เอาใจเหล่าฟู้ดดี้สายซีฟู้ดที่รักอาหารทะเลเป็นชีวิตจิตใจ ด้วย 5 ร้านซีฟู้ดระดับพรีเมียม บรรยากาศดี ที่ BKK. ได้รวบรวมความอร่อยสดใหม่จากท้องทะเลมาให้อย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดี เช่น กุ้ง กั้ง ปลา ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ หอยหลายสายพันธ์ุ หรือเมนู A La Carte ที่นำอาหารทะเลมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารรสเลิศ แค่คิดก็ชวนนำลายสอ ไปดูกันว่าแต่ละมีร้านอะไรน่าสนใจบ้าง ปักหมุดร้าน แล้วตามไปชิมกันได้เลย
เริ่มกันที่ร้านแรกกับ Red Oven ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และ A La Carte บนชั้น 7 ของโรงแรม SO Sofitel Bangkok กับคอนเซ็ปต์ World Food Market ที่คัดสรรของดีจากทั่วทุกมุมโลก มาสร้างสรรค์เป็นเมนูอร่อยล้ำและสดใหม่โดยเชฟมากฝีมือ โดดเด่นด้วย Weekend Brunch ที่พลาดไม่ได้อย่าง Saturday From The Bay ไลน์บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดคุณภาพพรีเมียมสดใหม่ส่งตรงจากทะเล ให้ชิมพร้อมชมวิวกรุงเทพฯ บนตึกสูง ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนยามรับทานอาหาร
ห้องอาหาร Red Oven ถูกออกแบบให้มีความโปร่งโล่งสบาย ภายใต้การตกแต่งด้วยโทนสีแดงที่เปรียบเสมือนธาตุไฟ ตามคอนเซ็ปต์ธาตุทั้ง 5 ของโรงแรม และใช้ไฟในการประกอบอาหารเป็นหลัก โดยเฉพาะ เตาโมลทานี (Molteni) แบรนด์เครื่องครัวดังจากยุโรปที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสัญลักษณ์การันตีคุณภาพอันโดดเด่นของที่นี่
เอาใจคนรักซีฟู้ดด้วยกองทัพบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดสดใหม่จากหลากหลายประเทศ ทุกวันเสาร์สุดสัปดาห์ตลอด 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยเฉพาะโซน Seafood From The Bay ที่คุณจะต้องหลงรัก เพราะเต็มไปด้วยบรรดา Seafood Cold Platter ให้เลือกตั้งแต่ กุ้ง กั้ง ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยแมลงภู่สเปน หอยนางรมสดเนื้อฉ่ำนำเข้าหลายสายพันธ์ุ เช่น Boudeuse Oyster, Fine de Claire และ Majestic Oyster ปูก้ามโตทั้ง Blue Crab, Brown Crab, Mud Crab และ King Crab Alaska และสารพัดเมนูจากปลาแซลมอน ปลาหมึก ซาชิมิ และอื่น ๆ อีกเพียบ ให้ทานคู่กับซอสซีฟู้ดรสจัดจ้านที่เผ็ดกำลังดี
ขอแนะนำเมนูไฮไลต์ อย่าง Scallop Mango Salsa หอยเชลล์จากฮอกไกโดเนื้อเด้งทานคู่กับ Mango Salsa รสเปรี้ยวอมหวานพอดีคำ Seafood Gratin รวมซีฟู้ดอบชีสในสไตล์อิตาเลียน โรยด้วยเกล็ดขนมปังป่นและชีส ก่อนนำไปอบให้เหลืองเกรียมน่าทาน และ Lobster Thermidor ล็อบสเตอร์เนื้อฉ่ำในซอส Hollandaise เข้มข้นที่ปรุงรสด้วยมัสตาร์ด ไข่แดง และบรั่นดี เสิร์ฟมาในเปลือกกุ้ง และโรยหน้าด้วยชีสที่อบจนเยิ้ม ชวนให้ลองชิม
บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและของหวานแบบไม่อั้น (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,800++ บาท/ท่าน
บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและของหวาน เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ ไวน์และสปาร์คกลิ้งราคา 2,500++ บาท/ท่าน
Red Oven
ชั้น 7 โรงแรม SO Sofitel Bangkok
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 - 15.30 น.
