Wandering Around the Old Town
'ตลาดน้อย' หรือ 'ตะลักเกียะ' ย่านการค้าเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีความคึกคักรองลงมาจากเยาวราช ย่านสำคัญที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของชุมชนชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันแม้กาลเวลาจะผ่านไป ก็ยังคงทิ้งร่องรอยของวัฒนธรรม การใช้ชีวิต ความเชื่อ ผ่านสถานที่เคารพบูชาทั้งศาลเจ้า และสถาปัตยกรรมบ้านรูปทรงแบบจีน
นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยสีสันของงานศิลปะที่ถ่ายทอดเรื่องราวของตลาดน้อยได้อย่างมีชีวิตชีวา มาดูกันว่าตลาดน้อยจะมีมุมไหนให้เราได้สัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ กันบ้าง
หรือที่เรียกกันว่าวัดพระแม่ลูกประคำ หนึ่งในโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเก่าแก่ของประเทศไทยที่ยังคงรักษาความสวยงามมานานกว่า 120 ปี และยังเป็นวัดคาทอลิกแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย แม้จะเดินทางมาร่วมศตวรรษแต่ยังรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ผ่านสถาปัตยกรรมแบบกอธิกสูงชะลูดได้สมบูรณ์
เมื่อเดินเข้ามาด้านใน จะเจอกับเพดานโค้ง ที่ปลายทางมีจั่วครึ่งวงกลม และกำแพงที่ประดับประดาไปด้วยกระจกช่องสีแสงสวยงามที่สะท้อนเรื่องราวในพระคัมภีร์ ทุก ๆ วันอาทิตย์จะเต็มไปด้วยบรรดาคริสต์ศาสนิกชนที่มาร่วมประกอบพิธิมิซซาภายในวัดแห่งนี้ด้วย
โบสถ์กาลหว่าร์
ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย
เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของตลาดน้อยคือ อาคารธนาคารไทยพาณิชย์สีเหลืองหลังใหญ่ เป็นธนาคารแห่งแรกของประเทศไทยที่มีความสวยงามโอ่อ่าด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตก ผสมผสานกับนีโอคลาสสิก ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบย้อนยุค ที่ชวนให้เราเข้าไปดูความปราณีตของ ปูนปั้น หัวเสา ลาดบัวได้อย่างใกล้ชิด ปัจจุบันก็ยังคงเปิดให้ใช้งานปกติท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย
เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
เมื่อเดินทะลุผ่านตรอกซอกซอยภายในย่านตลาดน้อย นอกจากจะยังคงเห็นร่องรอยในอดีตผ่านผนังอิฐและหลังคาทรงจีน รวมถึงเครื่องรางที่ชาวจีนติดไว้เหนือประตูบ้านก็สะท้อนวิถีความเป็นอยู่ของคนจีนในชุมชนได้เป็นอย่างดี รวมถึงสตรีทอาร์ทที่ถูกวาดขึ้นจากงงานเทศกาลเมืองศิลปะ 2016 บุกรุก ครั้งที่ 2 ที่ได้ศิลปินไทยและต่างประเทศมาสร้างสรรค์ไว้ตามตรอกซอกซอย
นอกจากนี้ยังมีศิลปินอื่น ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาสร้างงานศิลปะสมัยใหม่ก็ช่วยสร้างสีสันให้ตลาดน้อยเป็นย่านที่น่าค้นหามากขึ้น
ความอร่อยแบบดั้งเดิมย่านตลาดน้อยที่เปิดคู่กับตลาดน้อยมานานกว่า 40 ปี ถ้ามาแถวนี้แล้วห้ามพลาดไปชิม ความพิเศษของเป็ดตุ๋นเจ้าท่าคือเลือกใช้ เป็ดโป๊ยฉ่าย เป็ดตัวโตที่มีต้นกำเนิดการเลี้ยงมาจากประเทศจีน เนื้อจะนุ่มเป็นพิเศษ ยิ่งนำมาทำเป็ดตุ๋นยิ่งอร่อยถูกใจ
แนะนำให้ลองสั่ง ข้าวหน้าเป็ด (70 บาท) เมนูที่เพิ่มความหอมด้วยกระเทียมเจียวลงบนเนื้อเป็ดเหนียวนุ่ม ให้ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด และเมนูบะหมี่น้ำเป็ดตุ๋น (70 บาท) ที่มาพร้อมเส้นหมี่เหนียวนุ่ม เนื้อเป็ดชิ้นใหญ่ และน้ำซุปรสชาติเข้มข้นที่ซดแล้วต้องอยากสั่งเพิ่ม
เป็ดตุ๋นเจ้าท่า
ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย
โทร. 08-182-3216
เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.30-15.00 น.
