เดือนพิเศษแบบนี้ BKK. ขอชวนคุณไปเช็คลิสต์ '14 คาเฟ่น้องใหม่ต้อนรับเดือนสิงหาคม' นอกจากจะอิ่มอร่อยกับเมนูและเครื่องดื่มสุดพิเศษแล้ว ยังสามารถชวนคุณแม่และครอบครัวไปร่วมสร้างช่วงเวลาสุดพิเศษยังทุก ๆ ร้านที่ใช่กับคนที่เรารักอีกด้วย
สัมผัสความหอมกรุ่น เติมเต็มความอบอุ่นระหว่างวันในบ้านขนมปัง Craft Bread ร้านขนมปังสุดน่ารักในหมู่บ้านสัมมากร ที่พร้อมเสิร์ฟขนมปังโฮลวีทออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ปราศจากน้ำตาล เนย และนมวัว อบสดใหม่ทุกวัน ทานแล้วอิ่มท้อง ดีต่อสุขภาพ โดยวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้คือแป้งสาลีโฮลวีท 100% และวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพอย่างน้ำผึ้งธรรมชาติ น้ำมันมะกอกเกรดดี ถั่ว ช็อกโกแลต แครนเบอร์รี ชาร์โคล และผลไม้อบแห้งคัดสรร ผ่านกระบวนการทำขนมปังแบบโฮมเมด พิถีพิถันทุกขั้นตอนเหมือนกับที่ทำให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ ทาน
FULL REVIEWสำหรับเมนูที่แนะนำให้ลองซื้อกลับไปทาน ได้แก่ Dark Chocolate Almond Bun (75 บาท) ขนมปังโฮลวีท 100 เปอร์เซ็นต์ ที่มีส่วนผสมของเมล็ดอัลมอนด์และเม็ดช็อกโกแลต เป็นการเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสชาติความเข้มข้นให้กับตัวขนมปังมากยิ่งขึ้น
และ Sutabutre Round Loaf (155 บาท) ขนมปังโฮลวีทที่มีส่วนผสมของ ‘ข้าวสูตะบุตร’ ข้าวหอมดำสายพันธุ์ใหม่ที่ปลูกโดยกลุ่มชาวนาไทอีสาน ซึ่งความพิเศษที่ได้จากขนมปังชนิดนี้คือความหอมของข้าว มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษ อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและสารต้านอนุมูลอิสระ ทานแล้วดีต่อสุขภาพแน่นอน
Craft Bread
หมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง 112
เปิด วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (จนกว่าขนมปังจะหมด)
โทร. 08-9691-8242
www.facebook.com/craftbread
สัมผัสความอบอุ่นภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ ของคาเฟ่ขนาดกะทัดรัดที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยลาดพร้าว 94 ในชื่อ Thanwaa หรือ ‘ธันวา’ เดือนที่มักจะมาพร้อมกับอากาศเย็น ๆ ที่จะทำให้เรารู้สึกตรงกับคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่ว่า ‘ถ้าเราไม่หนาว เราก็จะไม่รู้จักความอบอุ่น’
FULL REVIEWทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มครีเอทใหม่ ที่เต็มไปด้วยดีเทลแห่งความสุขในทุก ๆ แก้ว ไม่ว่าจะเป็น December Coffee (75 บาท) เมนูที่เต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ ในสมัยที่ คุณเม-เจ้าของร้าน อยู่เชียงใหม่ ชวนให้นึกถึงความละมุนละไมของเมืองหนาว ป่าไม้ และสายหมอก ถ่ายทอดออกมาผ่านเครื่องดื่มที่ให้ความเย็นแบบไม่มีน้ำแข็ง ได้รสนุ่มนวลของนมและช็อตกาแฟคล้ายกันกับ Dirty Coffee
หรือจะลองเป็น Into the Wild (75 บาท) เครื่องดื่มรสเข้ม ๆ ของคนคูล ๆ ที่ถ่ายทอดออกมาตามมู้ดแอนด์โทนของภาพยนตร์ที่ว่าด้วยการใช้ชีวิตในป่า ที่แม้จะให้รสขมของเอสเพรสโซ่ลาเต้ที่ปลายลิ้น ราวกับความขมขื่นในการใช้ชีวิต แต่ก็ยังมอบความหอมหวานของมัทฉะคุณภาพ ราวกับสิ่งสวยงามของธรรมชาติ
Thanwaa
Theerawan Place ลาดพร้าว 94
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.