โทร. 0-2624-0000
www.facebook.com/SOSofitelBangkok
Pesca Mar & Terra Bistro ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนในซอยเอกมัย 12 มาในคอนเซ็ปต์ Mar (ทะเล) และ Terra (แผ่นดิน) นำเสนออาหารจากวัตถุดิบในท้องทะเลและบนแผ่นดินในรูปแบบ Market to Table ที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสดใหม่ให้ทุกคนได้ลอง ในบรรยากาศโมเดิร์นบิสโทร ที่สื่อถึงท้องทะเลและธรรมชาติภาคพื้นดิน
FULL REVIEWร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซน Delicatessen ที่บรรจุผลิตภัณฑ์ชีส โซนกลางแจ้งที่เสิร์ฟอาหารประเภทปิ้งย่าง ท่ามกลางบรรยากาศสุดร่มรื่น และที่โดดเด่นคือโซนอาหารทะเล ที่นำเข้ามาจากหลากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นล็อบสเตอร์ หอยนางรม และปูอลาสก้า ฯลฯ รวมถึงไวน์ Campo Viejo จากสเปน พร้อมเสิร์ฟให้ได้ดื่มคู่กับอาหารแบบพรีเมียมอีกด้วย
เมนูไฮไลต์อย่าง Pesca’s Duo (2,990 บาท) อาหารทะเลที่เสิร์ฟแบบเย็นบนถาด 2 ชั้น ประกอบด้วย กุ้งล็อบสเตอร์ตัวโต ขาปูอลาสก้าเนื้อแน่นไซส์ยักษ์ กุ้งลายเสือ หอยนางรมสด หอยแมลงภู่จากสเปน ปลาทูน่าครีบเหลือง โดยทั้งหมดนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บถูกใจสายซีฟู้ด
Pesca’s Paella Royal (2,400 บาท) ข้าวผัดสเปนที่ใช้ข้าว Bomba นำเข้าจากสเปนมาเป็นวัตถุดิบหลัก ผัดรวมกับกุ้งล็อบสเตอร์ ไก่ ไส้กรอก Chorizo, Clams, Mussels, ปลาหมึก และซุป Lobster Bisque ที่เพิ่มความขลุกขลิกให้กับตัวข้าวและเพิ่มความเข้มข้นให้ข้าวผัดจานนี้มีรสกลมกล่อมมากขึ้น
Pesca Mar & Terra Bistro
เอกมัย ซอย 12
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 15.00 น. และ 18.00 - 23.30 น.
โทร.06-3267-7778
www.facebook.com/PESCABKK
Crab and Claw ร้านอาหารทะเลที่นำเข้าวัตถุดิบสด ๆ จากหลายแหล่งทั่วโลก มาให้ชาวกรุงเทพฯ ได้ทานกันภายในโซน Helix ของ EmQuartier เพียงแค่ก้าวเข้ามาในร้านก็ได้บรรยากาศร้านอาหารทะเลแบบ New England ด้านหน้ามีลังไม้ใส่หอยนางรมตัวใหญ่ที่วางเรียงรายกัน ส่วนด้านในตกแต่งด้วยอุปกรณ์จับปลาต่าง ๆ ทั้งตาข่าย เบ็ด ทุ่น ที่ห้อยมาจากเพดาน ส่วนบนผนังซีเมนต์ที่ก่อหยาบ ๆ ก็มีภาพล็อบสเตอร์และปูสีแดงสดให้ได้บรรยากาศของทะเล รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์โต๊ะเก้าอี้ไม้เนื้อด้านก็ให้ความรู้สึก Rustic แบบเท่ ๆ
แน่นอนว่าอาหารทะเลที่ดีต้องมีความสดใหม่ ที่นี่ยังได้เชฟจากนิวยอร์คและฮาวายแท้ ๆ มาปรุงอาหารในสไตล์ New England แบบเรียบง่ายให้คนทานได้รับรสอาหารทะเลที่แท้จริง จานที่ทุกคนไม่ควรพลาด Whole Lobster (1,800 / 2,600 บาท) ล็อบสเตอร์สีแดงสด เนื้อเหนียวนุ่มและมีความหวาน จะสั่งแบบนึ่งหรือย่างเสิร์ฟพร้อมเนย หรือสั่งแบบอบเนยกระเทียมก็อร่อยไม่แพ้กัน
หรือใครชอบทานหอยนางรมสด ๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ แนะนำให้ลองทาน Irish Premium (155 บาทสำหรับ 1 ตัว 900 บาทสำหรับ 6 ตัว 1,800 บาทสำหรับ 12 ตัว) จากไอร์แลนด์โดยจะมีรสหวานมัน ส่วนใครชอบรสชาติออกเค็มนิด ๆ แนะนำหอยนางรมจากฝั่งอเมริกาอย่าง Flapjack Point
Crab and Claw
ชั้น 7 โซน Helix, EmQuartier
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 09-5564-5422
www.facebook.com/CrabandClaw
