“แผ่นเสียง เสน่ห์แห่งเสียงเพลงที่ชวนหลงใหล”
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในเสน่ห์ของเสียงเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเล่นแผ่นเสียง BKK. ขอชวนเหล่า Vinyl Lovers มาดื่มด่ำค็อกเทลคลอเคล้าเสียงเพลงเพราะ ๆ จากแผ่นเสียงสุดคลาสสิกไปกับ 8 ร้าน ‘Vinyl Bars’ ที่เราคัดสรรมาให้คุณได้ชวนเพื่อนฝูงและจูงมือคนรู้ใจ ออกไป Have a Good Night ในค่ำคืนสุดพิเศษด้วยกัน
ชวนคุณมาดื่มด่ำคลาสสิกค็อกเทลท่ามกลางบรรยากาศของเสียงดนตรีแนวเพลง Jazz ที่ Alonetogether Bangkok บาร์เจ้าของเดียวกันกับ Sugar Ray You’ve Just Been Poisoned, Q&A และ Thaipioka ซึ่งในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับเจ้าของร้าน Ku Bar รวบรวมเอาความหลงใหลในเสียงดนตรีแนวเพลง Jazz และรสชาติแสนพิเศษของคลาสสิกค็อกเทลมาผนวกเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษของเครื่องดื่มและเสียงเพลงที่คัดสรรมาให้คุณได้เพลิดเพลินตลอดคืน
บนชั้น 2 ของตัวร้าน ถูกแบ่งพื้นที่ให้เป็นบาร์ลับที่พร้อมให้คุณได้มาสัมผัสความสุนทรีย์ของเสียงดนตรีอันเนิบช้าจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงสุดคลาสสิกจากร้าน Recoroom vinyl & vintage audio ที่คัดสรรหลากหลายแนวเพลงมาให้ฟังแบบไม่เหมือนใคร อาทิ Jazz, Soul, Funk, Pop ตลอดจนแนว Rock อันโดดเด่นด้วยแผ่นเสียงหายากจากยุคเก่า ที่เราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความคลาสสิกแบบไวนิลแท้ ๆ
สำหรับความพิเศษของเมนูเครื่องดื่ม คือความพิถีพิถันในการคิดค้นสูตรค็อกเทลที่หยิบเอากลิ่นอายของความเป็น Sugar Ray มาผสมผสานกับ Ku Bar ออกมาเป็นคลาสสิกค็อกเทลที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แนะนำ Pina Colada (380 บาท) อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของทางร้าน อันเต็มไปด้วยส่วนผสมของเหล้า Rum ที่นำมาผสมผสานรสชาติให้เข้ากันกับน้ำมะพร้าวเผา ก่อนจะนำไป Smoked กับน้ำสับปะรดปิดท้าย ให้รสชาติกลมกล่อม หอมหวาน ดื่มแล้วจะสัมผัสถึงความหอมละมุนของกลิ่น Smoked ออกมาได้เป็นอย่างดี
Alonetogether Bangkok
ซอยสุขุมวิท 31
เปิดทุกวัน เวลา 19.00-02.00 น.
