละกัน พลอยคิดแบบนั้นตลอด เพราะถ้าแข่งกันเองมันยากมาก เราเลยเลือกไปแข่งในสิ่งที่เขาไม่แข่ง แล้วพลอยก็รู้สึกว่าถ้าเราเลือกทำสิ่งที่เราทำได้ดี มันน่าจะดีกว่าการที่ลงไปแข่งในสิ่งที่คนอื่นทำอยู่ค่ะ”
“พลอยเป็นคนชอบทำเมนูมังสวิรัติ พลอยชอบทำผักให้อร่อย แล้วก็ชอบจัดจานด้วย จริง ๆ เป็นคนชอบศิลปะพอสมควรค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าถ้ามันวาดรูปแล้วมันยาก หรือวาดรูปแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จขนาดนั้น ก็เอามาผสมอยู่กับอาหารที่เราทำอยู่ มันก็เหมือนเป็นการสร้างมูลค่า แล้วก็ทำให้อาหารของพลอยดูแตกต่างจากคนอื่นด้วย”
ทำอาหารด้วยความจริงจัง และตั้งใจในทุกขั้นตอน
“ถ้าทำงานกับพลอย พลอยเป็นคนง่าย ๆ เหมือนจะง่าย คือต้องรู้ใจกันนิดนึง เพราะว่าจริง ๆ เราเป็นคนเครียด มันจะคอนทราสต์กันหน่อย ๆ คือดูเหมือนจะเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ว่าจริง ๆ พลอยเป็นคนคิดทุกอย่างมาก่อนแล้ว กว่าจะทำงานหนึ่งงาน พลอยคิดเยอะมาก และตั้งใจกับมันมาก ๆ”
“แต่วิธีแก้ปัญหาความเครียดของพลอย คือปล่อยให้มันเครียดไป รู้สึกว่าไม่รู้จะจัดการกับมันยังไงนะ แต่รู้ว่าจะอยู่กับมันได้ยังไงมากกว่า เพราะว่าส่วนใหญ่งานมันเป็นงานที่ทำแล้วเสร็จ เหมือนว่าวันนี้เครียดงานนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เสร็จแล้ว แต่พลอยเป็นคนที่เชื่อว่าทุกครั้งที่เครียด งานมันมักจะดีเสมอ ไม่เคยทำแบบชิล ๆ เพราะรู้สึกว่าทุกงาน คนที่จ้างเขาก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าพลอยไม่เครียดกับมัน ถ้าพลอยทำเหมือนมันเป็นเรื่องสนุก พลอยไม่ค่อยเชื่อว่างานจะออกมาได้ดี เลยรู้สึกว่าค่อนข้างอุทิศความเครียดนี้ให้กับงานแต่ละงานมาก ๆ ค่ะ”
อาชีพเชฟกับชาเลนจ์ในการแก้ปัญหา
“อาชีพเชฟชาเลนจ์ทุกงาน มีคนเคยคุยกันว่าจริง ๆ แล้วเราเป็นอาชีพเชฟหรอ หรือว่าจริง ๆ แล้วเราคืออาชีพนักแก้ปัญหา คืออาชีพเชฟเหมือนเป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่แล้ว แต่ว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของแต่ละคนนี่แหละคืออาชีพนะ พลอยว่าจ้างคนทำอาหารอาจเป็นใครก็ได้ แต่ว่าเมื่อไหร่ที่มันมีปัญหา ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่การที่เราจะแก้ปัญหานั้น ๆ ได้ พลอยว่าอันนั้นแหละคือสิ่งสำคัญของอาชีพเชฟ”
AMI Brunch & Bubbles โปรเจ็กต์ร้านอาหารที่ไม่นิยามสัญชาติ
“ร้านนี้ ชื่อร้านแปลว่า ‘เพื่อน’ ในภาษาฝรั่งเศส เกิดจากหุ้นส่วน 4 คน ซึ่ง 4 คนนี้ มีเชฟ 2 คน แล้วก็อีก 2 คน เป็นเพื่อนที่ทำงานธนาคาร ซึ่งเค้าก็จะถนัดเรื่อง Marketing สำหรับร้านนี้เป็นร้านแรกของพวกเรา พอมันมีความเป็นเพื่อนเยอะ อาหารของร้านเลยค่อนข้างหลากหลายนิดนึง โดยที่มันไม่ได้มีสัญชาติ
