เดินทางสะดวก เลือกอิ่มได้หลากหลายกับ 5 ร้านอร่อย ที่ G Tower

Published on February 12, 2018
ใครที่ได้ผ่านไปในย่านพระราม 9 อาจจะเคยสะดุดตากับตึกใหม่ดีไซน์สวยอย่างมีเอกลักษณ์ที่อยู่ติดกันกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ พระราม 9 นั่นก็คือ G Tower สำนักงานเกรด A ให้เช่าใจกลาง New CBD :The Grand Rama 9 ที่นอกจากจะสะดวกสบายรองรับทุกธุรกิจ และยังครบครันไปด้วยร้านอาหารต่างๆ มากมาย พร้อมด้วยร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าแบรนด์แฟชั่น และธนาคารต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการชาวออฟฟิศและชาวพระราม 9 นอกจากนี้ตัวอาคารยังออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อกับ MRT พระราม 9 ทางออกที่ 3 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางอีกด้วย 


 

บริเวณชั้นล่างของ G Tower

สำหรับใครที่ผ่านไปในย่านนั้นแล้วไม่รู้จะทานอะไร ลองมาดูลิสต์ร้านจากสกู๊ปนี้ที่ BKKMENU.com แนะนำกัน


1

Peace Oriental Teahouse

 

Tieguanyin (240 บาท/เซ็ต) และ เมนู Clear Tea (120 บาท/แก้ว)

 

ภายในร้าน Peace Oriental Teahouse

เริ่มต้นที่ร้านแรก Peace Oriental Teahouse ห้องน้ำชาสไตล์ตะวันออกที่ชั้น G ของอาคาร G Tower ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการใช้ใบชาสูตรเฉพาะจากหลาย ๆ แหล่ง พร้อมด้วยการชงชาที่ใช้ความปราณีตและเทคนิคแบบดั้งเดิม สาขากนี้แตกต่างจากสาขาอื่นตรงที่มี Tea Master Bar สำหรับใครที่อยากมาดื่มชาแบบ Tradition Tea และต้องการเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชาผ่าน Tea Master เริ่มจากการสั่งชาเมนูแรก Perfectionist Usucha (330 บาท/ถ้วย) ผงชาเขียวจากประเทศญี่ปุ่นที่ใช้เทคนิคการชงแบบ Usucha หรือการตีชาให้เข้ากัน ทานคู่กับ ฝอยทอง (55บาท/ที่) ให้ความหวานแทนน้ำตาลเกล็ดที่เมื่อก่อนมักจะใส่ในตัวชา หรือถ้าชอบดื่มชาร้อนแบบดั้งเดิม ลองสั่ง Tieguanyin (240 บาท/เซ็ต) ชาอู่หลงทิกวนอิมที่ใช้เทคนิคการชงแบบ Traditional โดยชงในกาเล็ก ๆ และควบคุมอุณหภูมิให้อุ่นพร้อมดื่มทันที มีกลิ่นหอม ดื่มแล้วทำให้ผ่อนคลาย โดยเมนูชาตะวันออกชงแบบดั้งเดิม ราคาจะเริ่มต้นที่ 200 บาท/เซ็ต และปิดท้ายด้วยเมนู Clear Tea (120 บาท/แก้ว) ชาเขียวเย็นที่ทางร้านแนะนำ 2 ชนิด ได้แก่ Marine Dancong ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบอิริจินอล มีรสอูมามิ หอมกลิ่นทะเล และมีคาเฟอีนสูง กับ Dancong ชาอู่หลงจากจีนที่ผ่านการย่างไฟอ่อน ๆ ให้กลิ่นน้ำผึ้งและผลไม้ มีรสชาติหอม หวาน ชุ่มคอ และมีคาเฟอีนน้อยกว่าตัวแรก ทั้งสองตัวดื่มแล้วให้ความสดชื่นได้อย่างดี

 

Peace Oriental Teahouse
ชั้น G, G Tower
เปิดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 21.00 น. วันเสาร์อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 097-267-2626
www.facebook.com/peace.t.house

2

Drip and Drop Coffee Supply

 

Matcha (ร้อน/เย็น 180 บาท), Choco (ร้อน/เย็น 160 บาท), Espresso Martini (160 บาท)

 