โทร. 0-2163-4778
www.facebook.com/AlonetogetherBKK
เอาใจนักดื่มผู้หลงใหลในแผ่นเสียงกับ Lennon’s สปีคอีซี่บาร์สุดเท่ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรม Rosewood Bangkok หนึ่งในโรงแรม Ultra Luxury ของย่านเพลินจิต โดดเด่นด้วยการดีไซน์บาร์หรู มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ภายในสตูดิโอของบ้านยุค 70s ทั้งคลาสสิกและร่วมสมัยในคราวเดียวกัน อีกทั้งยังรายล้อมด้วยคอลเลกชันแผ่นเสียงหายากมากกว่า 6,000 แผ่น ซึ่งอาจเรียกได้ว่าบาร์แห่งนี้เป็นหนึ่งในคลังสะสมแผ่นเสียงขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้
บาร์แห่งนี้จะเติมเต็มประสบการณ์สุดพิเศษด้วยท่วงทำนองเพลงสไตล์ Blues และ Jazz โดยดีเจมากประสบการณ์ แขกทุกคนสามารถเลือกแผ่นเสียงของนักร้องวงโปรด ภายในห้องที่บรรจุแผ่นเสียงหายากมากกว่า 6,000 แผ่น แล้วส่งให้ดีเจเปิดเพลงเพื่อถ่ายทอดบทเพลงที่ชื่นชอบผ่านบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ หรือจะนำแผ่นเสียงที่คุณชื่นชอบมาเปิดที่บาร์แห่งนี้ด้วยก็ได้เช่นกัน และแน่นอนว่าระหว่างที่ดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงอยู่นั้น คุณจะได้ลิ้มรสคอลเลกชันวิสกี้หายากจากทั่วโลกและค็อกเทลสุดพิเศษท่ามกลางบรรยากาศแสนประทับใจ
ไฮไลต์สำคัญของ Lennon’s คือ เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ ที่คัดสรรมาจากทั่วทุกมุมโลก แล้วครีเอตขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องไปกับบทเพลงของศิลปินชื่อดังของโลก รวมถึงอธิบายสไตล์เครื่องดื่มผ่านประเภทของเพลง อาทิ Blues and Jazz, Pop and Rock, Woodstock และ Old Time แนะนำบทเพลงจาก Wham! กับเมนู Wake Me Up Before You Go Go (420 บาท) ใน Section แนวเพลง Pop and Rock ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากสองดูโอ้ที่โด่งดังในเพลงจังหวะสนุก ๆ ชวนให้ตื่นตัว ก่อนจะครีเอตออกมาเป็นส่วนผสมที่ได้จาก Espresso Martini โดยทางบาร์เทนเดอร์ได้เลือกใช้ Vodka และเบียร์ดำ Stout Arabica รวมถึงช็อต Espresso และกล้วยเพื่อสร้างกลิ่นหอม ๆ และความเข้มของรสชาติที่จะปลุกคุณขึ้นมาให้สนุกสนานไปกับเสียงเพลงตลอดคืน
Lennon’s
โรงแรม Rosewood Bangkok
เปิด วันพุธ-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์-อังคาร) เวลา 18.00-24.00 น.
โทร. 0-2080-0030
www.facebook.com/lennons.bkk
ชวนมาจิบค็อกเทลเคล้าเสียงเพลงตระกูล Happy Music ไปกับ Bar 335 บาร์ลับสุดคลาสสิกที่ซ่อนอยู่หลังประตูฉุกเฉินของอาคาร Metropole Residence อันเกิดขึ้นจากการชื่นชอบความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นของบาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้มีรอยสัก 335 อย่าง คุณเป้-ธรณ์ธัญย์ ศิริวิทยเจริญ ผู้อยู่เบื้องหลังบาร์ลับแห่งนี้ มาพร้อมความโดดเด่นของการนำเสนอความเรียบง่ายผ่านค็อกเทลชั้นดี ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ทว่าแฝงกลิ่นอายของความคลาสสิกไว้ทั่วทุกมุม
เมื่อเดินเข้ามาภายในร้าน จะพบกับบรรยากาศของความมืด มีเพียงแค่แสงเทียนส่องแสงเงาสลัว ๆ ของบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่หลังบาร์เท่านั้น โดยถูกดีไซน์มาในแบบ Minimal Style พร้อมด้วยบาร์หินและโต๊ะไม้ ให้คุณสามารถพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ได้อย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงตระกูล Happy Music จากดีเจที่คอยเปิดแผ่นเสียงขับกล่อมตลอดค่ำคืน
ความพิเศษของค็อกเทลจากทางร้าน ถูกจำกัดความมาแบบเรียบง่าย แต่แฝงความหมายไว้ในทุก ๆ แก้ว โดดเด่นด้วยการครีเอตเมนู Classic Twist ให้กลายเป็น Modern Recipe ที่มีรสชาติใหม่ ๆ หมุนเวียนมาให้ลิ้มลอง แนะนำ New York Lemon Cream (360 บาท) ค็อกเทลที่ Twist รสชาติมาจาก New York Sour โดยเปลี่ยนจาก Bourbon มาเป็น Langley’s Gin แล้วเสริมมิติของรสชาติด้วยกรรมวิธี Clarification ที่แยกชั้นนมให้ใสด้วยน้ำเลมอนจนกลายเป็นเลมอนครีม แล้วนำมาผสานรสชาติเข้ากับเหล้า Homemade Limoncello ตามมาด้วย Red Wine ปิดท้าย ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ผสมผสานความหอมของไวน์แดงที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
Bar 335
อาคาร Metropole Residence, ซอยพร้อมศรี (สุขุมวิท 39)
เปิด วันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 19.00-02.00 น.
