เข้าสู่ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีทั้งที BKK. ขอชวนสายฮอปทั้งหลายไปส่งท้ายปลายปีกันแบบจัดเต็มกับ 13 คาเฟ่น้องใหม่ต้อนรับเดือนพฤศจิกายน ใครใกล้ที่ไหนเล็งเมนูโปรดแล้วเตรียมไปเช็กอินกันได้เลย!
เริ่มต้นกันที่สาขาล่าสุดของ Fika & Co คาเฟ่สุดเก๋ในย่านอโศกที่ขนทัพเครื่องดื่มซิกเนเจอร์มาให้คุณได้ลิ้มลองกันที่โครงการ Dan’s Happy Square บนถนนสุรวงศ์ โดยตัวร้านเป็นเคาน์เตอร์บาร์สีขาวสะอาดตาขนาดกะทัดรัด มาพร้อมกับโซน Sharing Space ร่วมกับร้าน Lumos’s House
สำหรับสาขานี้ทางร้านแนะนำให้ลองเมนูใหม่อย่าง Watermelon Breeze เมนูสุดเฟรชที่มีส่วนผสมของไซรัปแตงโมโฮมเมด เพิ่มความเปรี้ยวนิดๆ ด้วยน้ำเลมอนคั้นสด สอดแทรกความหนุบหนับของเจลลีแตงโมไว้ที่ด้านล่าง
และ Watermelon Jelly Latte การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างกาแฟและแตงโม แอบซ่อน Hint เล็ก ๆ ของวานิลลาเพิ่มความหอมหวาน ก่อนจะเคี้ยวหนุบหนับไปกับเจลลีแตงโมโฮมเมดช่วยเติมความสนุกให้เครื่องดื่มแก้วนี้ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งหมดนี้สามารถจับคู่ทานกับขนมแสนอร่อยของ Lumos’s House ได้อย่างเพลิดเพลิน
Fika & Co สาขาสุรวงศ์
Dan’s Happy Square
เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00 - 15.00 น.
www.facebook.com/fikaandcobkk
MTCH ยกทัพชาเขียวสุดพรีเมียมมาให้ชาวราชพฤกษ์ได้ลิ้มลองกันที่ The Circle ราชพฤกษ์ โดยในสำหรับที่สาขานี้ยังคงคอนเซ็ปต์ความเรียบง่ายสไตล์มินิมัลเช่นเคย แต่ผสานความโฮมมีและดูเป็นกันเองมากขึ้นด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีไม้ให้สอดคล้องกับบรรยากาศโดยรอบของย่านนี้ที่ครอบครัวมักจะแวะมาใช้เวลาพักผ่อนเอ็นจอยไปกับของอร่อยร่วมกัน
สำหรับเมนูที่สาขาใหม่นี้ทางร้านครีเอตเมนูโดยคำนึงถึงความเป็นครอบครัวเป็นหลัก ที่เมื่อเข้ามาแล้วสามารถอร่อยไปพร้อม ๆ กันได้ทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมนูเนียนนุ่มสำหรับคุณแม่อย่าง Gokou มัทฉะลาเต้ที่ใช้ชาเขียวสายพันธุ์ Gokou จากเกียวโต มาชงผสมกับนม ให้ความหอมหวาน รสชาตินุ่ม ๆ แบบ ไวท์ช็อกโกแลต วานิลลา เมนูเข้ม ๆ สไตล์คุณพ่ออย่าง Saemidori เมนูมัทฉะไม่ผสมนมที่เลือกใช้ชาเขียวจากฟูกุโอกะ ให้กลิ่นหอมไหม้ของพีนัทอย่างชัดเจน ดื่มได้เรื่อย ๆ ไม่ขมฝาด
และเมนูสนุก ๆ เหมาะกับคุณลูกอย่าง MTCH Frappe Coconut เมนูที่สนุกยิ่งขึ้นด้วยการเทชาเขียวสายพันธุ์ Saemidori จากเมืองฟุกุโอกะ ลงบนน้ำมะพร้าวปั่น ให้ความหอมไหม้เป็นเอกลักษณ์ของตัวชา และความหอมหวานของน้ำมะพร้าวปั่นผสานกันได้อย่างลงตัว และ MTCH Banoffee เมนูไฮไลต์ของสาขาใหม่ที่ให้ความกรุบกรอบของฐานครัมเบิ้ล สลับชั้นกับเนื้อกล้วยสไลซ์และคาราเมล ก่อนจะท็อปด้วยครีมชาเขียวเข้มข้นที่เลือกใช้ชาเขียวสายพันธุ์ Yabukita จากเมืองฟุกุโอกะ
MTCH สาขาราชพฤกษ์
The Circle ราชพฤกษ์ (ซอยเดียวกับโอ้กะจู๋)
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.