หน้าร้าน Drip & Drop

มาต่อกันที่ Drip and Drop Coffee Supply แบรนด์คาเฟ่ชื่อดังจากเกียวโตที่มาเปิดสาขาเอาใจคนกรุงเทพฯ โดยสาขานี้ตั้งอยู่ในชั้น B ของอาคาร G Tower เน้นความเรียบเท่ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม ตัดกับผนังปูนเปลือย มีโซนเคาน์​เตอร์สำหรับชงกาแฟ โซน Tap Beer และยังมีโซนจัดวางของใช้และของตกแต่งที่เป็นแบรนด์ของทางร้านอีกด้วย นอกจากเมนูอาหารที่จะเน้นเสิร์ฟเมนูเดียวกับที่เกียวโตแล้ว ยังมีเครื่องดื่มที่คนนิยมสั่งอีกด้วย ได้แก่ Matcha (ร้อน/เย็น 180 บาท) มัทฉะรสชาติเข้มข้น ขมนิด ๆ ไม่หวาน กับ Choco (ร้อน/เย็น 160 บาท) โกโก้ปั่นที่ให้รสสัมผัสเม็ดเล็ก ๆ ของเมล็ดโกโก้ รสชาติไม่หวาน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูแปลกใหม่อย่าง Espresso Martini (160 บาท) ค็อกเทลที่ผสมเอสเพรสโซ่ช็อต มีกลิ่นหอมของกาแฟและรสชาติค่อนข้างเข้มจากเหล้า ดื่มแล้วให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ส่วนขนมหวานทางร้านแนะนำเป็น Affogato (165 บาท) ไอศกรีมวานิลลาพรีเมียมโรยท็อปด้วยเปลือกโกโก้บด เสิร์ฟกับเอสเพรสโซ่ช็อตให้ราดลงบนไอศกรีม รสชาติหวานและเข้มข้นจากกาแฟ

 

Drip and Drop Coffee Supply
ชั้น B, G Tower (เชื่อมต่อกับ MRT พระราม 9 ทางออก 3)
เปิดทุกวัน เวลา 7.00 - 22.00 น.
โทร. 02-169-8218
www.facebook.com/drpbkk

 

3

SUSHI SEKI

 

สลัดปูนิ่ม (348 บาท), Ocean Eight (1,290 บาท) และ Chef’s Wagyu (378 บาท)

 

ภายในร้าน Sushi Seki

ส่วนใครที่รักการทานอาหารญี่ปุ่น ลองมากันที่ร้าน SUSHI SEKI โดยพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยอาหารญี่ปุ่นที่เสิร์ฟวัตถุดิบที่สดใหม่และการให้แบบไม่หวง เหมาะจะชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาใช้เวลาพร้อมทานอาหารญี่ปุ่นร่วมกัน ภายในให้บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งกระจกด้วยระแนงไม้สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมด้วยเคาน์เตอร์บาร์ซูชิที่เชฟจะโชว์การปั้นซูชิสด ๆ ให้เห็น เมนูที่ทางร้านแนะนำ เริ่มต้นที่ สลัดปูนิ่ม (348 บาท) สลัดผักหลากชนิดท็อปด้วยปูนิ่มทอดตัวโต ราดมายองเนสและน้ำสลัดงา รสชาติกลมกล่อม ตามด้วย Ocean Eight (1,290 บาท) เซ็ตที่รวมซาชิมิ 8 อย่าง ได้แก่ แซลมอน, เอนกาวะ, มาได, โทโร่, ฮามาจิ, มากูโร่, ไข่ปลาแซลมอน, และหอยเชลล์โฮตาเตะ แต่ถ้าเป็นซูชิทางร้านแนะนำ Chef’s Wagyu (378 บาท) ซูชิหน้าเนื้อวากิวสไลซ์แผ่นใหญ่ที่เบิร์นไฟให้พอสุก ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน ได้ความนุ่มและชุ่มฉ่ำของเนื้อ ส่วนข้าวปั้นนั้นทางร้านแนะนำ Unagi Roll (580 บาท) โรลข้าวญี่ปุ่นห่อสาหร่าย สอดไส้เนื้อและชีส ท็อปด้วยปลาไหลและฟัวกราส์ ตกแต่งด้วยคาเวียและทองคำเปลว ให้ความหอม ละมุนลิ้น

 

SUSHI SEKI
ชั้น B, G Tower (เชื่อมต่อกับ MRT พระราม 9 ทางออก 3)
เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 22.00 น.
โทร. 02-118- 2332 หรือ 086-091-1991
www.facebook.com/SushiSekiThailand

4

เตี๋ยวตาโต

 

ลูกชิ้นปิ้ง (ชุดละ 3 ไม้ 36 บาท), ข้าวฮังเล (85 บาท) และเตี๋ยวทะเลต้มยำ (119 บาท)

 