ศาลเจ้าโรงเกือก หรือศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง อีกหนึ่งมุมที่ผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศาลเจ้าเก่าแก่ของคนจีนฮากกาที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อตามกลิ่นหอมของควันธูปเข้ามาด้านในจะเจอกับประติมากรรมฝาผนังสีแบบนูนต่ำที่บันทึกเรื่องราวของคนจีนในสมัยนั้นเอาไว้
ศาลเจ้าโรงเกือก
ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย
เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.
เดินตรงย่ำเท้าเข้าไปในซอยด้านในเรื่อย ๆ จะเจอกับสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณที่มีสระว่ายน้ำตั้งอยู่กลางบ้านเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี บ้านโซวเฮ่งไถ่สร้างโดยต้นตระกูลโปษยะจินดา (เจ้าสัวโซว) ก๋งจีนผู้ร่ำรวยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตัวบ้านยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่เอาไว้ ทั้งประตู ข้าวของสะสม รวมทั้งรูปภาพบนฝาผนังเก่า ปัจจุบันยังเปิดให้เข้าไปนั่งจิบกาแฟ เพื่อชมความงามแบบคลาสสิกของสถานที่แห่งนี้
บ้านโซวเฮ่งไถ่
ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย
เปิดทุกวันเวลา 09.00-18.00 น.
ศาลเจ้าเก่าแก่ที่โดดเด่นด้วยสีแดงชวนให้ต้องมนต์ขลัง และยังคงรักษารูปแบบศิลปะลายปูนปั้น การวางผังอาคารสมัยราชวงศ์ชิงไว้อย่างเด่นชัด แม้จะมีการปรับปรุงซ่อมแซมหลายครั้งตามกาลเวลา ศาลเจ้าแห่งนี้มีหลวงปู่โจวซือกง เป็นศูนย์กลางของชาวจีนฮกเกี้ยน เมื่อถึงเทศกาลกินเจก็จะมีการจัดพิธีแบบจีนโบราณกันอย่างยิ่งใหญ่
ศาลเจ้าฮกเกี้ยนโจซือกง
ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย
เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.
ชวนมาสัมผัสความนุ่มละมุนและกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคุณภาพดีที่บ้านหลังใหม่ของ Mother Roaster ร้านกาแฟเล็ก ๆ ในย่านตลาดน้อย ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็น Slow Bar อยู่ริมถนนมหาพฤฒาราม โดยยังคงโดดเด่นด้วยรสชาติ ความหอมอร่อยที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพไว้เช่นเดิม พร้อมเพิ่มเติมด้วยพื้นที่กว้างขวางของโลเคชันใหม่ ให้คุณได้แวะมาดื่มด่ำกาแฟคุณภาพดีจากเครื่อง ROK Presso ที่ดริปและคั่วเองจากฝีมือ Mother บาริสต้าสุดเท่ประจำร้าน
สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มที่ Iced Latte on The Rok (80 บาท) กาแฟนมที่ผสมผสานรสชาติกลมกล่อมด้วยเมล็ดกาแฟ Autumm Blend ที่ให้รสชาติคล้ายกับ Nutty และ Dark Chocolate โดยเสิร์ฟมาพร้อมน้ำแข็งก้อนกลม เพื่อคงความเข้มข้นของรสชาติกาแฟ สำหรับแก้วนี้ให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุน พร้อมผสมผสานความหอมกรุ่นที่ไม่เหมือนใคร
หากใครที่ชอบดื่มกาแฟรสชาติเข้มข้น แนะนำ Shakerato (80 บาท) กาแฟเอสเพรสโซที่ทางร้านมีหลากหลายเมล็ดกาแฟให้เลือกตามความชอบ จากนั้นนำมาเชคให้เกิดเป็นฟองนมนุ่ม ๆ ที่จะสัมผัสได้ถึงความเข้มข้น พร้อมกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคั่วบดออกมาได้เป็นอย่างดี
Mother Roaster
ตลาดน้อย ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก (เจริญกรุง 22)
เปิดทุกวันเวลา 10.00-18.00 น.