"คือทุกคนชอบถามว่าอาหารของพลอยคืออาหารอะไร พลอยชอบทำอาหารอะไร พลอยไม่เคยตอบได้เลย เพราะว่าพลอยไม่รู้เหมือนกัน มันไม่ใช่อาหารไทย แล้วมันก็ไม่ใช่อาหารฝรั่งที่มีชื่อ แต่เป็น combination ของวัตถุดิบ หรือว่าเป็นสิ่งที่พลอยชอบทาน"
"บางเมนูอาจจะมีพื้นฐานมาจากอาหารฝรั่งเศสหรืออาหารสัญชาติอื่น ๆ แต่ว่าสุดท้ายแล้วจะถูกเอามาเปลี่ยนวัตถุดิบ หรือเปลี่ยนอะไรบางอย่างให้หลุดจากความเป็นเมนูนั้น ๆ สัญชาตินั้น ๆ ก็เลยกลายเป็นว่าที่นี่มาแล้วทุกคนจะได้ลองทานอาหารหลายแบบ คือมีตั้งแต่แบบกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส อาหารอิตาเลียน อาหารสเปนก็มีผสมผสานไปตามแต่ละเมนูที่ครีเอตขึ้นมา มันเหมือนเป็นการมิกซ์ความชอบของเราเข้ากับความชอบของเพื่อน ๆ ที่รวมกันออกมาแล้วอยากให้มีเสิร์ฟความอร่อยอยู่ที่นี่ที่เดียวค่ะ”
“คอนเซ็ปต์แรกที่คิดเลย คืออยากให้เป็นที่ที่เพื่อน ๆ ทุกคน มานั่งสนุกกัน ไม่ว่าจะตอนเช้า กลางวัน หรือตอนเย็น อยากให้นั่งนาน ๆ พลอยอยากให้มันเป็นที่ที่สร้าง Vibes ให้กับทุก ๆ คน อยากให้ที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนสามารถ Feel Free ที่จะมา ไม่ว่าจะมากินข้าว มาดื่มกาแฟ มาจัดงานเลี้ยง ได้ทุกรูปแบบ”
เมนูแนะนำประจำร้าน AMI Brunch & Bubbles
“ใครมาที่นี่ต้องลอง AMI Pasta จริง ๆ เมนูนี้เป็นเมนูที่ครีเอตมาพร้อมกับร้าน มันคือสิ่งที่พลอยชอบ มันคือสิ่งที่เคยขายมาก่อนแล้ว แล้วเอามาประยุกต์ใหม่ให้มันสมบูรณ์แบบมากขึ้น คือเอาจริง ๆ ความเป็นพาสต้ามันดูธรรมดาเนาะ ใคร ๆ ก็ขายพาสต้าได้ แต่ทำให้ถูกใจทุกคนมันยาก พลอยรู้สึกว่าพาสต้าเมนูนี้เป็นเมนู common ที่ทุกคนทานด้วยกันได้ มันคือเมนูที่ค่อนข้างสื่อถึงความเป็น AMI ที่มีความเป็นเพื่อน มีความ sharing มีความเป็น common things ที่ทุกคนชอบค่ะ ความพิเศษของเมนู AMI Pasta จริง ๆ แล้วไม่ได้มีวัตถุดิบอะไรพิเศษ แต่มันคือรสชาติที่คนทานไปแล้ว เอ๊ะ ตกลงอันนี้มันคืออะไรนะ อันนี้มันพาสต้าครีมซอสหรือเปล่า หรืออันนี้มันเป็นพาสต้าแบบผัดแห้ง แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่สักอัน คือแบบพลอยรู้สึกว่ามันสนุกที่เหมือนโยนโจทย์ให้ลูกค้า แล้วลูกค้าก็สนุกที่จะตั้งคำถามเองว่า ตกลงว่าเมนูนี้คืออะไรกันแน่ มีส่วนผสมอะไรซ่อนอยู่”