โทร. 09-7967-7155
www.facebook.com/thanwaa.bkk
อารีย์เปิดพื้นที่ต้อนรับ Maison d’Olivia ห้องน้ำชาสไตล์ฝรั่งเศส ที่พร้อมเปิดบ้านต้อนรับสาว ๆ ให้มาจิบเครื่องดื่ม ทานขนมและอาหารกันอย่างชิลล์ ๆ กับกลุ่มเพื่อนคนสนิท เพลิดเพลินไปกับสีสันและกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ที่ตกแต่งอยู่รอบ ๆ ร้าน และมุมถ่ายรูปสุดชิคที่จะต้องถูกใจเหล่า Cafe Hopper อย่างแน่นอน
แนะนำให้เติมพลังกันด้วยเมนูจานหลักก่อนจะไปลุยโพสท่าเก๋ ๆ กับชุดสวยตัวโปรดที่คิดมาแล้วกันด้วย สปาเก็ตตี้แซลมอนซอสครีม (280 บาท) สปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่มคลุกเคล้ามากับซอสครีมแบบโฮมเมดและแซลมอนชิ้นโต โดยฝีมือของเชฟใหญ่มากประสบการณ์
แน่นอนว่าต้องไม่ลืมเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Signature Mocktail (180 บาท) ม็อกเทลสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของผลไม้นานาชนิด มาช่วยเติมความหอมหวานและความสดชื่น ด้วยลิ้นจี่ เชอร์รีบลอสซั่ม และกุหลาบ
Maison d’Olivia
พหลโยธิน 8
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-22.30 น.
โทร. 0-2048-2466
www.facebook.com/maisondoliviacafe
ต่อกันที่ความเจริญหูเจริญตาในย่านเจริญกรุง เพิ่มเติมสีสันและความมีสไตล์ให้กับย่านนี้กันที่ร้าน The Hidden Milkbar คาเฟ่น้องใหม่บนชั้น 3 ของโครงการ โฟโต้คลับ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Grocery Store ให้กลิ่นอายของความเป็นออสเตรเลีย ผ่านการออกแบบตัวร้านและเมนูขนมต่าง ๆ
ด้านเมนูเครื่องดื่มและขนม ทางร้านแนะนำเป็น Fairy Bread (160 บาท) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Fairy Bread ของว่างทานง่ายสำหรับเด็ก ทางร้านนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องดื่มด้วยการนำนมวานิลลาปั่นผสมกับครัมเบิลจนเข้ากัน ให้ Texture คล้ายกับขนมปัง ก่อนจะเติมสีสันให้แก้วนี้ด้วย Rainbow Sprinkle สามารถทานคู่กันกับ Brownie Froot Loops (80 บาท) ช็อกโกแลตบราวนี่โฮมเมด ที่ให้รสชาติหวานกำลังดี โรยหน้าด้วยซีเรียลยอดนิยมอย่าง Froot Loops
The Hidden Milkbar
เจริญกรุง 32
เปิดทุกวัน (ปิดวันจันทร์-อังคาร) เวลา 11.00-18.00 น.
