นั่งชิลล์ได้แบบไม่ขาดตอนที่ 5 คาเฟ่เปิดยาวเช้าถึงค่ำ

Published on September 19, 2018
สำหรับใครที่ชอบนั่งคาเฟ่ยาว ๆ คงจะถูกใจกับสกู๊ปนี้ที่เราได้รวบรวม 5 คาเฟ่ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนถึงช่วงค่ำ โดยช่วงเช้าจะเป็นคาเฟ่ที่เสิร์ฟขนมและกาแฟ ส่วนกลางคืนจะเปลี่ยนเป็นค็อกเทลบาร์ จะมีคาเฟ่ไหนให้ตามไปเช็คอินบ้างไปดูกันเลย
1

Alphabet Cafe & Bar

FULL REVIEW
 

Alphabet Cafe & Bar

Alphabet Cafe & Bar ร้านอาหารในเครือ Heritage Group ได้รีโนเวทร้านจากห้องอาหารของโรงแรมที่เปิดมากว่า 8 ปี เป็นคาเฟ่ที่มีหลากหลายโซน รวมถึงห้องจัดสัมมนาและมีทติ้งแบบกลุ่มตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

FULL REVIEW
 

เคาน์เตอร์บาร์หน้าร้านที่เสิร์ฟทั้งกาแฟและค็อกเทล

สำหรับช่วงเช้าร้านนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ โดยมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกทานมากมาย เริ่มจากเมนูไทย อย่าง ข้าวผัดปลาทู ABCD (140 บาท) ข้าวผัดร้อน ๆ ที่ผัดมาไม่แห้งมาก ได้ความเค็มนิด ๆ จากปลาทู ก่อนทานอย่าลืมบีบมะนาวเพื่อตัดรสและดับกลิ่นสักนิด เป็นจานที่หลาย ๆ คนมาทานแล้วติดใจ 

 

ข้าวผัดปลาทู ABCD (140 บาท)

ส่วนใครชอบเมนูเส้น ลอง สปาเกตตี้ ABCD (200 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดกับน้ำมันมะกอก กระเทียม และพริกแห้งที่คั่วใหม่ทุกวัน ปรุงรสให้เข้ากันจนกลมกล่อม โรยหน้าด้วยไข่กุ้งเน้น ๆ เสิร์ฟกับขนมปังเนยกระเทียมที่กริลล์จนหอม

 

สปาเกตตี้ ABCD (200 บาท)

ส่วนช่วงเย็นก็เปิดเป็นพื้นที่แฮงก์เอาท์ มีเสิร์ฟทั้งม็อกเทลและค็อกเทล อย่างแก้วนี้ Virgin Colada (120 บาท) น้ำสับปะรดมามิกซ์กับน้ำมะพร้าวและน้ำกะทิ ก่อนดื่มคนสักนิดให้เข้ากัน จะได้หวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มกะทิหอม ๆ กลางชายหาดของฮาวาย

 

Virgin Colada (120 บาท)

Alphabet Cafe & Bar
198 พิพัฒน์ 2 ถนนนราธิวาส
เปิดทุกวัน เวลา 6.00 - 2.00 น.
โทร. 08-4432-1758
www.facebook.com/alphabetcafeandbar

2

Elsewhere Vinyl Cafe & Bar

FULL REVIEW
 

Elsewhere Vinyl Cafe & Bar

มีอยู่ไม่กี่สถานที่ ๆ เรียกว่าเป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนที่รักการฟังเพลงจากแผ่นเสียง แต่หากใครได้ผ่านมาแถว ๆ อารีย์หรือสนามเป้า ลองมาสัมผัสกลิ่นอายสุดคลาสสิกกันได้ที่ร้าน Elsewhere Vinyl Cafe & Bar ซึ่งนอกจากจะมีแผ่นเสียงมากมายให้เลือกซื้อเลือกฟังแล้ว ยังเป็นคาเฟ่และบาร์ที่เปิดตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงดึกอีกด้วย

FULL REVIEW
 

มีแผ่นเสียงมากมายให้เลือกซื้อ

ช่วงกลางวันจะเน้นเสิร์ฟกาแฟและซอฟต์ดริงก์อื่น ๆ ส่วนช่วงเย็นจะเสิร์ฟคราฟท์เบียร์ที่มีทั้งเบียร์แท็ปและเบียร์ขวดให้เลือก นอกจากนี้ยังมีอาหารทานเล่นเหมาะทานเป็นกับแกล้มคู่กับเบียร์ เมนูแรกที่ทางร้านแนะนำ Deep Fried Chicken Wings (140 บาท) ปีกไก่เล็กทอดกรอบ เสิร์ฟกับซอสสไปซี่มาโยและน้ำจิ้มบ๊วย 

 

Deep Fried Chicken Wings (140 บาท)