ด้านหน้าร้าน

ถัดมากันที่ร้านสตรีทฟู้ดใกล้ ๆ กัน อย่าง เตี๋ยวตาโต ร้านก๋วยเตี๋ยวที่โดดเด่นด้วยตัวร้านสีน้ำเงินในบรรยากาศเป็นกันเอง มีเตาหมูปิ้งที่ปิ้งกันสด ๆ ด้านหน้าร้าน และมีทีเด็ดอยู่ที่ไข่ต้มยางมะตูมสีเหลืองสดน่าทาน พร้อมด้วยน้ำพริกเผาที่ทางร้านทำเอง ให้ความเผ็ดร้อนจนเป็นที่มาของชื่อ “เตี๋ยวตาโต” สามารถเลือกความเผ็ดของก๋วยเตี๋ยวได้ 4 ระดับ ได้แก่ แซ่บน้อย แซ่บกลาง แซ่บมาก และแซ่บจี๊ด เริ่มต้นที่เมนูง่าย ๆ อย่างลูกชิ้นปิ้ง (ชุดละ 3 ไม้ 36 บาท) ลูกชิ้นหมูเสียบไม้ราดน้ำจิ้มหวาน ทานเล่นคู่กับก๋วยเตี๋ยวได้ดี หรือจะสั่ง หมูปิ้งนมสดตาโต (หมูปิ้ง 3 ไม้ ข้าวเหนียว 1 ห่อ) หมูปิ้งหมักกับนมสด ย่างเกรียม ๆ จนส่งกลิ่นหอม ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและข้าวเหนียว ส่วนใครที่อยากทานเมนูอิ่มท้อง ลองสั่ง ข้าวฮังเล (85 บาท) แกงฮัลเลใส่หมูสามชั้น เป็นสูตรเฉพาะจากต้นตระกูลของเจ้าของร้าน เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวย ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ที่พลาดไม่ได้ คือ เตี๋ยวทะเลต้มยำ (119 บาท) ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกับซีฟู้ด แนะนำให้เพิ่ม ไข่ตาโต (15 บาท) จะช่วยให้รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมยิ่งขึ้น

 

เตี๋ยวตาโต
ชั้น B, G Tower (เชื่อมต่อกับ MRT พระราม 9 ทางออก 3)
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น. 
โทร. 02-610-9243
www.facebook.com/TiewTaaToh

5

Hermitage House

 

ข้าวไข่ข้นกะเพราหมูสับ (79 บาท), Fresh Blueberry Cheese Pie (185 บาท) และ Matcha Tiramisu (115 บาท)

 

บรรยากาศภายในร้าน

ปิดท้ายกันที่คาเฟ่สไตล์หวาน ๆ เอาใจผู้หญิง อย่าง Hermitage House คาเฟ่สำหรับคนที่รักการทานขนมหวานเป็นชีวิตจิตใจ ตกแต่งในบรรยากาศสบาย ๆ ใช้สีพาสเทลให้ดูสบายตา และมีโต๊ะทำงานที่พร้อมไปด้วยปลั๊กไฟที่สามารถนั่งได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ทางร้านยังเปิดให้จัดสอนเวิร์คช็อปกลุ่มเล็ก ๆ พร้อมด้วยบริการส่งเดลิเวอร์รี่อีกด้วย สำหรับเมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ลองสั่งเมนูซิกเนเจอร์ อย่าง ข้าวไข่ข้นกะเพราหมูสับ (79 บาท) ข้าวหน้าไข่ข้นราดกระเพราหมูสับ โรยด้วยใบกะเพรากรอบ รสชาติกลมกล่อม ส่วนเมนูขนมหวานจะเป็นโฮมเมดทั้งหมด มีเมนูที่ขายดี คือ Fresh Blueberry Cheese Pie (185 บาท) ครีมชีสเค้ก ท็อปด้วยแยมบลูเบอร์รีและบลูเบอร์รีสด รสชาติเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ แต่ถ้าใครที่ชอบทานทีรามิสุอาจจะสั่ง Matcha Tiramisu (115 บาท) ทีรามิสุครีมมาสคาโปเนนุ่ม ๆ โรยด้วยผงมัทฉะสีเขียวน่าทาน และซ่อนเนื้อเค้กมัทฉะเอาไว้ด้านใน ทานคู่กับกาแฟร้อนยิ่งทำให้ละลายในปากได้อย่างเข้ากัน นอกจากนี้ทางร้านยังมีกาแฟและซอฟต์ดริงก์อื่น ๆ มากมาย ลองสั่ง Chapel Rose Bud (90 บาท) ไซรัปกุหลาบผสมกับไซรัปลิ้นจี่ มีกลิ่นหอมหวาน เพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

 

Hermitage House
ชั้น 1, G Tower (เชื่อมต่อกับ MRT พระราม 9 ทางออก 3)
เปิดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 20.00 น. และวันเสาร์ เวลา 12.00 - 20.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
โทร. 090-321-5941
www.facebook.com/hermitagehousecafe


สำหรับใครที่มองหาร้านอร่อย เดินทางสะดวก แถมยังนั่งทำงานได้ นอกจาก 5 ร้านนี้แล้วยังมีอีกหลายร้านหลากสไตล์ให้คุณได้ลิ้มลอง เดินทางมาได้ง่าย ๆ ลง MRT สถานีพระราม 9 ทางออก 3 ก็สามารถเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารได้เลย และหากใครไม่อยากพลาดข่าวสาร และร้านใหม่ ๆ ของ G Tower สามารถติดตามไว้เลยที่ www.facebook.com/thegrandrama9 หรือที่ LINE ID : @TheGrandRama9
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 02-123- 1111