www.facebook.com/thehiddenmilkbar
Project Bus Cafe อาร์ตคาเฟ่เล็ก ๆ ย่านงามวงศ์วาน ที่มองเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นคาเฟ่ธรรมดาที่มีรถบัสสีขาวเป็นสัญลักษณ์ แต่ถ้าหากได้ลองไปสัมผัสบรรยากาศและรสชาติของกาแฟสไตล์ Slowbar แล้ว จะพบว่าคาเฟ่แห่งนี้มีเสน่ห์เหลือหลาย ให้เราอยากย้อนกลับไปลิ้มลองอีกครั้ง
ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟไทย โดยลงพื้นที่ไปศึกษาถึงต้นทางของเมล็ดกาแฟ ที่ไร่ของเกษตรกรทางภาคเหนือ ณ บ้านห้วยห้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และนำเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟจากหลากหลายประเทศหมุนเวียนเข้ามาให้ทุกคนได้ชิมกาแฟคาแร็กเตอร์ที่ต่างกันออกไป เช่น Ethiopia Sidamo (200 บาท) ที่นำไปบรรจงผ่านเทคนิคการชงแบบ Syphon สุดคลาสสิก จนได้รสชาติกาแฟเข้มข้นที่มีความซับซ้อน หอมกลิ่นของดอกไม้และผลไม้อย่างบลูเบอร์รีที่ค่อนข้างชัดเจน
ส่วนใครที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟมากนัก อยากให้ลองสั่ง Mint Latte (75 บาท) ลาเต้รสนุ่มที่ใช้ Espresso Shot จากกระบวนการ Aeropress หนึ่งในวิธีการชงแบบ Slowbar ราดด้วยนมสดและไซรัปมิ้นต์ที่ให้รสชาติหอมหวานเย็นชื่นใจ
Project Bus Cafe
งามวงค์วาน 23
เปิดทุกวัน (ปิดวันพุธ) เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 08-1649-8399
www.facebook.com/Project-bus-cafe-art-330105117588652
เติมเต็มความสดชื่นให้เหล่าคนใช้ชีวิตในย่านอโศกกันที่ร้าน 28ml. Specialty Coffee & Tea Bar ร้านเก๋ ๆ สำหรับคนชอบดื่มกาแฟ ที่อยู่ในเครือดียวกันกับ โรงแรม 28th Hotel ที่จังหวัดกาญจนบุรี นำเสนอเครื่องดื่มที่ทางร้านใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
สำหรับ Coffee Lover แนะนำให้ลองเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Dirty Coffee (100 บาท) เมนูที่ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษของทางร้าน ระหว่างดอยช้างและบราซิล อย่าง 2AM สกัดออกมาจนได้ช็อตที่กลมกล่อมผสมกับนมสดและครีมนมเพิ่มความหอมละมุนให้กับแก้วนี้ นอกจากนี้ ทางร้านยังมี Dirty Chocolate และ Dirty Matcha ให้ได้ลองกันอีกด้วย
ส่วนใครที่เป็นสาย Non-Coffee ทางร้านยังมี Brown Sugar On Fire (75 บาท) ชานมคุณภาพ ที่ทางร้านนำเข้าใบชาจากประเทศไต้หวัน นำมาผสมผสานกับน้ำตาลสูตรพิเศษและนมสด มาพร้อมกันกับไข่มุกข้าวโพดน้ำผึ้งสีทอง พร้อมเติมความหอมหวานให้แก้วนี้ไปอีกขั้น ด้วยฟองนมและคาราเมลเบิร์นไฟ
28ml. Specialty Coffee & Tea Bar
ถนนอโศกมนตรี (ใกล้ MRT สถานีสุขุมวิท)
เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
โทร. 09-2424-5956
www.facebook.com/28milliliters
Yarnnakarn+Ago อีกหนึ่งความรื่นรมย์บนถนนนางลิ้นจี่ นำเสนอความชิคของศิลปะ ผสานเข้ากันกับเมนูสุดพิเศษ ในบรรยากาศแบบ Rooftop Apartment ที่รวบรวมงานคราฟต์ งานอาร์ต และงานดีไซน์เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิดการออกแบบตึกแถวสไตล์โมเดิร์นยุคเก่า
