เทรนด์จีนกำลังมา! เช็คอินที่ 6 ร้านสไตล์จีนเปิดใหม่ก่อนใครได้แล้ววันนี้

Published on May 14, 2019

ก่อนหน้านี้เมื่อสองปีก่อน ร้านอาหารและคาเฟ่กลิ่นอาย Chinese Oriental เป็นกระแสนิยมที่แทบทุกคนจะต้องแวะเข้าไปเช็คอินกันก่อนใคร ล่าสุด นอกจากวัฒนธรรมการตกแต่งร้านแบบนี้จะเข้ามามีบทบาทในวงการอาหารมากขึ้นแล้ว เจ้าของร้านยังมีการปรับให้มีความโมเดิร์นเพื่อเข้ากับคนยุคใหม่มากขึ้น BKK. จึงรวบรวมร้านอาหารและคาเฟ่ทั้งหมด 6 ร้าน ที่เรียกว่าเป็นร้านใหม่ และมาพร้อมการตกแต่งสุดเก๋ให้ทุกคนได้ไปเช็คอินกันก่อนใคร จะมีร้านอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1

ยุ้งฉาง 穀倉

FULL REVIEW
 

ยุ้งฉาง 穀倉

นอกจากมณฑลอารีย์จะเป็นย่านที่รวมคาเฟ่เก๋ ๆ ให้สาย Hopping ได้ตามไปเช็คอินแล้ว ยังมีร้านอาหารจีนเปิดใหม่แต่อร่อยถูกใจให้เหล่าฟู้ดดี้ทั้งหลายได้ตามไปลิ้มลองอีกด้วย อย่าง ร้านอาหารยุ้งฉาง 穀倉 (Yoong Chang Restaurant) หนึ่งในร้านอาหารจีนที่หยิบจับวัตถุดิบและวัฒนธรรมการทานอาหารหลากหลายแบบของชาวจีนแต่ละมณฑลมาเล่าใหม่ ผ่านสไตล์ Neo Chinese เทคนิคเฉพาะของ เชฟแอ๋ - กุลพล สามเสน ซึ่งได้มีโอกาสเรียนรู้ตำรับความอร่อยมาจากฮ่องกง พร้อมรวมความใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดลงไปในเเต่ละเมนู

FULL REVIEW
 

ตกแต่งในแบบโรงเตี๊ยมสไตล์จีน

ภายในร้านตกแต่งในแบบโรงเตี๊ยมสไตล์จีน ผสมผสานเข้ากับความเรียบง่ายตามสไตล์ลอฟต์ โดดเด่นด้วยประตูไม้สีน้ำตาลขนาดใหญ่ และเฟอร์นิเจอร์ไม้เกือบทั้งหมด ก่อนจะประดับตกแต่งชั้นวางด้วยไหโบราณที่มาเพิ่มกลิ่นอายความเป็นจีนให้กับบรรยากาศของร้านมากยิ่งขึ้น

 

ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เกือบทั้งหมด

ร้านอาหารยุ้งฉาง เสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูอาหารแบบจีนประยุกต์ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันมากนัก อย่าง 'เปี๋ยง เปี๋ยง เมี่ยน' เส้นเปี๋ยงบะหมี่มือดึงชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อในซีอาน ทำจากแป้งสาลี ให้เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับกำลังดี โดยทางร้านแนะนำเมนู เปี๋ยงไข่หมักซีอิ๊วซอสน้ำมันงาและหอมเจียว (160 บาท) เมนูเส้นเปี๋ยงสุดคลาสสิกสูตรมังสวิรัติ ที่นำเสนอวัตถุดิบและวิธีทานแบบต้นตำรับของชาวจีน ซึ่งนิยมทานเพียงแป้งและเครื่องปรุงให้พออิ่มท้อง ส่วนความพิเศษของเส้นเปี๋ยงนั้นอยู่ที่การเลือกใช้ไข่แดงปลอดสารมาหมักในน้ำซอสและผิวเลมอน จนได้ความหอมมัน รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร

 

เปี๋ยงไข่หมักซีอิ๊วซอสน้ำมันงาและหอมเจียว (160 บาท)

เปี๋ยงหมูแดงรมควันในน้ำซุปกระดูกหมูโครงไก่ (215 บาท) เส้นเปี๋ยงที่มาพร้อมหมูแดงย่างฟืนชิ้นใหญ่ไม่ใส่สีผสมอาหาร ได้สีแดงแบบธรรมชาติซึ่งได้จากข้าวแดงในซอสหมักของทางร้าน และรมควันด้วยฟืนกว่า 3 ชั่วโมงจนได้กลิ่นหอมอย่างมีเอกลักษณ์ แล้วเสริมความอร่อย คล่องคอมากขึ้นด้วยน้ำซุปกระดูกหมูผสมโครงไก่ร้อน ๆ ที่นำไปเคี่ยวด้วยไฟแรงจนได้รสชาติกลมกล่อม

 

เปี๋ยงหมูแดงรมควันในน้ำซุปกระดูกหมูโครงไก่ (215 บาท)

อย่าลืมตบท้ายด้วยสุราล้างปากกันสักนิดกับ สุราลิ้นจี่ (ขวดน้ำเต้า 160 ml 180 บาท/ไห 1600ml 980 บาท) ค็อกเทลสไตล์จีน หอมกลิ่นลิ้นจี่ ซึ่งทางร้านเบสรสชาติด้วยโซจู เสิร์ฟมาในไห ดื่มแล้วให้ความรู้ร้อนวูบวาบเบา ๆ

 

สุราลิ้นจี่ (ขวดน้ำเต้า 160 ml 180 บาท/ไห 1600ml 980 บาท)

ยุ้งฉาง 穀倉
อารีย์สัมพันธ์ ซอย 6
เปิดวันพุธ - จันทร์ เวลา 11.30 - 14.30 น. และ 17.30 - 21.30 น. (หยุดวันอังคาร)
โทร. 09-0976-4686
www.facebook.com/ร้านอาหารยุ้งฉาง-穀倉-Yoong-Chang-Restaurant-243177113241179

 

CHU

บนชั้น 2 ของตึกแถวเก่าในซอยสุขุมวิท 49 มีร้านอาหารจีนเก๋ ๆ สไตล์ Chinese Homemade อย่างร้าน CHU ที่ให้รสชาติในแบบต้นตำรับ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลอง ภายใต้บรรยากาศสุดคลาสสิกของตึกแถวฮ่องกงที่ผสมผสานการออกแบบทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

FULL REVIEW
 

ร้านอาหารจีน แต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความโมเดิร์น

ที่มาของคำว่า 'CHU (ฉู่)' นั้น มาจากชื่อของร้าน ที่แปลว่าตึกแถว ด้วยความที่อยากสร้างพื้นที่ตึกแถวตรงนี้ให้เป็นร้านอาหารจีนที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความโมเดิร์น โดยได้รับความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์หลายคนที่ล้วนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ก่อนจะสร้างห้องแถวที่เคยเป็นร้านบะกุ๊ดเต๋เจ้าโปรดของทุกคนในกลุ่ม ให้กลายมาเป็นพื้นที่เสิร์ฟความสุขด้วยมื้ออาหารแสนอร่อย

 