โทร. 09-2545-6419
www.facebook.com/BAR-335
อีกหนึ่ง Speakeasy Bar ลึกลับที่สายค็อกเทลต้องห้ามพลาดกับ Sugar Ray You've Just Been Poisoned เพราะบาร์แห่งนี้ซ่อนความลับไว้ตั้งแต่หน้าประตู รอให้เราเข้าไปค้นหาบนถนนย่านสุขุมวิท 24 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงหนึ่งของอเมริกา ที่มีกฏหมายห้ามขายเหล้า ทำให้บาร์ส่วนใหญ่ต้องเปิดบริการกันอย่างลับ ๆ ถึงขนาดต้องสื่อสารกันด้วย Pass Code เพื่อเข้าไปดื่มด้านใน กลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านที่บอกต่อความลับกันปากต่อปาก ให้ไปสัมผัสกันด้วยตัวเอง
ทันทีที่ผลักประตูผ่านเข้ามาจะเจอกับบรรยากาศเท่ขรึมของร้าน ตกแต่งด้วยสไตล์ Loft รวมทั้งเส้นสายการวางท่อและสายไฟแบบ Industial ที่เสนอมุมมองความไม่สมบูรณ์ในแบบ Imperfection is Perfection ท่ามกลางไฟสลัว มีเพียงแสงสว่างจากบาร์ที่เรียงรายด้วยส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้มิกซ์เครื่องดื่ม และเสียงเพลงจากแผ่นเสียงไวนิลที่เปิดคลอในยามค่ำคืน เหมาะกับการหามุมดี ๆ เพื่อนั่งชิลล์จิบค็อกเทลเคล้าบรรยากาศสุดลึกลับ
บาร์ลับกับความอร่อยแบบไม่ลับ เพราะแต่ละแก้วใส่ความความครีเอตลงไป เเละเสิร์ฟด้วยความตั้งใจในทุกเมนู เครื่องดื่มของที่นี่เน้นค็อกเทล วิสกี้ที่ค่อนข้างเยอะและน่าสนใจ เอาใจคอแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ โดยแต่ละวันจะมีเมนูสลับสับเปลี่ยนกันไป ตามความครีเอทีฟของบาเทนเดอร์ที่อยากแชร์ให้ได้ลองชิมกัน แนะนำ Elixir No.1 (380 บาท) มีความพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Corpse Reviver No.2 คลาสสิกค็อกเทลที่มี Gin Base ค่อนข้างแรง อินฟิวส์กับโสมเกาหลี เสิร์ฟในแก้ว Coupe ให้เห็นเลเยอร์และกลิ่นของโสมได้อย่างชัดเจน
Sugar Ray You've Just Been Poisoned
ตึก Octo Seafood Bar, สุขุมวิท 24
เปิด วันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) เวลา 19.00-02.00 น.
โทร. 0-2258-4756
www.facebook.com/Sugarraybkk
หากใครกำลังมองหาบาร์ในย่านสนามเป้า ต้องห้ามพลาดกับ Sunray มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ของพระอาทิตย์ตก ให้ความรู้สึกอบอุ่นปนสนุกสนาน และมีความเป็นกันเอง ที่สำคัญใครที่ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ที่นี่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้สำหรับคอเพลงแนว Dream Pop, Rock, 80’s, 90’s, Disco, Indy Dance และอื่น ๆ อีกมากมาย
หากเดินเข้ามาถึงในร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนได้มาบ้านเพื่อน ภายในร้านตกแต่งในแนววินเทจ ที่มีกลิ่นอายของความเป็นบาร์สมัยก่อน แบ่งโซนด้านในกับด้านนอกด้วยแผ่นบล็อกแก้ว ทำให้แสงสว่างผ่านเข้ามา ส่วนด้านนอกเป็นระเบียงดาดฟ้า สามารถนั่งชิลล์และชมวิวได้แบบเพลิน ๆ โดยหากมาในช่วงตอนเย็น ทุกคนจะได้ชมแสงแดดอ่อน ๆ ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน เป็นบรรยากาศที่ทำให้เราได้นั่งเอนกาย พร้อมผ่อนคลายไปกับเสียงเพลงสนุก ๆ จากดีเจ
สำหรับเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านเน้นเสิร์ฟค็อกเทลหน้าตาน่ารัก เอาใจสาว ๆ โดยเฉพาะ แนะนำเมนู Flamingo Cosmo (260 บาท) ค็อกเทลสีหวาน แต่เต็มไปด้วยส่วนผสมมากมาย อาทิ Vodka, Triple Sec, Pink Guava, Lyche และ Lime ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มง่าย
Sunray
BTS สถานีสนามเป้า
เปิดทุกวัน เวลา 18.00-24.00 น.