กาแฟของทางร้านส่วนใหญ่จะใช้เมล็ดจากแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน คั่วปานกลางทำให้รสชาติไม่เข้มมาก ลองสั่ง Cappuccino (50 บาท) คาปูชิโนเย็นช็อต เสิร์ฟแยกชั้นกับนมสดที่มีรสชาติหวานมัน 

 

Cappuccino (50 บาท)

ส่วนช่วงเย็นจะเปิดขายคราฟท์เบียร์ โดยมีทั้งหมด 6 แท็ป และเบียร์ขวดที่มีทั้งเบียร์ไทยและเบียร์นอกให้เลือกมากมาย หรือถ้าเป็นมือใหม่หัดดื่ม สามารถให้ทางร้านแนะนำได้ ทางร้านแนะนำเป็น Heart of Darkness IPA 7.1 % (245 บาท) คราฟท์เบียร์สัญชาติเวียดนามจากเมืองโฮจิมินห์ มีความฮอปปี้สูง แนะนำให้ดื่มคู่กับอาหารทอด สำหรับคนที่ชอบดื่มดราฟท์เบียร์ ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 2 แก้ว แถม 1 แก้ว ที่คัดมาจัดโปรโมชั่นเรื่อย ๆ 

 

Heart of Darkness IPA 7.1 % (245 บาท)

Elsewhere Vinyl Cafe & Bar
1019/4 ถนนพหลโยธิน (อารีย์)
เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 00.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 16.30 - 00.00 น.
โทร. 08-2027-9433
www.facebook.com/elsewherevinylbar

3

Cafe Thieves and Bar

FULL REVIEW
 

Cafe Thieves and Bar

ก่อนหน้านี้หลายคนคงเคยรู้จักกับร้านโฟรเซ่นโยเกิร์ตอย่าง Freeze Frozen Yogurt ในย่านนาคนิวาส ที่ตอนนี้ได้ขยายสาขาที่สองไปอยู่ที่สยามพารากอน ล่าสุด คุณเบียร์ และกลุ่มเพื่อนก็ได้เปิดคาเฟ่ใหม่ในย่านเอกมัยในชื่อ Cafe Thieves and Bar คาเฟ่สไตล์วินเทจที่เน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ American Diner ที่สามารถนั่งชิลล์ได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากชั้นสองมีบาร์ค็อกเทลที่จะเปิดในช่วงเย็น รองรับทั้งวัยรุ่นและคนที่มากันเป็นครอบครัว มีระเบียงด้านนอกที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งชายทะเล ซึ่งต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า

FULL REVIEW
 

บาร์ค็อกเทลชั้นสอง

เมนูอาหารมีทั้งแนวอเมริกัน ยูโรเปียน และไทยฟิวชั่น ครีเอทขึ้นโดยใช้วัตถุดิบคุณภาพตามสูตรต้นฉบับ จึงได้เมนูที่มีความโฮมมี่ ทานง่าย โดยมีทั้งเบอร์เกอร์ แพนเค้ก อาหารเช้า ซุป สลัด พาสต้า และข้าว เมนูแรกที่ทางร้านแนะนำคือ Soft Shell Crab Pasta with Crab Paste Sauce (380 บาท) สปาเกตตี้ผัดมันปู ใส่มะกอกดำ มะเขือเทศราชินี และใบโรสแมรี่ ทานคู่กับปูนิ่มทอดกรอบ รสชาติหอมมัน มีกลิ่นอายของอาหารไทย

 

Soft Shell Crab Pasta with Crab Paste Sauce (380 บาท)

ต่อด้วยเมนูอาหารเช้า Scramble Risotto (240 บาท) ข้าวริซอตโตคลุกเคล้ากับมอสซาเรลลาชีส เชดด้าชีส และพาเมซานชีส ทานกับเห็ดที่นำไปผัดกับ Alfredo Sauce อีกทั้งยังมีแฮมอบกรอบรสชาติเค็ม ๆ ที่ทานแล้วเข้ากัน

 

Scramble Risotto (240 บาท)

สำหรับเครื่องดื่มทางร้านแนะนำ Nutella Caramel Frappuccino (160 บาท) กาแฟเอสเพรสโซ่ปั่นกับคุกกี้โอริโอ้ นมสด ไซรัปวานิลลา ไซรัปคาราเมล และไซรัปบัตเตอร์เค้ก เคลือบปากแก้วด้วยช็อกโกแลตนูเทลล่า ก่อนจะท็อปด้วยวิปปิ้งครีม แล้วราดซอสคาราเมล รสชาติหวาน หอม ดื่มง่าย

 

Nutella Caramel Frappuccino (160 บาท)

Cafe Thieves and Bar
40/25 เอกมัย 12
เปิดวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี เปิดเวลา 10.00 - 20.00 น.
และวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เปิดเวลา 10.00 - 22.00 น.
โทร. 0-85141-4696
www.facebook.com/cafethievesandbar