ร้านกาแฟเล็ก ๆ บริเวณชั้น 1

ภายในร้าน CHU มีร้านกาแฟเล็ก ๆ บริเวณชั้น 1 ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้า ส่วนอาหารเมนูต่าง ๆ นั้น จะเสิร์ฟตั้งแต่มื้อกลางวันไปจนถึงมื้อเย็น นอกจากนี้ยังให้บริการในส่วนของบาร์จนถึงช่วงดึกอีกด้วย เมื่อมาทานที่ร้าน ต้องไม่พลาดที่จะทานเซ็ตไฮไลต์อย่าง บักกุ๊ดเต๋ - ปาท่องโก๋ (280 บาท) ชุดบักกุ๊ดเต๋ จุดเริ่มต้นที่มาของทางร้าน โดยสูตรของที่นี่จะเน้นรสเผ็ดร้อนของพริกไทย เข้ากันดีกับรสชาติหวานหอมของน้ำซุปกระดูกซี่โครงหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยพร้อมเครื่องในชิ้นใหญ่ เสิร์ฟร้อน ๆ เคียงมากับปาท่องโก๋ น้ำจิ้มรสพิเศษ 2 ชนิด เป็นซีอิ๊วดำ และพริกเหลือง

 

บักกุ๊ดเต๋ - ปาท่องโก๋ (280 บาท)

จากนั้นมาต่อกันที่เมนูทานกับข้าวอย่าง แขนงหมูกรอบ (170 บาท) ผักแขนงสดหวานกรอบ มาพร้อมกับหมูกรอบชิ้นโตเต็มคำ หอมกลิ่นกระเทียมและได้รสเผ็ดนิด ๆ ของพริกแดง ตามมาด้วย กุ้งผัดซอสเสฉวน (220 บาท) ที่ทางร้านเลือกกุ้งสดไซส์ใหญ่ ผัดมากับซอสเสฉวนที่ถูกปรับรสให้ได้รสชาติแบบไทย ๆ ไม่ว่าจะทานกับข้าวสวยหรือข้าวต้มก็เข้ากัน

 

แขนงหมูกรอบ (170 บาท) และกุ้งผัดซอสเสฉวน (220 บาท)

ส่วนเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูอีกเช่นกัน หากชอบดื่มชาต้องสั่งเป็น ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ร้อน (150 บาท) เมนูนี้เสิร์ฟมาเป็นกาน้ำชาพร้อมชุดถ้วยชาแบบจีน เหมาะสำหรับคนชอบดื่มชาร้อน ส่วนใครที่อยากเติมความสดชื่นในบรรยากาศฮ่องกง ต้องสั่ง ชามะนาวฮ่องกงเย็น (60 บาท) แก้วนี้ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของเลมอนชิ้นใหญ่ที่ฝานใส่มาในแก้วด้วย กลิ่นและรสชาติเข้ากันกับชา เป็นเครื่องดื่ม Refreshing ที่แนะนำว่าต้องลอง

 

ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ร้อน (150 บาท)

Chu
ซอยสุขุมวิท 49
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 00.00 น.
โทร. 0-2120-4199
www.facebook.com/chuchinesebangkok

 

เพราะคุ้นเคยกับย่านเจริญกรุงเป็นอย่างดี ในฐานะที่เคยอยู่อาศัยในย่านนี้ อีกทั้งยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนในละแวกดังกล่าว ประกอบกับความถนัดในการทำอาหารคั่ว ที่มักจะทำให้คุณหม่งต้องรับบทบาทพ่อครัวประจำของก๊วนเพื่อนอยู่เสมอ จนทำให้หลายคนติดใจในรสมือของเขา และเมื่อมีโอกาสดี ๆ จึงทำให้ คุณหม่ง-ธีรพัฒน์, คุณฟ่ง-วรูน และ คุณเอก-เอกวิทย์ ตัดสินใจเปิดร้าน KUA (คั่ว) ร้านอาหารไทยสไตล์จีน ที่พร้อมเสิร์ฟสารพัดเมนูคั่ว หอมกลิ่นเตาถ่านแบบดั้งเดิม ให้หลายคนที่ผ่านไปผ่านมาได้แวะมาลิ้มลองความอร่อยกัน