มาถึงร้านทั้งที่ คงจะพลาดไม่ได้กับเครื่องดื่มแปลกใหม่อย่าง เพชฌฆาต (160 บาท) เมนูที่สื่อถึงความดุดันและเฉียบขาด มีส่วนผสมของไซรัปมะขามและพริกแห้งคั่วเอง รมควันด้วยกลิ่นธูป ผสานกับน้ำลิ้นจี่และมะนาว เป็นความแปลกใหม่ที่ลงตัว
หรือจะลองเป็น ทลิทโท (160 บาท) ที่นำเสนอความพอเพียงและเรียบง่าย มีส่วนผสมของดอกซากุระ กระเจี๊ยบแห้งและแตงกวา ให้ความเปรี้ยวอมหวานจากน้ำลิ้นจี่และมะนาว
Yarnnakarn+Ago
ถนนนางลิ้นจี่ ซอย 4
เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 09-0991-0000
www.facebook.com/AgoDesignedSelectedShop
Sweet Chef Cafe คาเฟ่สุดคิวท์น้องใหม่ในย่านสยามสแควร์ที่จะมาเติมเต็มความฝันหน้าจอของแฟนรายการ Sweet Chef Thailand จากช่อง Workpoint ให้ได้มาลิ้มรสเมนูขนมหวานสุดครีเอทของผู้เข้าแข่งขันในรายการกันแบบฟิน ๆ ซึ่งตัวร้านมาแบบหวาน ๆ ตามสไตล์รายการ โดยเลือกใช้สีลาเวนเดอร์เป็นหลักและแอบซ่อนดีเทลความน่ารักของเชฟไว้ในทุก ๆ มุมของร้าน
ทางร้านแนะนำให้ลองเมนูสุดพิเศษจาก คุณโนเบล ผู้เข้าแข่งขันในรายการที่สร้างสรรค์เมนู มูสหยดน้ำผึ้ง (325 บาท) ตัวมูสเป็นเลมอนครีมชีส สอดไส้เจลลี่ยูซุผสมความหอมหวานจากน้ำผึ้ง มะม่วงสุกและเค้กวานิลลาเนื้อสปันจ์ เคลือบอีกชั้นด้วยไวท์ช็อกโกแลต เคียงมากับคุกกี้น้ำผึ้งกรุบกรอบและไอศกรีมยูซุที่จะมาตัดรสชาติขนมจานนี้ได้อย่างลงตัว
หรือจะลองเป็นเมนูจาก คุณอิน หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่เป็นคนสร้างสรรค์เมนู ไอติมกะทิ รักเก่าที่บ้านเกิด (325 บาท) ไอศกรีมกะทิเนื้อเนียนที่มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว เสิร์ฟมากับสารพัดเครื่องเคียงที่ทานแล้วเข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นมูสเผือกสอดไส้ครีมข้าวโพด, ฟักทองเชื่อม ข้าวเหนียวใบเตยและส้มซ่า พร้อมเพิ่มความสนุกให้กับจานนี้ด้วยข้าวเม่าและถั่วลิสงคั่ว
Sweet Chef Cafe
สยามสแควร์ ซอย 3
เปิดทุกวัน เวลา 12.00-21.30 น.
โทร. 06-1614-6666
www.facebook.com/sweetchefcafe
อิ่มอร่อยแบบสุขภาพดีกันที่ Paco Bangkok ร้าน Smoothie Bowl Cafe น้องใหม่ใจกลางสุขุมวิท ที่พกพาความแปลกใหม่มาในแนวคิด Plant Based ที่ไม่ธรรมดา เพราะทุก ๆ ดีเทลในร้านผสานกับงานศิลปะ ใช้สีสันและความสนุกสนาน มานำเสนอผ่านดีไซน์ การตกแต่งและการสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ
ทุก ๆ เมนูของทางร้านเป็น Gluten Free มีการคำนวณแคลอรีในแต่ละถ้วยอย่างเหมาะสม ได้ความหวานจากธรรมชาติของผลไม้แบบเน้น ๆ แล้วยังได้ประโยชน์แนะนำให้ลอง Moonshine (320 บาท) สมูทตี้สีเหลืองสดใสที่ได้สีจากสารสกัดน้ำมันแครอท สาหร่ายสีชมพู Dunaliella Salina และผลไม้สีเหลืองหลากหลายชนิด ท็อปด้านบนด้วยกล้วยหอมกับเนยถั่ว สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี ส้ม กราโนล่าและธัญพืชต่าง ๆ
หรือจะลองเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำอย่าง Butterfly Effect (320 บาท) สมูทตี้สีม่วงสวยที่แบ่งสัดส่วนผสมของผลไม้แต่ละชนิดมาปั่นรวมอย่างเหมาะสม ผสมผสานกับสมุนไพร ท็อปหน้าด้วยผลไม้หลากหลายชนิด กลาโนล่าและธัญพืช
