เพราะคนเหงาไม่ได้เศร้าเสมอไป!
BKK. ขอชวนคุณมาจับจองมุมหน้าบาร์เอาใจคนเหงาแต่ไม่เศร้า ให้คุณเอ็นจอยไปกับเครื่องดื่มแก้วโปรดแบบไม่มีใครมารบกวนได้ตลอดคืนกับ 5 มุมหน้าบาร์สุดเก๋ ที่จะจิบเครื่องดื่มแก้วไหนก็ไหลกันได้ยาว ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดื่มด่ำที่อยากใช้เวลากับตัวเอง หรือจะเป็นสายดื่มตัวจริงที่ชอบคุยกับบาร์เทนเดอร์ มุมหน้าบาร์ก็ช่วยแลกเปลี่ยนโมเมนต์ของเครื่องดื่มดี ๆ ได้อย่างแน่นอน จะมีที่ไหนถูกใจใครกันบ้าง ไปดูกันเลย!
เริ่มต้นกันที่ Kilik Social Club โซเชียลคลับแห่งใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษอันแปลกใหม่ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับค็อกเทลคุณภาพดี รังสรรค์จากบาร์เทนเดอร์มากฝีมือที่มีประสบการณ์มานานหลายปี เคล้าคลอด้วยเสียงดนตรีแนวเพลงแจ๊สจากการแสดงดนตรีสดศิลปินและดีเจมากมาย ที่จะเปลี่ยนค่ำคืนแสนธรรมดาของคุณให้พิเศษกว่าที่เคย
แนะนำให้ลองชิม Kallima (390 บาท) แก้วพิเศษที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมนุ่มนวลของส่วนผสม Stranger & Sons Gin, Amaro, Longan, White Turmeric, Earl Grey Tea และ Clarified Lemon ก่อนจะท็อปด้วยโฟมโยเกิร์ตและใบเบย์ลีฟที่มีลักษณะเหมือนปีกผีเสื้อพันธุ์ Kallima โดยเบิร์นให้มีกลิ่นหอมอโรมา ช่วยให้แก้วนี้พิเศษมากยิ่งขึ้น
Kilik Social Club
โครงการ Warehouse 26
เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 18.00-03.00 น.
โทร. 09-2896-6982
www.facebook.com/kiliksocialclub
ต่อมาในย่านหลังสวนมีบาร์ลับหลังม่านสีแดง ที่เพียงเปิดม่านข้ามไปก็พบกับโลกใบใหม่ในสไตล์แกสบี้ที่พาเราย้อนยุคกลับไปในปี 1920s ประหนึ่งสวมชุดเดรสพร้อมเครื่องหัวและสูทตัวเก๋ระยิบระยับที่มีเบื้องหลังเป็นโรงละครโอ่อ่าใจกลางเมือง และนี่คือ ‘Crimson Room’ แจ๊สบาร์โดยทีม Rabbit Hole ที่มาสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ให้กับคนรักการแฮงเอาต์ ภายในโครงการ Velaa Sindhorn Village ซึ่งหากว่าใครที่เพิ่งเคยมาครั้งแรก อาจเดินวนหาอยู่นานแต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นป้ายเล็ก ๆ สีแดงตั้งอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ที่รอให้คุณก้าวเข้าไป
อย่างที่รู้กันว่าในทศวรรษที่ 1920s หรือหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แกสบี้และแจ๊สบาร์เป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด Crimson Room จึงหยิบภาพบรรยากาศเก่า ๆ ที่แสนมีสเน่ห์ของการเฉลิมฉลองและความสนุกในห้วงเวลานั้น ดีไซน์ออกเป็นภาพโรงละครขนาดย่อมในห้องสีแดงที่ตัดสลับกับวัสดุสีดำทอง และแชนเดอร์เลียร์หรูหราที่ห้อยระย้าลงมาแบบฟู่ฟ่าตามยุคสมัย ทุกที่นั่งถูกจัดวางเป็นครึ่งวงกลมไล่เรียงกันไปตามขั้นบันได เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาสามารถรับชมโชว์ดี ๆ จากบนเวทีได้อย่างทั่วถึงในทุกค่ำคืน
Crimson Room
87 โครงการ Velaa Sindhorn Village
เปิดทุกวัน เวลา 19.00 - 02.00 น.