FULL REVIEW
 

ตัวร้านดัดแปลงมาจากอาคารหลังเก่า ติดถนนใหญ่ โดยทางร้านยังคงเอกลักษณ์และสีสันแบบคลาสสิกที่ชวนคิดถึงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นผนัง บานประตูหรือบานหน้าต่าง ตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และของตกแต่งกระจุกกระจิกที่ให้กลิ่นอายของความเป็นจีนผสมผสานกับความเป็นไทย ราวกับได้จำลองวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในย่านเจริญกรุงแห่งนี้เอาไว้

 

เริ่มต้นกันที่เมนูขายดีอย่าง คั่วไก่ (89 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ที่นำไปคั่วกับไก่และไข่ บนเตาถ่าน จนส่งกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง สามารถเพิ่มท็อปปิงได้ตามใจชอบ ซึ่งทุก ๆ เมนูจะเสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมะนาวดองรสเข้มแบบไม่อั้นในทุก ๆ จาน ซึ่งซุปร้อน ๆ ถ้วยนี้จะช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้ดียิ่งขึ้น

 

แต่สำหรับใครที่ชอบเมนูคั่วแต่ไม่ชอบกินเส้นทางร้านก็ยังมีเมนูเกาเหลาไว้รองรับ ซึ่งทางร้านแนะนำให้ลอง เกาเหลาคั่วไข่ปลาหมึก (139 บาท) ไข่ปลาหมึกคั่วกับไข่จนหอม กรอบเล็กน้อย ทานคู่กับซุปมะนาวดอง หรือสั่งมาทานเพิ่มเติมกับเมนูจานหลักก็ดีไม่แพ้กัน

 

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูทานเล่นอีกมากมายให้ได้ลอง ไม่ว่าจะเป็น หมั่นโถว (29 บาท) ซาลาเปาไข่เค็มลาวา (39 บาท) ซาลาเปาไส้ครีมมินิ (69 บาท) ถุงทอง (89 บาท) และเกี๊ยวกุ้งทอด (69 บาท) ที่จะมอบกลิ่นอายของอาหารสไตล์จีนให้ทุกคนได้อิ่มท้องพร้อมรับความสุขก่อนกลับถึงบ้านในเย็นวันนี้

 

KUA
เจริญกรุง 73
เปิดทุกวัน เวลา 17.30 - 23.30 น.
โทร. 09-8819-7974
www.facebook.com/KUABKK

 

Suki House

Suki House ร้านสุกี้โฮมเมดแนวใหม่บนชั้น 3 Gateway at Bangsue สาขาเเรกที่ให้ชาวบางซื่อและ Suki Lover เปิดประสบการณ์การทานสุกี้รูปแบบใหม่ที่มากกว่าความอร่อย และจัดเต็มทั้งความสุขและสนุกกับลูกเล่นจากเมนูสุดพิเศษไปพร้อม ๆ กัน

FULL REVIEW
 

ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส

บรรยากาศภายในร้านสบาย ๆ เป็นกันเองด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และสไตล์การตกแต่งที่มีสีโทนส้มสดใส มีกิมมิกเล็ก ๆ ด้วยน้องน้ำจิ้ม มาสคอตคาแรกเตอร์ประจำร้านที่เรียกความน่ารักน่าเอ็นดู เชิญชวนให้เข้ามาลิ้มลองความอร่อยของสุกี้โฮมเมด เริ่มกันที่น้ำซุปสุกี้ 3 สไตล์ เลือกอร่อยได้ตามใจชอบทั้ง ซุปผักสุขใจ น้ำซุปสูตรเฉพาะที่ผ่านการเคี่ยวเป็นเวลานาน รสชาติหวานหอมกลมกล่อมโดนใจ, ซุปสุโก้ยปลาแห้ง ซุปน้ำดำสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นปลาแห้งแบบเน้น ๆ และ ซุปต้มยำคึกคัก แซ่บกับเครื่องต้มยำรสเผ็ดจัดจ้าน

 