โทร. 08-3712-1062
www.facebook.com/sunraybkk
บนชั้น 2 ของ SIRI HOUSE บ้านโบราณในซอยสมคิด ย่านชิดลม เป็นที่ตั้งของบาร์บรรยากาศอบอุ่นที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของยุค 60's อย่าง Jacqueline Bangkok ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Jacqueline Kennedy Onassis สตรีหมายเลขหนึ่ง ภรรยาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาชื่อดัง John F. Kennedy ซึ่ง Jacqueline ได้รับชื่อเสียงและการจดจำในฐานะของสไตล์ไอคอนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยสไตล์สง่างามและแฝงความเก๋เอาไว้
เมื่อเดินเข้าสู่บริเวณโซนของร้าน Jacqueline จะพบกับบรรยากาศที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น คล้ายไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อน ตกแต่งด้วยสไตล์ Modern Mid Century ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของตัวบ้านเก่าแห่งนี้ โดยมีทั้งโซนด้านในที่ตกแต่งด้วยโซฟากำมะหยี่สีน้ำเงินและสีส้ม เพิ่มโทนอบอุ่นด้วยไฟสีส้มและพื้นผนังไม้สีเข้ม และโซนบาร์หินขัดที่เปิดให้บาร์เทนเดอร์ได้โชว์ฝีมือกันอย่างเต็มที่ ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงเพราะ ๆ จากเครื่องเล่นแผ่นเสียง พร้อมให้คุณผ่อนคลาย ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ตลอดค่ำคืน
เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Jacqueline เช่นกัน อย่าง Camera Girl (320 บาท) เครื่องดื่มสีส้มคอรัล เบสด้วย Iron Ball Gin, Campari, Richard, Hibicus เพิ่มความสดชื่นด้วยโซดา เสาวรส, เกรปฟรุต และมะนาว เมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาชื่อคอลัมน์ ‘Inquiring Camera Girl’ ในหนังสือพิมพ์ The Washington Times - Herald เมื่อปี 1952
Jacqueline Bangkok
Siri House, ซอยสมคิด
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-01.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00-01.00 น.
โทร. 09-4868-2639
www.facebook.com/jacqueline.bkk
‘สะพานควาย’ อีกหนึ่งย่านยอดฮิตที่เต็มไปด้วยบาร์ดี ๆ และเเหล่งรวมพลคนกลางคืนที่รักสีสันแห่ง Nightlife และต้องการหลบหลีกความวุ่นวายจากย่านอื่น Dumbo Jazz & Vinyl Bar เป็นอีกหนึ่งเเจ๊สบาร์สไตล์อเมริกัน ที่นำประสบการณ์ในการทำร้านแผ่นเสียง Trackaddict Records ย่านสุขุมวิท 69 รวมเข้ากับความชอบในดนตรีแนวแจ๊ส จนเกิดเป็น Dumbo Jazz & Vinyl Bar รูฟท็อปบาร์บรรยากาศดี ที่อยากชวนคุณไปแฮงเอาต์จิบค็อกเทลท่ามกลางลมเย็น ๆ บนดาดฟ้าชั้น 6 ของตึก INN-Office Building มาพร้อมวิวกว้างสุดตา และมองเห็นรถไฟฟ้าแล่นผ่านตึกสูงได้อย่างชัดเจน
โครงสร้างตึกเดิมถูกทาทับด้วยฝีแปรงเป็นกราฟิตี้ลายเท่ ที่นำเสนอมุมอันแสนมีเอกลักษณ์ของย่าน Dumbo ในมหานครนิวยอร์ก พร้อมด้วยวิวตึกสูงย่านพหลโยธินล้อมรอบบาร์เท่แห่งนี้เอาไว้ แสงไฟระยิบระยับจากหน้าต่างคอนโด รวมทั้งรถราด้านล่างช่วยเสริมบรรยากาศให้ที่นี่เหมาะติดอยู่ลิสต์บาร์ดีที่ต้องชวนเพื่อนมาแฮงเอาต์ได้ไม่ยาก โดยขึ้นชื่อว่า Jazz & Vinyl Bar ที่นี่จึงมี Background Music เป็นเพลงแจ๊สยุคเก่า จากแผ่นเสียงที่มีลิสต์เพลงแจ๊สตั้งแต่ยุค 50s-70s ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ พร้อมวงดนตรียิปซีแจ๊สที่มามอบความสุขเคล้าเสียงเพลงตลอดคืน