โทร. 06-1216-2277
www.facebook.com/motherroaster
ชวนคุณไปเช็กอิน Henryfry ร้านไก่ทอดน้องใหม่ในย่านเจริญกรุง ของ คุณนุ้ย ศิริชัย สมานวิบูลย์ และ คุณสายขิม อภิชญา พรมแสง เจ้าของร้าน ที่ดัดแปลงอาคารหลังเก่าให้กลายเป็นบ้านหลังน้อยขนาดกะทัดรัด พร้อมทั้งตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบจากไทยชั้นดี มาปรุงด้วยกรรมวิธีสไตล์ Homemade ที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำ
ไม่เพียงแต่เมนูไก่ทอดเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายเมนูสไตล์ Homemade ที่ทั้งสองร่วมกันรังสรรค์ความอร่อยของรสชาติที่เราคุ้นเคยชวนให้แวะมาลิ้มลอง ในบรรยากาศสไตล์ Homey ที่ให้ความอบอุ่น เป็นกันเอง รู้สึกสบายตาด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นสแกนดิเนเวียนเอาไว้ แอบผสมผสานกับบางมุมที่ให้กลิ่นอายของ Japanese Home ช่วยให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย สามารถนั่งชิลล์กับเมนูแสนอร่อยได้อย่างเพลิน ๆ
จัดเต็มกับเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ไก่ทอด Set M-Fry 4 Pics. (320 บาท) ที่สามารถเลือกส่วนที่ต้องการได้ไม่ว่าจะเป็นอกไก่ ปีกไก่ น่องไก่ หรือสะโพกไก่ สำหรับวันนี้ทางร้านเสิร์ฟเป็นไก่ทอดส่วนสะโพกทอดกรอบแบบจานต่อจาน ทำให้อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟร้อนแบบพร้อมทานอย่างแน่นอน ตัวไก่ให้รสชาติเผ็ดเล็กน้อยจากผงปาปริก้า เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส Henryfry และมันฝรั่งทอดกรอบ
นอกจากนี้ทางร้านยังมี Henry Brunch Set (Grill Cheese) (350 บาท) เซ็ตเมนูอาหารเช้าแบบจัดเต็มที่เสิร์ฟมาทั้ง Scramble Egg เบคอนทอดกรอบ ขนมปังสอดไส้ชีสกริลล์ และมันฝรั่ง เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เมนูเติมพลัง อิ่มกันแบบยาว ๆ
Henryfry
ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์
เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ 12.00-20.00 น.