โทร. 06-2259-2525
www.facebook.com/crimsonroombkk
มาเปิดวาร์ปบาร์เก๋แบบตัวอยู่ไทยใจอยู่ฮ่องกงกันต่อที่ Lucky Duck บาร์น้องใหม่ในย่าน China Town ที่แอบซ่อนอยู่บนชั้น 3 ของร้านอาหาร Contento โดย คุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน ที่พร้อมเปิดประตูความเก๋ไก๋ต้อนรับคุณภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speakeasy Shanghai Meets Prohibition Hollywood” บาร์ลับสไตล์เซี้ยงไฮ้ผสานกับบรรยากาศยุคสุราต้องห้ามของฮอลลีวูด
วัตถุดิบที่ดีและแปลกใหม่ ถูกผสมผสานออกมาเป็นรสชาติใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาภายใต้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ของผู้กำกับอั้งลี่และหว่อง กาไว ที่ถ่ายทอดบรรยากาศและรสชาติที่สื่อถึงเสน่ห์ของ Lucky Duck ได้อย่างดีที่สุด เริ่มต้นกันที่แก้วซิกเนเจอร์อย่าง Lucky Duck (420 บาท) ที่ให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Peddler Salted Plum มาผสานกันกับความสดชื่นของ Passion Fruit Liqueur และความเข้มข้นจาก Infused Vermouth
Lucky Duck
72-476 ถนน ไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เปิดทุกวัน เวลา 19.00 - 01.00 น.
โทร. 09-0898-2397
www.facebook.com/Luckyduckbkk
หรือจะเป็น Ms.Jigger ร้านอาหารอิตาเลียนและบาร์สุดเท่ภายใต้คอนเซ็ปต์เล่าเรื่องการเดินทางของตัวละคร Ms.Jigger หญิงสาวสุดเก๋ผู้รักการเดินทาง อาหารอิตาเลียน และแน่นอนว่ายังชื่นชอบการดื่มดริงก์สนุก ๆ ด้วย ซึ่งที่นี่ได้นำเสนอเรื่องราวการเดินทางไปทั่วอิตาลีของ Ms.Jigger ผ่านหลากหลายกิมมิกที่แฝงอยู่ในเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้ทุกคนที่ได้มาลองสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ครั้งนี้มาในธีม "The Tales of Thailand" ที่หยิบยกเอาเสน่ห์ของแต่ละจังหวัดในประเทศไทย ครีเอตออกมาเป็นค็อกเทลที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป อย่าง Sukhothai (440 บาท) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอุทยานประวัติศาสตร์อันอบอวลไปด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง รังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องดื่มจากเหล้าในไหดินเผา ผสานเข้ากับส่วนผสมของ Mancino Vermouth Rosso Amaranto และ Umeshu แต่งแก้วด้วยใบเตยหอม ๆ และเคเปอร์
Ms.Jigger
L Floor, Kimpton Maa-Lai Bangkok
เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.30 -14.30 น. และ 17.00 - 00.00 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.30 - 00.00 น.
โทร. 0-2056-9999
www.facebook.com/ms.jigger
ปิดท้ายด้วยการชวนสายแฮงเอาต์และเหล่าฟู้ดดี้มาตามรอยความอร่อยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตู้ล็อคเกอร์กันต่อที่ Find The Locker Room สปีคอีซี่บาร์สุดลึกลับแห่งย่านทองหล่อ หนึ่งในร้าน Dream Project ที่ได้รับความร่วมมือจากทีมบาร์เทนเดอร์มากฝีมือจากหลากหลายประเทศทั่วเอเชีย ทั้งสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย ให้มาร่วมครีเอตเครื่องดื่มค็อกเทลและม็อกเทลสูตรพิเศษ ภายใต้คอนเซ็ปต์บาร์ลับ ๆ ซึ่งผู้มาเยือนจะต้องตามหาให้เจอ กับพิกัดที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังตู้ล็อคเกอร์ ต้องหาทางเปิดประตูเข้าไปแล้วจะได้พบกับบาร์ 2 ชั้น ซึ่งมีบรรยากาศคล้ายกับห้องแห่งความลับใต้ดินที่มักเห็นกันในภาพยนตร์ต่างประเทศ
ชิมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์กับเมนูที่ชื่อว่า From Singapore To Yokohama (420 บาท) ค็อกเทลที่เบสรสชาติด้วยจิน พร้อมด้วยส่วนผสมของแบล็กเบอร์รี น้ำสับปะรด น้ำเลมอน และส่วนผสมหลักที่มาช่วยเพิ่มความหอมหวานอย่างไซรัปชาเอิร์ลเกรย์ แล้วเติมความละมุนด้วยไข่ขาว ใบชิโสะ และ AKA Japanese Basil ใบกะเพราแดงจากญี่ปุ่น ซึ่งทางบาร์เทนเดอร์ได้มีการเพิ่มลูกเล่น ตกแต่งหน้าตาเครื่องดื่มด้วยการวาดลวดลายหัวใจดวงเล็ก ๆ ที่ทำจากไซรัปลงไปบนฟองโฟมไข่ขาวได้อย่างครีเอตและน่าประทับใจ
Find The Locker Room
406 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)
เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 01.30 น.
โทร. 09-8287-1898
www.facebook.com/FindTheLockerRoom