ว่ากันว่า “วันดี ๆ เริ่มต้นที่กาแฟแก้วแรก” BKK. จึงขอชวนทุกคนมาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟดี ๆ กันสักแก้ว ที่รังสรรค์ความพิเศษโดย 8 ร้าน Specialty Coffee ตัวจริงเรื่องกาแฟ พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้คุณได้ดื่มด่ำกาแฟแก้วโปรด ที่จะเปลี่ยนวันธรรมดาของคุณให้กลายเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่น่าประทับใจ
หมายเหตุ : จากประกาศกรุงเทพมหานคร ทางร้านยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบวันเวลาเปิด-ปิด โดยตรงกับทางร้าน ทั้งนี้อย่าลืมให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19
เริ่มต้นกันที่ร้านกาแฟในตำนานอย่าง Factory Coffee ที่พร้อมเปิดร้านต้อนรับการเริ่มต้นวันใหม่ของคุณด้วยกาแฟแก้วคุณภาพ โดยฝีมือบาริสต้ามากประสบการณ์ การันตีความพิเศษด้วยหลากหลายรางวัลที่บาริสต้าของทางร้านคว้ามา ทั้งตำแหน่งชนะเลิศ Thailand Indy Barista Champion 2017 จาก คุณสมาร์ท-วรพล ถือความสัตย์ รางวัล National Thailand Barista Champion 2017 จาก คุณบิว-เศรษฐการ วีรกุลเทวัญ หรือจะเป็นแชมป์ National Thailand Barista Champion 2018 จาก คุณแมน-อธิป
เพราะว่ากาแฟที่ดีนอกจากจะอยู่ที่รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว คาแร็กเตอร์ของเมล็ดกาแฟ รวมถึงเทคนิคการชงของบาริสต้าแต่ละคนยังช่วยสร้างเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าจะให้ดีต่อใจขอเลือกเมนูที่สมาร์ทตั้งใจทำและแนะนำให้ลองดื่มอย่าง Mrs.Cold (90 บาท) กาแฟ Signature ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ โดยเลือกใช้นมเย็นจัดสูตรพิเศษของทางร้าน ราดด้วยช็อตเอสเพรสโซและไซรัปโฮมเมดสูตรลับ ที่ทำให้รสสัมผัสในแต่ละครั้งมีความ Creamy เข้ากับความเข้มขมของกาแฟ ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยความกลมกล่อมหอมละมุนที่หลงเหลืออยู่ภายในปาก
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood หรือ LINE MAN
Factory Coffee Bangkok
Airport Rail Link สถานีพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
โทร. 08-0958-8050
www.facebook.com/factorybkk
ต่อด้วย Bottomless Flagship Store ร้านกาแฟบริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ซึ่งเปลี่ยนร้านเล็กในซอยลึกมาเป็นพื้นที่ใหม่เพื่อให้คนรักกาแฟได้มาพบปะกัน พร้อมเสิร์ฟ Specialty Coffee ที่ยกมาครบทั้งทีมบาริสต้ามากฝีมือและอุปกรณ์ครบครันเพื่อให้ได้กาแฟแก้วที่ดีที่สุดกับคอกาแฟตัวจริง
ที่นี่เกิดจากองค์ความรู้ทั้งหมดในการศึกษาเรื่องกาแฟมากว่า 20 ปี จนเข้าใจถึงธรรมชาติของกาแฟ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการเลือกเมล็ดกาแฟหลายสัญชาติที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เบลนด์ออกมาเป็นรสชาติที่ให้มิติและคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว เช่น Brix Blend ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเมล็ดกาแฟไทย โคลอมเบีย และกัวเตมาลา ที่ให้ Taste Note หอมสดชื่นของช็อกโกแลต, ส้ม Citrus ที่ชัดเจน และ Wanna Be เมล็ดกาแฟเบลนด์จากบราซิลและเอธิโอเปีย แต่ถ้าใครชอบดื่มแบบ Single Origin ทางร้านก็มีเมล็ดพันธุ์ใหม่ ๆ หมุนเวียนมาให้ลองชิมกันอยู่เสมอ
มาแล้วลองชิม Cold Brew Cherry (150 บาท) ดื่มด่ำรสสัมผัสเบาบางแต่นุ่มลึกของกาแฟสกัดเย็น ที่เติมความซาบซ่าของโซดาลงไปเพื่อเพิ่มความสดชื่น พร้อมด้วยรสหวานอมเปรี้ยวของไซรัปเชอร์รี
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood, LINE MAN หรือ foodpanda
Bottomless Flagship Store
ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.