น้ำซุปสุกี้ 3 สไตล์

สุกี้จะอร่อยครบเครื่อง ต้องทานคู่น้ำจิ้มสูตรเด็ด Suki House ก็มีน้ำจิ้มหลากหลายให้เลือกตักเองด้วยกัน 5 สูตรทั้ง น้ำจิ้มกวางตุ้ง สูตรต้นตำรับที่หอมกลิ่นน้ำมันงา พริกสด และกระเทียม , น้ำจิ้มสูตรเต้าหู้ยี้ หวานกลมกล่อมหอมกลิ่นเต้าหู้ยี้ สำหรับคนไม่ชอบทานเผ็ด ,น้ำจิ้มแจ่ว เผ็ดเปรี้ยวได้ฟีลอีสานแท้ ๆ , น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติจัดจ้านจากพริกและกระเทียมครบรสสไตล์ไทย ๆ และน้ำจิ้มชาบูญี่ปุ่น (พอนสึ) รสชาติเปรี้ยวหวานสไตล์ญี่ปุ่น จิ้มกับอะไรก็อร่อย

 

น้ำจิ้ม 5 สูตร

ขอแนะนำ ชุดสุกี้เฮ้าส์ (459 บาท) ชุดอร่อยสุดคุ้มที่ประกอบด้วย เนื้อหมูสไลซ์แผ่นใหญ่ ลูกชิ้น เต้าหู้ อาหารทะเลหลากหลาย และเซ็ตผักสดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผักกาดขาว ข้าวโพดอ่อน ผักบุ้งจีน เห็ดนานาชนิด ฯลฯ  หากยังไม่จุใจก็มีวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น เกี๊ยวกุ้งสุกี้เฮ้าส์ เต้าหู้ชีส และแซลมอน สำหรับชาว Meat Lovers ต้องไม่พลาดกับชุดเนื้อริปอายสไลซ์ และชุดหมูคุโรบุตะสไลซ์ ลวกสุกกำลังดีแล้วจุ่มลงในน้ำจิ้มรสเด็ด รับรองว่าฟินทุกคำ

 

ชุดสุกี้เฮ้าส์ (459 บาท)

ซดสุกี้ร้อน ๆ ทั้งทีต้องมีของทานเล่น เมนูที่เชฟแนะนำ จะต้องลืมความจืดของเต้าหู้แบบเดิม ๆ ได้เลยเพราะ เต้าหู้ญี่ปุ่นพริกเกลือ (72 บาท) ของทางร้านทอดจนเหลืองทอง กรอบนอกนุ่มใน และเผ็ดจัดจ้านด้วยพริกเกลือที่คั่วจนหอม, คะน้าฮ่องกงเจี๋ยน (79 บาท) คะน้าผัดเข้ากับเห็ดหอมในน้ำมันหอย โรยด้วยแปะก๊วยเพิ่มความกรุบกรอบเข้ากัน และขอเอาใจคนชอบอาหารทะเลด้วย กุ้งทอดมหาสมบัติ (95 บาท) กุ้งทอดชิ้นพอดีคำผัดเข้ากับซอสพริกเสฉวน เปรี้ยว หวาน เผ็ด ครบรส

 

เต้าหู้ญี่ปุ่นพริกเกลือ (72 บาท), คะน้าฮ่องกงเจี๋ยน (79 บาท) และกุ้งทอดมหาสมบัติ (95 บาท)

Suki House
ชั้น 3 Gateway at Bangsue
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
www.facebook.com/sukihouserestaurant

 

อะเหน่

ต่อกันที่ร้าน อะเหน่ ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ในย่านตลาดน้อย-เจริญกรุง ได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อร้านมาจากคำที่ใช้เรียก “คุณยาย” ในภาษาจีนไหหลำ คุณอ๊อน-พัทธ์ธีรา สกุลวิริยะธรรม เจ้าของร้าน จึงตั้งใจให้ร้านนี้เป็นของขวัญให้กับคุณยาย เน้นเสิร์ฟอาหาร Homemade Seafood เสิร์ฟทุกจานด้วยวัตถุดิบซีฟู้ดสดใหม่ ปรุงจานต่อจาน และไม่ใส่ผงชูรส โดยทุกเมนูที่ทางร้านเสิร์ฟ นอกจากเลือกนั่งทานที่ร้านได้แล้ว ยังสามารถสั่งแบบเดลิเวอรี่มาทานได้อีกด้วย