Paco Bangkok
สุขุมวิท 31
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
โทร. 06-1919-9265
www.facebook.com/PacoBangkok-321914595312337
ถัดมาที่ Magic Everyday Coffee คาเฟ่น้องใหม่ในย่านราชปรารภ ที่จะชวนคุณไปหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองกรุง มาพักในบรรยาศอันแสนสงบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Feel Cozy in Magic Place’ พื้นที่แห่งแสนอบอุ่น ที่พร้อมเสิร์ฟความสุขให้ทุก ๆ คน
ทางร้านแนะนำให้ลองเมนู Magic Chocolate (65 บาท) ช็อกโกแลตเย็นรสชาติเข้มข้น ให้กลิ่นหอมและความละมุนของช็อกโกแลตแท้แบบเต็ม ๆ
หรือใครที่เป็นสายสุขภาพ ทางร้านยังมี Magic Tangmo Juice with Chia Seeds (75 บาท) น้ำแตงโมปั่นสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ใช้แตงโมแช่เย็นเชคกับเมล็ดเจีย ให้ความเย็นและหอมหวานจากเนื้อแตงโมแบบเน้น ๆ โดยไม่ใส่น้ำแข็ง
Magic Everyday Coffee
ถนนราชปรารภ
เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-18.00 น.
โทร. 08-2206-3233
www.facebook.com/magiceverydaybkk
เติมเต็มจินตนาการไปกับเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่ Petite Coffee Lab ร้านกาแฟสุดน่ารักในซอยประดิษฐ์มนูธรรม ที่โดดเด่นด้วยบาร์ทรงโค้งสุดเก๋ ขนมและเครื่องดื่มที่แปลกใหม่ พร้อมให้คุณลิ้มลองในบรรยากาศราวกับห้องแล็บวิทยาศาสตร์
เริ่มต้นกันที่เมนู The Nut Job (95 บาท) โกโก้เข้มข้นผสมผสานกับกลิ่นเฮเซลนัท ท็อปด้วยบนด้วยเฮเซลวิปครีมโฮมเมด
หรือจะลองเป็น French Crepe Matcha (150 บาท) เครปฝรั่งเศสรสมัทฉะแป้งบางกรอบที่ขอบ นุ่มข้างใน สอดไส้ผลไม้นานาชนิดและเฮเซลวิปสูตรพิเศษของทางร้าน
Petite Coffee Lab
ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 25
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น.
โทร. 09-8787-9219
www.facebook.com/petitecoffeelab
วันหยุดยาวนี้ ลองแวะไปพักผ่อนกันในย่านชานเมืองที่ SUNKISS Pool.Bed.Cafe พื้นที่พบปะสังสรรค์แบบครบครันในที่เดียว ได้ทั้งอิ่มอร่อยและหลับพักผ่อน สำหรับโซนคาเฟ่มาให้อาคารแบบปูนเปลือย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สลับกับต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ช่วยให้รู้สึกร่มรื่นและได้ความอบอุ่น
หากกำลังมองหาเครื่องดื่มดี ๆ ช่วยดับกระหายคลายร้อนลองสั่งเป็น Sunkiss Signature (120 บาท) กาแฟมอคค่าเข้มข้นที่ได้จากเอสเพรสโซ่ช็อตไทยบราซิล ผสมผสานกับซอสช็อกโกแลตโฮมเมด ได้ความหอมมันเป็นรสชาติพอเหมาะ น่าดื่ม
อย่าลืมสั่งเมนูอาหารดี ๆ สักจานที่จะมาช่วยเพิ่มพลังในระหว่างวัน ทางร้านแนะนำเป็น ข้าวหมูตุ๋นอบซอส (140 บาท) ข้าวสวยร้อน ๆ เสิร์ฟกับเนื้อหมูตุ๋นนุ่มชุ่มซอสสูตรพิเศษที่ให้รสเปรี้ยวหวาน
SUNKISS Pool.Bed.Cafe
พุทธมณฑลสาย 1
เปิดทุกวัน (ปิดวันจันทร์-อังคาร) วันพุธ-เสาร์ เวลา 08.00-20.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น.