โทร. 06-5592-2945
www.facebook.com/Bottomless.es
หนึ่งคาเฟ่จากญี่ปุ่นอย่าง Hario Cafe Bangkok ที่ทั้งเรียบง่ายและแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบและคลุกคลีอยู่ในวงการกาแฟมาก่อนนั้น จะต้องรู้จักแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟดริปคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Hario แน่นอน
จากสาขาแรกที่ญี่ปุ่นและสาขา 2 ที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้ขยายความอร่อยสู่สาขา 3 ที่ย่านโชคชัย 4 โดยโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์การตกแต่งร้านให้ออกมาในโทนสีขาวแบบสไตล์ Minimal ที่เน้นความสบายตาด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกรอบทิศทาง ดึงดูดใจให้ใครหลายคนได้แวะเวียนมาชิลล์เอาต์ ณ สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของร้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้
สำหรับใครที่เป็นสายดริป ทางร้านแนะนำให้ลองดื่ม Hot Drip (85 บาท) กาแฟดริปที่สกัดจากเมล็ดกัวเตมาลา ให้รสสัมผัสแบบ Fruity โดยจะให้กลิ่นของสตรอเบอร์รีและมอลต์ ให้คุณดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ได้อย่างน่าประทับใจ
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood, LINE MAN, foodpanda หรือ Robinhood
Hario Cafe Bangkok
โชคชัย 4 ซอย 39
เปิดทุกวัน เวลา 06.00-21.00 น.
โทร. 08-5480-2920
www.facebook.com/hariocafebkk
Sleep Enemy หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ร้านโปรดของใครหลายคน โดยตอนนี้ได้ทำการโยกย้ายจากบ้านหลังเก่าในย่านรัชโยธินมายังเปิดตัวยังโลเคชันใหม่ที่ย่านสะพานควาย ซึ่งกลับมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์และแนวการตกแต่งสุดเท่แบบ American Factory ที่แบ่งสัดส่วนภายในร้านออกเป็นโรงคั่วและคาเฟ่ในพื้นที่เดียวกัน พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟ House Blend ใหม่ ๆ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้คอกาแฟได้สนุกไปกับการเลือกดื่มกันอีกด้วย
ที่นี่มีเมนู Signature น่าลองมากมาย พร้อมด้วยเมล็ดกาแฟให้เลือกกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น Hurt Specialist (125 บาท) หรือชื่อไทยคือ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านความเจ็บปวด' เมนูที่ใช้เมล็ดกาแฟ Boring Bean ที่เป็นกิมมิกของทางร้าน ผสานเข้ากับน้ำองุ่น และ Rose Water ให้สัมผัสสดชื่นออกมาเป็นเมนูดื่มง่ายเหมาะสำหรับสาว ๆ
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน Robinhood
Sleep Enemy
โครงการ The Hub สะพานควาย
เปิด วันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 10.00-17.00 น.
โทร. 06-4915-6696
www.facebook.com/sleepenemy
ชวนมาดื่มด่ำหลากหลายเมนู Specialty Coffee ที่ กระทรวงการคั่ว Ministry of Roasters ร้านกาแฟและโรงคั่วที่คัดสรรหลากหลายเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยฝีมือจากทีมแชมป์บาริสต้าหลากหลายเวที โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความหลงใหลในกาแฟของเจ้าของร้าน และอยากเเชร์ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ จึงเป็นที่มาการตั้งชื่อร้าน ‘กระทรวงการคั่ว’ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
สัมผัสกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟแก้วแรกกับ Single Origin Filter Coffee Hot (120-350 บาท) กาแฟดริปที่ทางร้านมีให้เลือกกว่า 30 รสชาติด้วยกัน โดยราคาจะขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ เสิร์ฟมาในแก้วทรงไวน์ เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมอโรมาของกาแฟที่ชัดเจน
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away
กระทรวงการคั่ว
1 ถนนสุขุมวิท 101/1 เขตพระโขนง
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.