“อีกเมนู คือ Water Melon Salad หรือเมนูปลาแห้งแตงโม แต่อันนี้เป็นอีกเวอร์ชันนึงของปลาแห้งแตงโม เป็นปลาแห้งแตงโมที่ใส่เฟต้าชีส แล้วก็มีปลาทูน่า เหมือนเป็น combination ระหว่างตะวันตกในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ผสมกับปลาแห้งแตงโมของไทย ได้ความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร หรือจะเป็น Burrata Salad รสเข้มข้นกลมกล่อม ทานง่าย นอกจากนี้ก็มีหมวด Toast กับเมนู Chicken Waffle 2.0 ให้ได้เลือกสั่งมาลองทานเป็นเมนูอิ่มท้องกันค่ะ”
ความสุขของการเป็นเชฟ
“พลอยว่าทุกอาชีพ เราต้องทนกับความเบื่อให้ได้ ไม่ว่าเราจะรักในสิ่งที่เราชอบทำแค่ไหน ให้พลอยผัดอาหาร ให้พลอยยืนพูด หรือทำอะไรก็ตามที่ต้องทำทุกวัน มันมีความเบื่อแน่นอนอยู่แล้ว มันจะต้องมีความรู้สึกที่วันนี้ไม่อยากทำ พลอยว่าทุก ๆ อย่าง มันต้องผ่านความเบื่อไปให้ได้ เมื่อไหร่ที่เราผ่านความเบื่อไปได้ นั่นแปลว่าเราจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิต บางทีเวลาเหนื่อย ความเบื่อความเหนื่อย มันใกล้กันนิดเดียว มันแทบจะแยกกันไม่ออกเลยว่าสรุปจริง ๆ แล้ว เรารู้สึกยังไงกับมัน ตราบใดที่พรุ่งนี้เรายังตื่นมาแล้วยังทำมันได้เหมือนเดิม อีก 2 ปีข้างหน้า รู้สึกเหมือนเดิมเลย ก็ยังอยากทำอยู่ พลอยว่ามันก็พิสูจน์ได้แล้วแหละว่าสิ่งนี้เราสามารถอยู่กับมันได้ ถึงแม้ว่าเราจะผ่านความรู้สึกหลากหลายกับมันมาก ๆ หลังจากที่แข่ง MasterChef นี่ก็เข้าปีที่ 8 แล้ว แต่ว่าถ้านับจากตั้งแต่เรียนน่าจะ 14 ปี ที่พลอยก็อยู่กับมันมา แต่สุดท้ายแล้วก็ยังอยู่ต่อ แล้วก็คิดว่าน่าจะอยู่กับมันไปได้ตลอดชีวิต”
“พลอยเป็นคนชอบบริการมาก คือมันมีหลายรูปแบบเนาะที่เราจะสนองความต้องการของคนให้เค้ามีความสุข แต่ว่าในรูปแบบของคนทำอาหาร มันคืออาหารที่ทำให้เค้าถูกใจ เพราะฉะนั้นพลอยสนุกที่พลอยเอาสิ่งนั้นมาผสมกับสิ่งนี้ จัดจานให้สวยผ่านมุมมองต่าง ๆ ให้มันออกมาเป็นหนึ่งจาน พลอยอาจจะทำ 4 ชั่วโมง หรือพลอยอาจจะคิด 12 ชั่วโมง สำหรับเมนูนี้ แต่คนทานอาจจะทานแค่ 5 นาที แต่ 5 นาทีที่เค้าทาน เค้าเอ็นจอยกับมัน เค้าชมว่ามันอร่อย พลอยรู้สึกว่า 12 ชั่วโมงที่พลอยเตรียมเมนูนี้ มันมีค่ามากเลย เหมือนเป็นความสำเร็จแล้วสำหรับการที่พลอยทุ่มเททั้งหมดเพื่อให้เค้าบอกว่าอาหารอร่อย อันนี้คือความสุขที่พลอยว่ามันก็หล่อเลี้ยงคนที่ทำอาชีพนี้ค่ะ”
ก้าวต่อไปเพื่อความภูมิใจที่ไม่สิ้นสุด