Marian Gastro Bar สำหรับผู้ที่ชื่นชอบซีฟู้ดระดับพรีเมียม มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่จะมาสร้างความสนุกสนานใหม่ ๆ ในการทานอาหารทะเลสไตล์อังกฤษ และดื่มค็อกเทลเก๋ ๆ มาให้ได้ลองกัน ทางร้านเลือกใช้สีดำเป็นหลักตัดกับไม้สีเข้มและปูนเปลือย ในบรรยากาศเท่ ๆ เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมือง
FULL REVIEWจุดเด่นของร้านอยู่ที่ครัวเปิดขนาดใหญ่ที่เปิดให้เห็นขั้นตอนในครัว รวมถึงบาร์เครื่องดื่มที่เพิ่มเข้ามาไว้ให้บริการสายดริงก์โดยเฉพาะ สำหรับโซนที่นั่ง มีทั้งโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับ 2 - 4 คน ห้องส่วนตัวสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่ม และบริเวณหน้าบาร์เครื่องดื่มแบบชิลล์ ๆ
เริ่มที่เมนูซิกเนเจอร์กับ Royal Cabanon (6 ตัว 1,100 บาท) หอยนางรมสด ๆ ที่ได้รับรางวัลจากประเทศฝรั่งเศส เนื้อหวาน ตัวใหญ่ เสิร์ฟมา 3 แบบด้วยกันคือ เสิร์ฟแบบธรรมดา ราดซอสเบอร์บลองสไตล์ฝรั่งเศส และแบบราดครีมซอสกับคาเวียร์ ทานคู่กับแชมเปญเข้ากันดี สำหรับแฟน ๆ ซีฟู้ดที่นี่ยังมีเมนูยอดนิยมอย่าง Hokkaido Scallops (320 บาท) หอยเชลล์ฮอกไกโดชิ้นโตเสิร์ฟกับ Jerusalem Artichock Puree’
Marian
ซอยสุขุมวิท 55
เปิดทุกวัน เวลา 17.00 - 00.00 น.
โทร. 09-3545-1469
www.facebook.com/lobsterandoyster
ส่งท้ายความอร่อยสดใหม่กันที่ Embassy Room หนึ่งในห้องอาหารหลักของโรงแรม Park Hyatt Bangkok พร้อมให้บริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารค่ำในสไตล์ที่ได้รับอิทธิพลจากทั้งวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมเอเชีย โดยเน้นเสิร์ฟอาหารซีฟู้ดเป็นหลัก จากฝีมือเชฟผู้มากประสบการณ์ที่ครีเอทเมนูสุดพิเศษมาให้ทานกันท่ามกลางบรรยากาศโปร่งโล่งสบาย สอดรับกับโครงสร้างและการตกแต่งของโรงแรมที่มีความหรูหรา ร่วมสมัย อีกทั้งยังสะท้อนถึงความเป็น Art Hotel ด้วยชิ้นงานศิลปะที่จัดวางตามบริเวณต่าง ๆ พร้อมด้วยวิวสวนลอยฟ้าและสระว่ายน้ำอินฟินิตี้พูลให้ได้ชมทัศนียภาพเพลิน ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
มาทานอาหารที่นี่ ทุกคนจะได้พบกับครัวเปิดและเตาอบขนาดใหญ่ เพลิดเพลินไปกับการชมขั้นตอนการปรุงอาหารและร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากทีมเชฟ สำหรับเมนูอาหารซีฟู้ดมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบอาหารจานเดียวและอาหารสำหรับแบ่งกันทาน ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมการทานอาหารของชาวเอเชียที่เน้นการแชร์อาหารกันทานในกลุ่มเพื่อนฝูงหรือครอบครัว
เริ่มที่เมนูซีฟู้ดเรียกน้ำย่อยที่มีกลิ่นอายสเปนอย่าง Baby Squid (790 บาท) ปลาหมึกตัวเล็กจากสเปน ผัดต้นหอมย่าง ขิงดอง และไส้กรอกโชริโซ่ที่หั่นเป็นเส้น ๆ ผัดกับซอสข้นสีส้มที่มีส่วนผสมของพริกหวานแดง ตกแต่งด้วยแบล็คตูอี้ หรือแผ่นแป้งบางกรอบ ได้สีดำธรรมชาติจากปลาหมึก
ต่อด้วยเมนู Lobster Bisque (1,950 บาท) ซุปล็อบสเตอร์สไตล์ฝรั่งเศส ที่นำล็อบสเตอร์จากแคนาดาไป Sous vide และอบต่อ เสิร์ฟแยกระหว่างกุ้งกับซุปบิสค์ โดยกุ้งมาในจานพร้อมทารากอนครีมสีขาวและผักกาดฮ่องเต้ด้านล่าง ส่วนซุปจะอยู่ในขวดเล็ก ๆ ให้เทด้วยตัวเอง ทานพร้อมกันทั้งล็อบสเตอร์ ครีมทารากอน และบิสค์
Embassy Room
ชั้น 9 Park Hyatt Bangkok
เปิดทุกวัน เวลา12.00 - 14.30 น. และ 18.00 - 21.30 น.
โทร. 0-2012-1234
www.facebook.com/ParkHyattBangkok