www.facebook.com/mtch.bkk
Son of Saigon คาเฟ่สไตล์เวียดนามที่อยากชวนคุณมารับประทานอาหารแบบไซง่อนดั้งเดิม ภายใต้บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายสไตล์เวียดนามที่ออกแบบและดีไซน์ทุกมุมของร้านให้สะท้อนถึงคาเฟ่ต้นแบบมากมายในเมืองโฮจิมินห์ ประดับประดาไปด้วยโคมระย้าจากเครื่องจักสานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหมวกทรงกรวยสไตล์เวียดนาม เพิ่มกิมมิกน่ารัก ๆ ให้กับร้านได้เป็นอย่างดี
เมื่อมาถึงแล้วทางร้านแนะนำให้ลอง บั๋นหมี่หมูย่าง (260 บาท) ขนมปัง Baguette อบจนได้ความกรอบนอกนุ่มในแบบพอดี สอดไส้คอหมูย่างถ่านสไตล์ไซง่อน ปาเต้สูตรโฮมเมด และซอสมายองเนสที่ทำเอง ให้รสชาติหอม กลมกล่อมตามแบบฉบับแซนด์วิชสไตล์เวียดนาม
Son of Saigon
ซอยทองหล่อ 15
เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 11.00 - 20.00 น.
โทร. 09-6246-6224
www.facebook.com/sonofsaigon
Vogue Cafe คาเฟ่แห่งแรกในเมืองไทยของนิตยสารชื่อดังอย่าง Vogue Magazine ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูให้คุณได้ลองและสามารถนั่งชิลล์ภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ ในร้านโทนสีขาวสบายตา รายล้อมด้วยกระจกใสบานใหญ่ ได้นั่งผ่อนคลายไปกับเมนูโปรดและชมวิวเมืองกันอย่างเพลิดเพลิน
FULL REVIEWแนะนำให้ลอง Iced Opéra Blue Tea (250 บาท) ที่ทางร้านใช้ชาสุดพรีเมียมจากแบรนด์ชาในตำนานจากฝรั่งเศสอย่าง Mariage Frères ชาสีฟ้าผสานความสดชื่นของเบอร์รีและความหวานของวานิลลา ก่อนจะตัดรสชาติด้วยเลมอน
Vogue Cafe
Erawan Bangkok ชั้น 2
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 20.00 น.
โทร. 09-4994-1888
www.facebook.com/VogueThailandOfficial
www.facebook.com/Vogue-Caf%C3%A9-Bangkok-101173675674932
Sarnies Roastery คาเฟ่แบรนด์ดังจากสิงคโปร์ที่ขยับขยายสาขามาเสิร์ฟความอร่อยกันที่ซอยต้นสน หยิบยกเอาโรงคั่วกาแฟมาไว้ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายในอบอวลไปด้วยความรักของบรรยากาศที่แสนเรียบง่ายสไตล์ Cozy ตัวร้านรายล้อมด้วยกระจกใสรอบด้านพร้อมเปิดรับแสงธรรมชาติที่เข้ามาเติมเต็มความอบอุ่นให้ภายใน ในระหว่างวัน
FULL REVIEWทางร้านนำเสนอหลากหลายเมนูโฮมเมดที่ตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน ในคอนเซ็ปต์ All Day Breakfast เริ่มต้นกันที่ Pimp My Breakfast (475 บาท) (ราคาขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในการเลือก) เมนูอาหารเช้าที่ประกอบไปด้วยความนุ่มละมุนของขนมปัง Brioche ที่ใช้แป้งนำเข้าจากออสเตรเลีย เหนียวนุ่มไม่เหมือนใคร เคียงคู่กันกับ Smoke Pastrami, Smashed Avocado และ Smoked Tomatoes
Sarnies Roastery
ซอยต้นสน ถ.เพลินจิต
เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 17.00 น.