“เอาจริง ๆ คำว่าประสบความสำเร็จของคนเรา มันไม่มีที่สิ้นสุดหรอก บางทีเราได้สิ่งหนึ่งที่เราอยากได้แล้ว มันจะมีสิ่งใหม่ตลอด เพราะฉะนั้นพลอยว่าความสำเร็จมันอยู่ที่คำว่า ‘พอ’ ของแต่ละคนมากกว่า เช่น น้องเด็ก ๆ ใหม่ ๆ อาจจะมี Goal ที่คิดว่าเราอยากฝึก เราอยากทำที่ร้านนี้ พอได้ทำแล้ว เขาก็ประสบความสำเร็จแล้วนะ ในสิ่งที่เขาต้องการ ณ ตอนนั้น แต่พลอยเชื่อว่าพอเขาทำไปสักพัก เขาก็จะมี Goal ใหม่ ที่เขาอยากประสบความสำเร็จ พลอยว่าก็ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ตั้งเป้าหมายที่มันจะมีทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งตัวพลอยเองก็เป็นแบบนั้น มีเป้าหมายระยะยาวก็คือ จุดสุดท้ายของเราที่เราต้องการมันคืออะไร แล้วเป้าหมายระยะสั้นมันส่งเสริมอะไรเราได้บ้าง อยากให้ทุกคนตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ ไม่อยากให้ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ พลอยแค่รู้สึกว่าเราเกิดมาทั้งที เรามีโอกาสได้เข้ามาอยู่หรือได้ทำตรงนี้ก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ทำได้ก็ได้ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยชีวิตมันจะได้มีชาเลนจ์ให้ตัวเอง แล้วก็เดินไปข้างหน้า”
“อย่างตอนนี้ เรามีเป้าหมายอนาคตคืออยากมีร้านที่เลี้ยงทุกคนได้ พลอยรู้สึกว่าพลอยเองไม่ได้โตมาคนเดียว พลอยโตมากับน้อง ๆ ในทีม คือถ้ามันมีร้านที่ทำเงินได้มากกว่า ให้พลอยได้สามารถให้เงินเดือนน้อง ๆ พนักงานได้มากกว่า พลอยก็อยากมีร้านที่เป็นอีกเลเวลนึงที่เลี้ยงทั้งพลอยเองแล้วก็เด็ก ๆ ในทีมทุกคนได้ ก็น่าจะแฮปปี้มากยิ่งขึ้น แต่ว่ามันก็ต้องใช้เวลาหน่อย คือพลอยก็ไม่กล้าทำสิ่งใหญ่ขนาดนั้นตั้งแรก พลอยก็เริ่มจากแค่นี้ก่อน แน่นอนว่าอนาคตถ้ามันมีโอกาสที่จะทำ แล้วมันมีประโยชน์ต่อตัวพลอยและคนอื่นด้วย พลอยก็จะทำค่ะ”
มาถึงตอนนี้เชฟพลอยก็สานฝันในการทำร้านอาหารร่วมกับเพื่อน ๆ ได้สำเร็จ ทั้งที่ร้าน AMI Brunch & Bubbles และ CHU CHU Chicken Club ร้านไก่ทอดอีกหนึ่งร้านในย่านอารีย์ที่เธอนั้นเป็นหุ้นส่วน ซึ่งในอนาคตอันใกล้ ประมาณเดือนเมษายน ในปี 2568 นี้ เราอาจจะได้ไปเช็กอินร้านใหม่ หนึ่งในลิสต์ความตั้งใจของเชฟพลอย รวมถึงผลงานการคอลแลปเมนูอาหารร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ และ Cooking Show อีเวนต์ รายการอาหารที่ทุกคนสามารถร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้เชฟหญิงมากความสามารถคนนี้กันต่อไปอีกแน่นอน
และนี่คือหลากรสกลมกล่อมของ ‘เชฟพลอย’ ที่เธอได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ดี ๆ พร้อมส่งมอบแรงบันดาลใจผ่านเบื้องหลังการรังสรรค์ความอร่อยในแบบของเธอ
AMI Brunch & Bubbles
22 ซอยชำนาญอักษร (BTS สถานีอารีย์)
เปิด วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-18.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-22.00 น.
www.facebook.com/Ami.Ari.2023