โทร. 09-6791-0780
www.facebook.com/henryfry.eatary
Patina Bangkok คาเฟ่สุดชิคที่พร้อมเปิดต้อนรับทุกคนได้มาดื่มด่ำไปกับหลากหลายเมนูคุณภาพดี พร้อมซึมซับวิถีความคลาสสิกของบ้านหลังเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสไตล์จีนในคราวเดียวกัน สอดคล้องกับชื่อร้านอย่าง ‘Patina’ ที่หมายถึงร่องรอยเสน่ห์แห่งความคลาสสิกที่เก่าแก่ไปตามกาลเวลา
ไม่ว่าใครที่ผ่านไปผ่านมาจะต้องสะดุดตากับบ้านหลังเก่าที่ยังคงความคลาสสิกของโครงสร้างเดิมเอาไว้ ชวนให้เดินเข้าไปซึบซับบรรยากาศด้านใน ด้วยบริเวณหน้าร้านที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและสไตล์จีนเข้าไว้ด้วยกัน นับตั้งแต่หลังคาจั่วและหน้าต่างไม้แบบบ้านไทยโบราณ ผสานเข้ากับประตูทรงโค้งสไตล์จีนและช่องลมฉลุลาย ให้กลิ่นอายความคลาสสิกได้เป็นอย่างดี
สำหรับความพิเศษของเมล็ดกาแฟจากทางร้าน อยู่ที่การคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพดีที่เน้นใช้เมล็ดกาแฟไทยจากดอยสามหมื่น จังหวัดเชียงใหม่ นำมาเบลนด์รวมกับเมล็ดกาแฟบราซิลที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้กลิ่นหอมกรุ่นและรสชาติเข้มข้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Dirty (120 บาท) เมล็ดกาแฟไทยบราซิลรสเข้มข้น นำมาผสมผสานความนุ่มละมุนและรสชาติกลมกล่อมด้วยนมแช่เย็น เป็นอีกเมนูดื่มง่ายได้ทั้งความครีมมีและความเข้มข้นในแก้วเดียว ต่อกันที่ Butterfly Linn (100 บาท) ไซรัปสีสันสวยงามของดอกอัญชัน ที่เพิ่มกลิ่นหอมหวานด้วยมะลิ ก่อนจะเสริมรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ด้วยมะนาว ผสานความซ่าสดชื่นด้วยโซดา แล้วท็อปด้านบนด้วยเลมอนสดและใบมินต์ปิดท้าย
Patina Bangkok
965 ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
โทร. 09-5740-1965
www.facebook.com/Patina.bkk
La Cabra Bangkok สาขาแรกที่ส่งตรงกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากประเทศเดนมาร์ก ให้คอกาแฟได้ลิ้มลองกันที่ย่านเจริญกรุง ย่านเก่าแก่ที่โดดเด่นในเรื่องของบรรยากาศสุดคลาสสิก ซึ่งทางร้านได้ดีไซน์บรรยากาศให้เข้ากันกับย่านนี้ได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งในสไตล์นอร์ดิกผสานกับความเป็นแฟชันท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย มาพร้อมกับกิมมิกความเป็นไทยที่แฝงเอาไว้ในแต่ละมุมของร้าน
FULL REVIEWLa Cabra Bangkok คัดสรรไร่กาแฟชั้นดีจากกลุ่มประเทศต่าง ๆ ที่ใส่ใจตั้งแต่เกษตรกรผู้เพาะปลูก ความสูงของไร่ที่เหมาะสม ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ขั้นตอนการแปรรูป ตลอดจนถึงวิธีการคั่ว ทำให้คาแร็กเตอร์กาแฟของ La Cabra ให้รสชาติความสดชื่น เบา หอมกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ และดื่มง่าย เช่น Coffee with Milk (140 บาท) กาแฟนมจากเมล็ดกาแฟหมวด Comfort ที่เลือกใช้ Irmãos Manzoli เมล็ดกาแฟบราซิล แบบ Single Origin ให้รสชาติละมุนของ Chocolate, Hazelnut และ Blackberry และ Yuzu Honey Soda (90 บาท) เมนูสดชื่นจากน้ำส้มยูซุผสมโซดา ให้ความเฟรชสู้กับแดดร้อน ๆ ของเมืองไทย ก่อนจะเติมความหวานให้แก้วนี้ด้วยน้ำผึ้งหอม ๆ
La Cabra Bangkok
อยู่ระหว่างซอยเจริญกรุง 29-31 เขตสัมพันธวงศ์
เปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
โทร. 08-4155-4564
www.facebook.com/lacabra.thailand