โทร. 02-003-7592
www.facebook.com/sarnies.bkk
ชวนสาย Specialty Coffee มาดื่มด่ำไปกับกาแฟคุณภาพดีที่ Butch's Coffee คาเฟ่แสนอบอุ่นในย่านวิภาวดีรังสิต พร้อมเปิดประตูต้อนรับให้ทุกคนแวะมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ไปกับเครื่องดื่มแก้วโปรดภายใต้บรรยากาศแสนโฮมมี่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟที่เจ้าของร้านคั่วเอง
FULL REVIEWทางร้านแนะนำเป็นเมนูแปลกใหม่แต่น่าลองอย่าง Corny Dirty (120 บาท) กาแฟ Dirty ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟจากบราซิลนำมาครีเอตรสชาติความอร่อยกับข้าวโพด ให้ความนุ่มละมุนจากนมผสมครีม เข้มข้นจากกาแฟผสานความหอมหวานและอบอวลไปด้วยกลิ่นของข้าวโพดแบบเต็มคำ
Butch's Coffee
ซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 1
เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 16.00 น.
โทร. 09-0971-6761
www.facebook.com/butchscoffee
JEDI Café & Bar คาเฟ่สไตล์มินิมัลใจกลางพระนครที่สอดแทรกความเป็นไทยผสานเข้าไว้กับความหลงใหลในงานศิลปะ โดยทางร้านต้องการให้ที่นี่ได้เป็น Healing Cafe ที่สามารถฟื้นฟูจิตใจทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาด้วยทัศนียภาพสวย ๆ เห็นวิวภูเขาทองและแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะเยียวยาร่างกายด้วยเมนูโปรดที่ทางร้านพร้อมเสิร์ฟ
แนะนำให้ลองซิกเนเจอร์อย่าง JEDI Latte (140 บาท) ลาเต้เย็นที่แฝงความเป็นไทยไว้ด้วยไซรัปมะพร้าวผสมเข้ากับนมได้อย่างลงตัว โรยขอบแก้วด้วยขนมผิงที่ให้กลิ่นหอมอบอวลเข้ากันกับกาแฟได้เป็นอย่างดี
JEDI Café & Bar
ถนนบริพัตร (ใกล้วัดภูเขาทอง)
เปิด วันพฤหัสบดี-วันอังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 09.00-17.30 น.
โทร. 08-6644-4264
www.facebook.com/jedibangkok
ชวนพลพรรคคนรักกาแฟเช็กอินกันที่ Smokey Cat Coffee Roaster ร้าน Specialty Coffee น้องใหม่ในซอยสวนพลูที่อัดแน่นไปด้วยเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดีจากแหล่งเพาะปลูกทั้งของไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงเมนูพิเศษอื่น ๆ สำหรับคนที่ไม่ถนัดกาแฟก็มีไว้บริการเช่นกัน
สำหรับใครที่ไม่ถนัดกาแฟทางร้านยังมี Craft Cola (120 บาท) คราฟต์โคล่าสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ใช้หัวเชื้อโคล่าโฮมเมดมาผสมกันกับน้ำและไซรัปในอัตราส่วนที่พอเหมาะ บรรจุลงในเครื่องอัดแก๊ส จนได้คราฟต์โคล่ารสชาติเป็นเอกลักษณ์เสิร์ฟคู่กับเปลือกเลมอนช่วยเพิ่มความหอม
Smokey Cat Coffee Roaster
อาคาร 1B Suanplu Corner, ซอยสวนพลู ถนนสาทร (BTS สถานีศาลาแดง, MRT สถานีลุมพินี)
(สามารถจอดรถได้ที่โรงแรม Somerset ด้านข้างร้าน ฟรี! 2 ชั่วโมง)
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
โทร.09-8444-5245
www.facebook.com/smokeycat.roaster