โทร. 09-6697-5060
www.facebook.com/MinistryofRoasters
ถัดมากันที่อีกหนึ่งตัวจริงเรื่องกาแฟอย่างร้าน Roast Runner โรงคั่วกาแฟชื่อดังในย่านถนนบรมราชชนนี ที่มีดีกรีรางวัล World Cup Tasters มาการันตีคุณภาพ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับเมล็ดกาแฟที่ถูกใจไปดื่มด่ำกันที่บ้านแน่นอน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Roast Runner คือโรงคั่วกาแฟขนาดเล็ก หรือ Micro Roaster ที่เกิดจากความหลงใหลในรสชาติกาแฟของกลุ่มเพื่อน 3 คน คือ คุณแชมป์- วรุตม์ ตั้งสุริยาไพศาล, คุณแท๊ป-ธนทัต สมบัติพานิช และ คุณกร-ปกรณ์ สุนทรญาณกิจ ที่ร่วมมือกันเริ่มต้นคั่วกาแฟด้วยตัวเอง เริ่มจากการเป็นนักชิม สะสมประสบการณ์การทางด้านกาแฟ จนคว้ารางวัลจากหลายรายการแข่งขัน กลายมาเป็น Roast Runner โรงคั่วกาแฟเจ้าแรก ๆ ที่ทำให้เกิดกระแสของ Specialty Coffee โดยมีพระเอกเป็นเมล็ดเบลนด์เฉพาะของทางร้านภายใต้ชื่อ Jason Brown และ Marathon นั่นเอง
หนึ่งในกิมมิกของทางร้านก็คือ Exotic Special Blend ที่ทาง Roast Runner เลือกเอาความโดดเด่นของเมล็ดกาแฟหายากมาเบลนด์ออกมาให้ชิมเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละครั้งและมีจำนวนจำกัด ภายใต้ชื่อ Panther (250 g. / 450 บาท) หรือจะเป็นเมล็ดที่เหมาะกับการดริปกาแฟเองที่บ้านอย่าง Peru Jumarp (200 g. / 490 บาท) ที่ผ่านกระบวนการ Washed Process ให้ Taste note ออก Nutty คล้ายกับอะโวคาโดและวอลนัท และแทรกไปด้วยความเปรี้ยวเล็กน้อย หรือจะเป็นเมล็ด Kochere Yirgacheffe Ethiopia (200 g. / 520 บาท) จาก Natural Process ให้สัมผัส Fruity มี Taste Notes แบบ Strawbery Jam, English Tea และ Lavender
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถสั่งเดลิเวอรีเมล็ดกาแฟผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @roastrunner
Roast Runner
99/8 ถนนบรมราชชนนี
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
โทร. 09-5925-4437
www.facebook.com/roastrunner
หรือจะลองแวะมาที่ Red Diamond Cafe ร้าน Specialty Coffee และโรงคั่วในบรรยากาศดิบเท่ ที่ตั้งอยู่ปากซอยสังคมสงเคราะห์ ร้านนี้เกิดขึ้นจากความคิดของ คุณวู้ดดี้-เจ้าของร้าน และ Coffee Trainer ที่ได้การรับรองจาก Specialty Coffee Coffee Association of Europe (SCAE) ซึ่งคุณวู้ดดี้อยากให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟในทุกด้าน
ขั้นตอนการสั่งกาแฟที่ Red Diamond Cafe จะเริ่มจากการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ทางร้านมีทั้งหมด 3 เครื่อง ตัวแรกคือ Mavam Espresso Machine ที่มีความพิเศษคือเป็นเครื่องประเภท Under Counter ทำให้ผู้ดื่มและผู้ชงกาแฟได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เพราะไม่มีเครื่องใหญ่ ๆ มาตั้งขวางหน้า
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถสั่งเดลิเวอรีเมล็ดกาแฟผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @RED DIAMOND CAFE
Red Diamond Cafe
ถนนสังคมสงเคราะห์
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.00-20.00 น.
โทร. 08-5044-2662
www.facebook.com/Reddiamondthailand
ปิดท้ายกันที่ Nana Coffee Roasters Ari สาขาใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Nana Coffee Roasters ที่ครั้งนี้มาเปลี่ยนบ้านหลังใหญ่ในอารีย์ซอย 4 ให้กลายเป็นพื้นรวมตัวแห่งใหม่ของคอกาแฟโดยฝีมือของ คุณกุ้ง-กานดา โทจำปา และ คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุพงษ์ สองนักคั่วกาแฟฝีมือดีและแชมป์บาริสต้าจากหลายเวทีที่เป็นผู้ริเริ่มแบรนด์ ก่อนจะจับมือกับ คุณฝ้าย-นันท์นภัส มัลลิกะมาลย์ ที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์และสร้างสรรค์สาขาที่สามแห่งย่านอารีย์นี้
ขึ้นมา
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านแน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึง Nana Coffee Roasters คงต้องนึกถึงหลากหลายเมนู Specialty Coffee ระดับคุณภาพเป็นอันดับแรก และสำหรับที่สาขาอารีย์นี้ก็มีเมล็ดกาแฟ Single Origin ให้เลือกมากถึง 30 ชนิด ตั้งแต่เมล็ดกาแฟไทยไปจนถึงเมล็ดจากต่างประเทศ โดยแต่ละตัวนั้นมีความพิเศษและมี Taste Note ที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะสดชื่นสุด ๆ ในโทนฟรุ้ตตี้หรือละมุนแบบนัตตี้ก็ดีไม่แพ้กัน
สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟ ทางร้านแนะนำให้ลองแวะมาที่ Slowbar กับเมนู Moonstone Siphon (250 บาท) กาแฟไซฟอนจาก Moonstone ให้กลิ่นและรสชาติที่สดชื่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใครกับ Taste Note ที่หอมลิ้นจี่และกุหลาบ
เพื่อความสะดวกและปลอดภัย สามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @nanacoffeeari หรือ LINE MAN
Nana Coffee Roasters Ari
อารีย์ซอย 4
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
www.facebook.com/nanacoffeeroastersari