โทร. 09-2979-6098
www.facebook.com/SUNKISS-poolbedcafe-2101765276529186
เพราะความชอบนั้นกลายเป็นอาชีพได้ ร้าน KIMMIK จึงถือกำเนิดขึ้นจากความชอบของอดีตพนักงานประจำที่ผันตัวมาเป็นบาริสต้าแบบเต็มตัว โดยเน้นเสิร์ฟกาแฟคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับเหล่าคนทำงานในย่านพัฒนาการ ตัวร้านเน้นความดิบเท่ด้วยโทนสีดำ ให้ความเป็นกันเองกับทุก ๆ คนที่ก้าวเข้ามา
เริ่มต้นกันที่แก้วซิกเนเจอร์อย่าง Flu Fighter (70 บาท) แก้วที่มีส่วนผสมของ Lemon, Ginger Syrub และช็อตกาแฟจากเมล็ดกาแฟเบลนด์ไทย เอธิโอเปียและบราซิล เพิ่มกิมมิกที่ขอบแก้วด้วย Ginger Candy ให้รสชาติคล้ายชาสมุนไพร
หรือจะลองเป็น Mat-Suki-To (90 บาท) ช็อตมัทฉะรสเข้ม ตัดกับความหอมหวานของไอศกรีมถั่วแดงกวนโฮมเมด เมนูดี ๆ สำหรับคนชอบทานไอศกรีมโดยเฉพาะ
KIMMIK
ชั้น 1 อาคารไทยรงค์ทาวเวอร์
เปิดทุกวัน (ปิดวันอาทิตย์) วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 08.00-17.00 น.
โทร. 06-3506-6939
www.facebook.com/KIMMIKbkk
ไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้าพ่อเสือและอย่าลืมแวะมาหลบร้อนที่ Mojo Old Town คาเฟ่คลาสสิกริมถนนตะนาว ที่คุมโทนร้านให้อยู่ในยุค 60-70s ด้วยสีเขียวมีเสน่ห์และหินอ่อน โดยมีของสะสมวัยเด็กของแต่ละคนร่วมประดับตกแต่ง และบอกเล่าที่มาที่ไปบนกรอบภาพเล็ก ๆ ที่แปะอยู่ข้างกันราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์วงดนตรี รูปภาพศิลปินคนโปรดแห่งเกาะอังกฤษ แม้กระทั่งของเล่นที่ได้จากวันเกิดในวัยเด็ก
FULL REVIEWความโดดเด่นอีกประการที่อยากชวนคุณมานั่งหลบร้อน เพราะทุกเมนูของร้านครีเอทและลงมือปรุงเองทุกจานโดยหนึ่งในหุ้นส่วนที่จบการศึกษาจาก Le Cordon Bleu ที่ใส่ทุกความสามารถ ความตั้งใจ และวัตถุดิบมากคุณภาพลงในทุก ๆ เมนู เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกความสดชื่นจาก Wild Berry Passion Fruit (90 บาท) เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากเสาวรสและไซรัปเลมอนที่ทางร้านหมักด้วยสูตรเฉพาะ ทำให้ได้รสชาติที่หอมหวานอย่างเป็นธรรมชาติ ดื่มแล้วคลายร้อนได้ดีสุด ๆ
แนะนำทานคู่กับ Orange Cake (75 บาท) ที่เอาใจสาว ๆ ชอบทานเค้กแบบไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะเนื้อเค้กมีส่วนผสมของ Poppy Seed ให้สัมผัสเบา ๆ และกรุบกรอบไปพร้อมกัน ท็อปด้วยส้มฝานบางชิ้นโตที่สามารถทานได้ทั้งเปลือก
Mojo Old Town
ถนนตะนาว ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเสือ
เปิดทุกวัน วันอังคาร-พฤหัส เวลา 09.00-18.00 น. และศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00 น (ปิดทุกวันจันทร์)
โทร. 08-4650-1992
www.facebook.com/mojooldtown