ค็อกเทลซิกเนเจอร์ของทางร้าน ได้สูตรจากบาร์ที่ฝั่งนิวยอร์ก และถูกตั้งชื่อตามเพลงแจ๊สคุ้นหูยอดฮิตรุ่นคุณปู่คุณย่า ไม่ว่าจะเป็น Kind of Blue (240 บาท) ค็อกเทลสีเหลืองสวยที่ตั้งชื่อตามอัลบั้มเพลงฮิตของ Miles Davis ผสมผสานความเข้มข้นของวอดก้าสปิริตเบสกลิ่นวานิลลา และน้ำสับปะรด เติมสีฟ้าสดใสเล็กน้อยด้วย Blue Curacao ก่อนตัดเลี่ยนด้วยส้มสดชิ้นเล็กก่อนเสิร์ฟ
Dumbo Jazz & Vinyl Bar
ชั้น 6, INN-Office Building
เปิด วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 17.00-24.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 17.00-01.00 น.
โทร. 09-4560-7222
www.facebook.com/dumbo.bangkok
หากใครเคยได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศของเเจ๊สบาร์สไตล์อเมริกันอย่าง Dumbo Jazz & Vinyl Bar บนดาดฟ้าชั้น 6 ของตึก INN-Office Building แล้วละก็ ต้องถูกใจกับจริตการฟังยิปซีเเจ๊ส จิบค็อกเทลท่ามกลางลมเย็น ๆ ที่มีวิวรถไฟฟ้าวิ่งผ่านตึกสูงเป็นฉากหลังยามค่ำคืนอย่างแน่นอน และคุณจะหลงรักย่านสะพานควายมากขึ้นไปอีก เพราะมีอีกหนึ่งสีสันใหม่รอให้คุณไปสัมผัสแล้วที่ York Bar by Dumbo บาร์น้องใหม่เจ้าของเดียวกันกับ Dumbo ที่ครั้งนี้ไม่พลาดหยิบยกความเป็นอเมริกันจ๋าจากมหานครนิวยอร์กมาให้ได้เอ็นจอยกัน
หาก Dumbo มีที่มาจากย่านดังแห่งหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก การที่คุณจะไปถึงย่านนั้นได้ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี York Street Subway Station เสียก่อน และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นและที่มาของ York Bar บนชั้น 5 ที่หยิบคาแร็กเตอร์ของสถานีรถไฟแห่งนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ และแน่นอนว่าก่อนที่จะขึ้นไปสูดอากาศที่ Dumbo Jazz & Vinyl Bar ชั้นนี้คุณจะได้ยินเสียงรถไฟวิ่งผ่าน เคล้ามากับจังหวะเพลง Jazz และบีทดนตรีสนุก ๆ จากดีเจที่กำลังเปิดแผ่นเสียง ตั้งแต่ Hip Hop Old School, Rock, Funky หรือ House ก่อนที่คุณจะเดินทางไปพบกับอีกหนึ่งสีสันของ Dumbo ด้านบน
หากคุณได้มาถึงสถานีรถไฟแห่งนี้แล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองซิกเนเจอร์ค็อกเทล ที่ครีเอตขึ้นจากชื่อสถานีรถไฟต่าง ๆ เพื่อต้อนรับทุกคนที่มาถึงโดยเฉพาะ แนะนำ York St. (280 บาท) เป็นไฮไลต์ชวนลองตามชื่อที่พ้องกับร้าน และอยากให้คุณหายเหนื่อยด้วยส่วนผสมเบสหลักจากแสงโสมเหล้าไทย ความหอมละมุนลิ้นจาก Tripple Sec เลมอนและผลไม้เมืองร้อนอย่างมะม่วงที่จะมาเติมความสดชื่นให้คุณสนุกสนานตลอดคืน
York Bar by Dumbo
ชั้น 5, INN-Office Building
เปิดทุกวัน เวลา 17.00-24.00 น.
โทร. 09-4560-7222
www.facebook.com/yorkbkk