FULL REVIEW
 

โครงสร้างเดิมคือตึกแถวเก่า กะเทาะปูนจนเห็นอิฐมอญข้างใน

ในย่านนี้ ล้วนเต็มไปด้วยห้องแถวที่สร้างติดกันยาวไปจนสุดถนน ตึกแต่ละหลังมีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ทางร้านจึงยังคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ สังเกตได้จากประตูเหล็กดัด ผนังอิฐมอญ ที่คนสมัยก่อนนิยมนำมาสร้างเป็นอาคาร นอกจากนี้ ยังได้ทาสีเพิ่ม รวมถึงใช้โต๊ะและเก้าอี้ให้เหมือนกับร้านน้ำชาของคนจีน เป็นการสร้างบรรยากาศให้กลมกลืนไปกับย่านคนจีนได้เป็นอย่างดี

 

บรรยากาศเหมือนกับร้านน้ำชาของคนจีน

นอกจากเมนูซีฟู้ดที่ทางร้านตั้งใจเลือกวัตถุดิบและปรุงเป็นอย่างดีแล้ว ต้องลองสั่งเมนูซาลาเปาและติ่มซำที่ทางร้านสั่งทำรสชาติเฉพาะ อย่างเช่นเมนูนี้ เปาส้มไข่เค็ม (29 บาท) ซาลาเปาลูกส้มที่สอดไส้ไข่เค็มและเนื้อส้มแท้ ๆ ไว้ด้านใน แนะนำให้รีบทานตอนร้อน ๆ จะได้รสชาติความมันของไข่เค็ม และเนื้อส้มแบบไส้ทะลัก ถัดมาเป็นเมนูที่พลาดไม่ได้อย่าง เปาไข่ช็อก (29 บาท) ซาลาเปาลวดลายน่าค้นหา ด้านในเป็นช็อกโกแลตลาวาไข่เค็ม ได้รสเข้มข้นของช็อกโกแลตที่อัดแน่นมาเต็มคำ

 

หลากหลายเมนูซาลาเปา

วัตถุดิบหลักที่ใช้รังสรรค์ความอร่อยในแต่เมนูอาหาร ทางร้านเน้นเป็นกุ้งแม่น้ำและเนื้อก้ามปู โดยเสิร์ฟมาในลักษณะของจานเดียว แต่ทานอิ่มท้อง เพราะอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบที่ใส่มาให้แบบไม่อั้น อย่างจานนี้ โคตรเนื้อก้ามปูกะเพราราดข้าว (255 บาท) เนื้อก้ามปูผัดซอสกะเพรา ปรุงให้มีรสชาติเข้มข้น ทานกับข้าวสวย

 

โคตรเนื้อก้ามปูกะเพราราดข้าว (255 บาท)

ส่วนจานเด็ดที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์และเมนูขายดีของทางร้านคือ ข้าวกุ้งแม่น้ำซอสไข่เค็มมันกุ้ง (155 บาท) กุ้งแม่น้ำผัดซอสไข่เค็มและมันกุ้งเน้น ๆ ผัดจนข้น ก่อนจะราดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ หอมมัน ยิ่งมีมันกุ้งเยิ้ม ๆ จากหัวกุ้งด้วยแล้วยิ่งทำให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น 

 

ข้าวกุ้งแม่น้ำซอสไข่เค็มมันกุ้ง (155 บาท)

อะเหน่
763 ถนนเจริญกรุง
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น.
โทร. 08-0627-7498
www.facebook.com/raananeteerak