4

Casa Lapin x Badmotel

FULL REVIEW
 

Casa Lapin x Badmotel

Casa Lapin สาขานี้เกิดจากการร่วมมือระหว่าง Casa Lapin กับ Badmotel ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีคาแรกเตอร์ที่คล้ายกัน โดยเฉพาะความสนุกสนาน ทำให้ที่แห่งนี้เป็นคาเฟ่ในช่วงกลางวัน และปรับโฉมเป็นบาร์ในช่วงเย็น มีสองมู้ดในร้านเดียวกัน

FULL REVIEW
 

เคาน์เตอร์บาร์กาแฟ

ในส่วนของกาแฟทางร้านนำเสนอเมล็ดกาแฟไทย ส่วนสโลว์บาร์จะใช้เมล็ดต่างประเทศที่หมุนเวียนกันมาให้คอกาแฟได้ชิมอย่างไม่ขาดสาย เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ อย่าง Frappe Caramel Macchiato (140 บาท) คาราเมลแมคเคียโต้ปั่นรสหอมหวาน

 

Frappe Caramel Macchiato (140 บาท)

หากดื่มกาแฟร้อน ลองสั่ง Caffe Mocha (90 บาท / 110 บาท) มอคค่าร้อน ลาเต้ที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตในสัดส่วนที่พอเหมาะ ให้รสสัมผัสนุ่ม ๆ จิบเพลิน

 

Caffe Mocha (90 บาท / 110 บาท)

อย่าลืมสั่ง Red Velvet Cake (105 บาท) มาจับคู่กับชาหรือกาแฟร้อน เพราะเค้กที่นี่ให้ครีมชีสเน้น ๆ เนื้อแน่น

 

Red Velvet Cake (105 บาท)

Casa Lapin x Badmotel
ระหว่างซอยทองหล่อ 15 กับ 17
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.
www.facebook.com/CasaLapin

5

Blue Dye Cafe & Middle Bar

 

Blue Dye Café

Blue Dye Café คาเฟ่สุดฮิปแห่งย่านสุขุมวิท - ทองหล่อ ขวัญใจคอกาแฟที่ตกแต่งร้านในมู้ดแอนด์โทนสีฟ้าที่สว่างสดใส มาพร้อมโซนนั่งและใส่ใจรายละเอียดที่เกี่ยวกับตัวกาแฟ ตั้งแต่เรื่องของวัตถุดิบไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำหรับชง เพื่อให้คนทั่วไปได้โฟกัสกับการจิบกาแฟมากขึ้น

 

ผลิตภัณฑ์สำหรับชงกาแฟ

ทางร้านพร้อมเสิร์ฟให้บริการทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตก มีการผสมผสานวัตถุดิบ สอดแทรกความเป็นไทย โดยการใส่เครื่องเทศลงไป เริ่มต้นกันด้วยอาหารเช้าอย่าง Toast and Crumbed Egg (190 บาท) ครัมเบิลเอ้กกับผักโขม ราดด้วยมัสตาร์ดครีมชีส ภายในจานประกอบด้วยไข่ Soft Boiled Egg ที่นำไปชุบกับคอนเฟล็กทอดกับด้านล่างที่เป็นขนมปังโฮลวีทและผักโขมผัด

 

Toast and Crumbed Egg (190 บาท)

แต่หากไม่ถนัดลองดื่ม Hot Latte (100 บาท) สัมผัสรสชาตินุ่มละมุนของลาเต้ร้อนที่เสิร์ฟมาในถ้วยเซรามิก พร้อมด้วยงานลาเต้อาร์ตสวย ๆ

 

Hot Latte (100 บาท)

และล่าสุด Blue Dye Cafe ได้มากับค็อกเทลบาร์น้องใหม่ในชื่อ Middle Bar ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของคาเฟ่ เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ของร้านไว้เช่นเดิม โดยจะเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

 

Middle Bar

บาร์ที่นี่มีคลาสสิกค็อกเทลและเมนูซิกเนเจอร์ถึง 10 แก้ว โดยจะไล่ระดับหนักไปเบา เริ่มที่เมนูแรก No.1 (380 บาท) ค็อกเทลที่คล้ายกับการนำเอา Old Fashion กับ Negroni มาผสมกัน ประกอบไปด้วย Gin, Sweet Vermouth, Campari และ Angostura Bitters เป็นเมนูแรกที่หนักที่สุดในบรรดา 10 เมนู

 

No.1 (380 บาท)

ถ้าใครที่ชอบ Gin ลองสั่งค็อกเทล No.5 (360 บาท) ที่เบสด้วย Gin ตามด้วย Jagermeister, น้ำมะนาว, ไซรัป และแตงกวา ก่อนจะท็อปด้วย Tonic Water

 

No.5 (360 บาท)

Blue Dye Cafe & Middle Bar
40/1 ซอยสุขุมวิท 36 (นภาศัพท์ 1)
คาเฟ่เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 9.00 - 18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
บาร์เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 19.00 - 02.00 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร. 09-4156-6166
www.facebook.com/BlueDyeCafe
www.facebook.com/middlebarbangkok