เอาใจคอกาแฟชาวสามย่านกันที่ Never Snooze Coffee ร้านกาแฟคุรภาพจากย่านพัฒนาการที่ขยายความอร่อยมาเสิร์ฟให้คุณได้ลองในโครงการ Dragon Town ตั้งในแบบ Coffee Stan ร่วมกันกับร้าน CHREW ตอบโจทย์คนรักกาแฟและสายช้อปแบบจบครบในที่เดียว
ความโดดเด่นของกาแฟในแบบฉบับของ Never Snooze Coffee คือการเบลนด์รสชาติเครื่องดื่มจากเมล็ดกาแฟคั่วกลางและอ่อนเป็นหลัก มีให้เลือกทั้งแบบ SIngle Origin ที่ทางร้านคั่วเองและมีเมล็ดอื่น ๆ ให้เลือกอีกมากมายแต่ใช้เมล็ดหลักเป็น เมล็ดกาแฟสันเจริญ จากจังหวัดน่าน สามารถลองเป็น Dirty (100 บาท) เอสเพรสโซช็อตคั่วกลางที่ผสมเข้าครีมสดรสกลมกล่อม ใครที่ชอบดื่มกาแฟเดอร์ตี้รสชาติละมุน ๆ แล้วละก็ ที่นี่ดีงามไม่แพ้ Specialty Coffee ร้านไหน ๆ เลยล่ะ
Never Snooze Coffee
โครงการ Dragon Town, จุฬาฯ ซอย 5 (ฝั่งอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ)
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.30 น.
(ช็อปร้าน CHREW เปิดเวลา 10.00-19.00 น.)
www.facebook.com/neversnoozecoffee
www.facebook.com/chrewbkk
ชวนคุณเปลี่ยนบรรยากาศมาสวมบทบาทเป็นผู้โดยสารนั่งรถไฟในยุค 1930's มานั่งทานไอศครีมโฮมเมดที่ ‘QreAm Asoke’ ใน Hidden บาร์สุดเก๋ย่านอโศก ที่โชว์ทุกขั้นตอนการทำไอศกรีม และสัมผัสรสชาติเรียล ๆ ของวัตถุดิบที่คุณเลือกท็อปปิ้งได้ในแบบฉบับของตัวเอง
แน่นอนว่าไอศกรีมของทางร้านหยิบเอารสชาติความคลาสสิกมานำเสนอออกมาในเวอร์ชันของตัวเอง ที่เข้าถึงง่าย และทานง่ายแบบที่ไอศกรีมควรจะเป็น เพราะเชื่อว่าใคร ๆ ต่างก็รักการทานไอศกรีม โดยเฉพาะ The OGV (Vanilla) (140 บาท) ไอศกรีมวานิลลาที่ให้สัมผัสของเนื้อที่นวลแน่น เพราะใช้เบสไอศกรีมที่ทำจากคัสตาร์ดผสมไข่แดง และกลิ่นหอม ๆ ของวานิลลาที่มาจากมาดากัสการ์ และเพิ่มมิติให้ชัดขึ้นด้วยการเติมรัมผสมผสานเข้าไป
Q&A Bar
สุขุมวิท 21
เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-20.00 น.
จองล่วงหน้าเท่านั้นผ่านทาง 08-978-97136 และ 02-664-1445
www.facebook.com/QreAm.Asoke
หลาย ๆ คนคงเป็นแฟนโดนัทโฮมเมดของ DROP BY DOUGH ที่เปิดให้ชิมกันมาแล้วสองสาขา แต่ครั้งนี้เปิดบ้านให้เราเข้าไปทานที่สาขาใหม่ ในคอนเซ็ปต์ All Day Dining พร้อมการตกแต่งแบบ Scandi-Japanese Style ที่ถูกใจสายดีไซน์และสายมินิมัล ด้วยโทนสีน้ำเงินตัดกับสีครีม และเฟอร์นิเจอร์ไม้อันเป็นเอกลักษณ์ชวนอบอุ่น ให้นั่งทานอาหารและจิบกาแฟชิลล์พร้อมวิวย่านพร้อมพงษ์ได้ตลอดทั้งวัน
นอกจากโดนัทที่เป็นของหวานซิกเนเจอร์ของร้านไว้ทานคู่กับกาแฟ ครั้งนี้เราจะได้ทานโดนัทเป็นจานหลัก เพราะมีเมนูใหม่ ๆ ที่หลากหลาย เอาใจคนรักแป้งนุ่ม ๆให้ทานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Crab Meat & Menraiko Salad (350 บาท), Tamagoyaki Sando (Nut) (220 บาท) ที่ได้กลิ่นอายของโดนัทเนื้อนุ่มในรสชาติสไตล์ญี่ปุ่น รวมไปถึงจานสลัดและสปาเกตตี้ต่าง ๆ ที่น่ารับประทาน ส่วนใครที่เป็นสายถ่ายรูป ก็อย่าลืมเตรียมท่าโพสเก๋ ๆ ไปถ่ายรูปกันที่ตู้ Photo Booth หน้าร้านกันด้วยนะ!