6

บ้านอากงอาม่า

FULL REVIEW
 

บ้านอากงอาม่า

ปิดท้ายกันที่บ้านใจกลางย่านคลองสาน บ้านไม้เรือนไทยทรงปั้นหยาหน้าตาสุดคลาสสิกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 หรือราว ๆ ปีพ.ศ. 2472 เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ของกรุงธนบุรี รวมถึงเรื่องราวของต้นตระกูลจีน ‘ทังสมบัติ’ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย (บ.ทั่งง่วนฮะ) น้ำปลาตรารวงทอง ที่ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความทรงจำในวัยเด็กของคนในครอบครัว จนกระทั่งกลายมาเป็น My Grandparent's House บ้านอากงอาม่า

FULL REVIEW
 

บ้านไม้เรือนไทยทรงปั้นหยาหน้าตาสุดคลาสสิก

บรรยากาศภายในร้าน สงบร่มรื่น เติมเต็มบรรยากาศสุดคลาสสิกแบบจีน ๆ ด้วยศาลเจ้ากวนอู ส่วนบ้านไม้หลังนี้มีระเบียงยื่นออกไปให้ได้รับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยรูปแบบการก่อสร้างแบบโบราณของบ้านเรือนไทย จึงทำให้ที่นี่เติมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความคลาสสิกในแบบที่ไม่เหมือนใคร

 

ก่อสร้างแบบโบราณของบ้านเรือนไทย

ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ บวกกับความคลาสสิกแบบจีน ๆ ไม่แปลกที่คาเฟ่แห่งนี้จะเน้นเสิร์ฟอาหารว่างและเครื่องดื่มแบบคลาสสิกที่ชวนให้นึกไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยก่อนหรือชวนนึกย้อนไปถึงความทรงจำในวัยเด็กของใครหลายคน สำหรับใครชอบทานของหวานแบบเย็น ๆ แนะนำเป็น เฉาก๊วยโบราณสูตรอาม่า (40 บาท) ด้วยความเหนียวนุ่มของเนื้อเฉาก๊วย โรยด้วยน้ำตาลอ้อยที่มาเพิ่มความหวานหอม ทำให้ขนมโบราณหวานเย็นถ้วยนี้ครองใจใครต่อใครได้ไม่ยาก

 

เฉาก๊วยโบราณสูตรอาม่า (40 บาท)

หรือจะเป็น วุ้นมะพร้าวน้ำหอมสูตรอาม่า (20 บาท) วุ้นมะพร้าวที่ผสมเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป เสิร์ฟมาในกระทงเล็ก ๆ อิ่มกำลังดี ตามมาด้วยของว่างทานเล่นอย่าง ปั้นขลิบ (35 บาท) ที่ให้รสชาติหวานเค็มแบบไทย ๆ เคี้ยวเล่นเพลิน ๆ ระหว่างรับลมริมน้ำ 

 

ปั้นขลิบ (35 บาท) และน้ำเก็กฮวยสูตรอาม่า (30 บาท)

ก่อนจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองทานขนมฝรั่งบ้างอย่าง คุกกี้ช็อกโกแลต (25 บาท) ซอฟต์คุกกี้รสช็อกโกแลตเข้มข้น ที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มและรสหวานกำลังดี และปิดท้ายด้วยเมนูที่ให้ความสดชื่น น้ำเก็กฮวยสูตรอาม่า (30 บาท) มาจิบให้เข้ากับบรรยากาศ แก้วนี้ให้กลิ่นหอมของเก็กฮวยแท้ มีรสหวานอ่อน ๆ ดื่มแล้วเพิ่มความสดชื่นผ่อนคลายได้ดีระหว่างวัน

 

คุกกี้ช็อกโกแลต (25 บาท)

บ้านอากงอาม่า
ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3
เปิดเปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น.
โทร. 0-2437-5183
www.facebook.com/mygpshouse