Brasserie 9
เปิดประสบการณ์การทานอาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับที่ Brasserie 9 ร้านอาหารสุดเก๋ในบ้านสีขาวสไตล์โคโลเนียลที่แอบซ่อนอยู่ในซอยสาทร 6 โดดเด่นในการคัดสรรวัตถุดิบและผ่านกรรมวิธีการปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟมากฝีมือ พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติและจริตแห่งวิถีฝรั่งเศสแท้ ๆ ให้คุณได้อิ่มอร่อยไปพร้อม ๆ กัน
ความโอ่อ่าตระการตาสุดลักชูรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ในย่านสาทรซอย 6 ที่โดดเด่นตั้งแต่ตัวบ้านสีขาวหลังใหญ่สไตล์โคโลเนียล ประดับประดาไปด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาดตา ก่อนจะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจและเครื่องหนังสุดเก๋ เพิ่มความเรียบหรูด้วยเฟอร์นิเจอร์สีทอง และของตกแต่งสุดวิจิตรที่ผสานความเป็นไทยและฝรั่งเศสเอาไว้ได้อย่างลงตัว
บ้านหลังนี้ให้บริการพื้นที่ร้านอาหาร บาร์และห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ กินพื้นที่กว้างขวางตลอด 2 ชั้น โดยจะแบ่งเป็นส่วนของ Brasserie 9 ที่ให้บริการอาหารต้นตำรับสไตล์ฝรั่งเศสแท้ ๆ โดยสามารถรองรับลูกค้าจัดเลี้ยงสังสรรค์ในห้องส่วนตัว หรือนั่งชิลล์ ๆ ในมุมอินดอร์และเอาต์ดอร์ก็เอนจอยได้ไม่แพ้กัน
ส่วนใครมองหาความชิลล์ยามค่ำคืนต้องไม่พลาดกับ The Brass บาร์สุดลักชูรีที่เต็มไปด้วยลิสต์เครื่องดื่มและไวน์สุดพรีเมียมที่ทางร้านตั้งใจคัดสรรมาแพร์ริ่งให้เข้ากันกับมื้ออาหารสุดพิเศษมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์
Authentic French Cuisine By Chef Hervé Frerard
สำหรับมื้อนี้ BKK. ขอแวะเวียนมาลิ้มรสความอร่อยของมื้ออาหารสไตล์ Authentic French Cuisine โดยฝีมือของ Hervé Frerard - Chef De Cuisine มากฝีมือชาวฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัลมากมายในแวดวงร้านอาหาร โรงแรมและอื่น ๆ ตลอด 30 ปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการทั่วทั้งยุโรป เอเชียและภูมิภาคอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งดูแล Chefs Club ในนิวยอร์ก แอสเพนและไทเป, ประสบการณ์ในร้านอาหารรางวัลมิชลินระดับตำนาน
นอกจากนี้ได้รับเกียรติในการปรุงอาหารให้กับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2, ประธานาธิบดีฟร็องซัวส์ มิตเตอร์รองด์ และบุคคลสำคัญระดับนานาชาติมากมาย รวมไปถึงการเป็นเจ้าของร้านอาหารฝรั่งเศสในประเทศต่าง ๆ , ตำแหน่งเชฟและผู้บริหารในแวดวงโรงแรมและห้องอาหารชื่อดังมากมาย
แต่สิ่งที่เชฟภูมิใจที่สุดคือการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโครงการหลวง แต่งตั้งโดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งเชฟ Hervé Frerard มักจะไปเยี่ยมชมและมองหาวัตถุดิบใหม่ ๆ จากฟาร์มของโครงการหลวงเพื่อนำมาต่อยอดใช้กับอาหารฝรั่งเศสประเภทต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งการให้ความสำคัญกับผลผลิตท้องถิ่นของเชฟ Hervé สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ Brasserie 9 ที่ต้องการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและเกษตรกรท้องถิ่น ให้ธุรกิจและชาวบ้านได้ก้าวเดินไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับในครั้งนี้ เชฟขอนำเสนอหลากหลายเมนูสุดพิเศษที่ควรค่าแก่การแวะมาลิ้มลองเมื่อมาเยือนที่ Brasserie 9 เริ่มต้นกับจานแรกอย่าง Foie Gras Millefeuille with Nori & Sake and Crispy Parisienne Brioche (980 บาท++) ฟัวกราส์ตับเป็ดหมักด้วยสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ก่อนจะนำเสนอในรูปแบบมิลเฟยโดยการนำมาสลับชั้นกับกับสาหร่าย เสิร์ฟมาพร้อมกันกับขนมปัง