DROP BY DOUGH
EmQuartier ชั้น 1
เปิดทุกวัน 11.00-21.00 น.
โทร. 09-7260-6358
www.facebook.com/dropbydoug
First Date Farm จากป๊อบอัพเล็ก ๆ สู่คาเฟ่กึ่งร้านชำสุดเก๋ที่ The Circle Ratchapruk ที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเข้ามาสัมผัสบรรยากาศ เพราะเมื่อมองผ่านกระจกใสที่คล้ายโรงเรือนเข้ามา จะเจอกับบรรดาอุปกรณ์ทำสวน พืชผักสวนครัว ไม้ดอกและไม้ประดับที่ทำเอาอยากซื้อกลับไปปลูกที่หน้าบ้าน
รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก ‘อินทผลัม’ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอินทผลัมสด ชาเกสรอินทผลัม ผักผลไม้จากฟาร์มและเกษตรกรเครือข่าย ในบรรยากาศสบาย ๆ แต่ได้กลิ่นอายความ Homey แบบมาเต็ม โดยเฉพาะเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ทางร้านตั้งใจใช้ผลผลิตจากอินทผลัมเป็นส่วนประกอบเกือบทุกเมนู เพื่ออยากให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับ ‘อินทผลัม’ ผลไม้ที่ไม่ได้ทานยากอีกต่อไป
แนะนำให้ลองเป็น Date Cola (160 บาท) เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้าน ที่ใช้วิธีการหมักน้ำอินทผลัมสดกับโพรไบโอติกส์ที่ผ่านกระบวนการหมักโดยไม่ผ่านความร้อนทำให้จุลินทรีย์ยังคงมีชีวิตอยู่ และนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดต่าง ๆ เพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่ซับซ้อนก่อนออกมาเป็นโคล่าที่เย็นชื่นใจ รวมถึงรสชาติหวานน้อยที่ถูกใจทุกเพศทุกวัย
First Date Farm
The Circle Ratchapruk ถนนราชพฤกษ์
เปิดทุกวันเวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 06-5585-3251
www.facebook.com/firstdatefarm
ให้คนรักมัทฉะได้จับมือคนพิเศษไปดื่มด่ำกับรสสัมผัสที่ซับซ้อนของมัทฉะในบรรยากาศเท่ ๆ ของ 'Grow Teastudio' Tea House น้องใหม่แห่งย่านสุทธิสารที่มาในธีมสีดำเข้มขรึม พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มคุณภาพพรีเมียมให้คุณได้ลิ้มลองกันอย่างจุใจ และรับชมการชงชากันแบบสดใหม่แก้วต่อแก้วที่หน้าบาร์อย่างใกล้ชิด โดยจะเปิดโอกาสคุณได้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องของชาอย่างเต็มที่ รับรองว่ามาที่นี่ได้ทั้งจิบชาและเรียนรู้เรื่องของชาอย่างคุ้มค่าแน่นอน!
ทางร้านแนะนำให้ลองเป็น Shibumi (160 บาท) มัทฉะเบลนด์สูตรพิเศษของทางร้าน ชงจากชา Kyomidori Kyokuro ให้รสชาติที่ค่อนข้างซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมัทฉะ
Grow Tea House
ซอยอุดมสุข สุทธิสาร
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น.
โทร. 06-3218-3613
www.facebook.com/Grow-teastudio-285296316605208