จานถัดมาเป็น Endive Salad with Potato, Smoked Haddock and Horseradish Cream (680 บาท++) สลัดผัก Endive และ Frisee หรือผักพื้นบ้านจากฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในผักที่มีรสขมตามธรรมชาติ เชฟนำมาเสิร์ฟพร้อมกันกับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของยูซุ กลายเป็นจานรองท้องสุดเฟรชที่ช่วยเติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
มาถึงจานเนื้อสัตว์กันบ้างกับ Six Burgundy Snails with Garlic & Butter Parsley (480 บาท++) เมนูเรียกน้ำย่อยสไตล์ดั้งเดิมที่เป็นจานยอดนิยมในฝรั่งเศสโดยมีพระเอกคือหอยทาก เสิร์ฟมาคู่กับเนยและพาสลีย์ ให้ความหอมละมุนทานง่าย ต่อกันด้วย Spanish Octopus Leg barbecue with Rice Espuma & Smoked Oil (780 บาท++) จานที่ให้กลิ่นอายผสมผสานความเป็นฝรั่งเศสและสเปนด้วยการเสิร์ฟรีซอตโตที่ให้รสชาติเผ็ดเล็กน้อยก่อนจะท็อปด้วยหนวดปลาหมึกยักษ์ซูวีที่นำไปย่างบนเตาถ่านเพื่อเพิ่มความหอม
ส่วนจานต่อไป คือ Anjou Pigeon with Braised Endive & Red Wine Beetroot Jus (2,250 บาท++) เนื้อนกพิราบนำเข้าจากฝรั่งเศส ที่กริลล์จนสุกกำลังดี ให้เท็กเจอร์เนื้อแน่นหนึบทานคู่กันกับมันฝรั่งโฮมเมด เคียงด้วย Endive อบเนยแองโชวีก่อนจะท็อปด้วยทรัฟเฟิลหอมๆ ส่วนใครเป็นสายซีฟู้ด พลาดไม่ได้กับ Hokkaido Scallops with Young Leek and Black Truffle (1,650 บาท++) หอยเชลล์ฮอกไกโดไซส์ใหญ่ที่เสิร์ฟมาคู่กันกับซอส Beurre Blanc ท็อปด้วยคาเวียร์
ต่อกันที่ Vol-au-Vent of Veal Sweetbread with Morel Mushrooms and Yellow Wine Sauce (1,450 บาท++) Vol Au Vent แป้งพายฝรั่งเศสสอดไส้ Sweetbread หรือตับอ่อนผสมกับเห็ดมอเรลและซอสสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของเรดไวน์ซอส เสิร์ฟบน Atichoke Puree ให้รสออกหวานเค็ม ทานง่าย กำลังพอดี
จากนั้นไปลิ้มรสความหวานหอมของ Flambéed Grand Marnier Crêpes Suzettes (580 บาท++) เมนูของหวานที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศส โดยเมนูนี้เชฟจะมาทำให้ดูกันสดๆ ที่โต๊ะ โดยจะนำน้ำตาลและเนยมาเคี่ยวบนเตาจนกลายเป็นคาราเมล จากนั้นใส่น้ำส้ม เปลือกส้ม และ Grand Marnier เหล้ารสส้มแบรนด์ดังจากฝรั่งเศสที่ก่อกำเนิดในปี 1880 จากนั้นจึงนำแป้งเครปลงไปในเตาให้ตัวซอสชุ่มฉ่ำเข้าไปในแป้ง ก่อนจะจุดไฟให้ลุกโชนเพื่อเป็นการวอร์มแป้งให้อุ่น จากนั้นจัดใส่จานและท็อปด้วยไอศกรีมวานิลลา กลายเป็นเมนูของหวานสุดลงตัว
ไปต่อกันกับขนมหวานสไตล์ดั้งเดิมอย่าง Vanilla Madagascar Millefeuille (340 บาท++) มิลเฟยสไตล์ฝรั่งเศสที่ใช้แป้งพายสลับชั้นกับครีมวานิลลา โดยใช้วานิลลาแท้จากมาดากัสการ์ให้ความหอมหวานกำลังพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกันกับไอศกรีมวานิลลาและบัตเตอร์ครัมเบิล ปิดท้ายด้วย Classic Baba with Zacapa Rum & Chantilly Cream (360 บาท++) ขนมปังฝรั่งเศสแช่ในเหล้าไซรัปสูตรพิเศษของทางร้าน ท็อปด้วยครีมโฮมเมดและ Dark Rum
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่จะช่วยสร้างช่วงเวลาสุดพิเศษและประสบการณ์การทานอาหารสไตล์ฝรั่งเศสลองแวะมาที่ Brasserie 9 พร้อมเสิร์ฟวิถีความอร่อยแบบฝรั่งต้นตำรับให้คุณได้ลองในทุก ๆ วัน
สาทร 6
เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 00.00 น.
โทร. 02-234-2588
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
www.brasserie9.com
www.instagram.com/brasserie9bkk
www.facebook.com/Brasserie9BKK
