ก่อนหน้านี้เมื่อสองปีก่อน ร้านอาหารและคาเฟ่กลิ่นอาย Chinese Oriental เป็นกระแสนิยมที่แทบทุกคนจะต้องแวะเข้าไปเช็คอินกันก่อนใคร ล่าสุด นอกจากวัฒนธรรมการตกแต่งร้านแบบนี้จะเข้ามามีบทบาทในวงการอาหารมากขึ้นแล้ว เจ้าของร้านยังมีการปรับให้มีความโมเดิร์นเพื่อเข้ากับคนยุคใหม่มากขึ้น BKK. จึงรวบรวมร้านอาหารและคาเฟ่ทั้งหมด 6 ร้าน ที่เรียกว่าเป็นร้านใหม่ และมาพร้อมการตกแต่งสุดเก๋ให้ทุกคนได้ไปเช็คอินกันก่อนใคร จะมีร้านอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
นอกจากมณฑลอารีย์จะเป็นย่านที่รวมคาเฟ่เก๋ ๆ ให้สาย Hopping ได้ตามไปเช็คอินแล้ว ยังมีร้านอาหารจีนเปิดใหม่แต่อร่อยถูกใจให้เหล่าฟู้ดดี้ทั้งหลายได้ตามไปลิ้มลองอีกด้วย อย่าง ร้านอาหารยุ้งฉาง 穀倉 (Yoong Chang Restaurant) หนึ่งในร้านอาหารจีนที่หยิบจับวัตถุดิบและวัฒนธรรมการทานอาหารหลากหลายแบบของชาวจีนแต่ละมณฑลมาเล่าใหม่ ผ่านสไตล์ Neo Chinese เทคนิคเฉพาะของ เชฟแอ๋ - กุลพล สามเสน ซึ่งได้มีโอกาสเรียนรู้ตำรับความอร่อยมาจากฮ่องกง พร้อมรวมความใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดลงไปในเเต่ละเมนู
FULL REVIEWภายในร้านตกแต่งในแบบโรงเตี๊ยมสไตล์จีน ผสมผสานเข้ากับความเรียบง่ายตามสไตล์ลอฟต์ โดดเด่นด้วยประตูไม้สีน้ำตาลขนาดใหญ่ และเฟอร์นิเจอร์ไม้เกือบทั้งหมด ก่อนจะประดับตกแต่งชั้นวางด้วยไหโบราณที่มาเพิ่มกลิ่นอายความเป็นจีนให้กับบรรยากาศของร้านมากยิ่งขึ้น
ร้านอาหารยุ้งฉาง เสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูอาหารแบบจีนประยุกต์ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันมากนัก อย่าง 'เปี๋ยง เปี๋ยง เมี่ยน' เส้นเปี๋ยงบะหมี่มือดึงชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อในซีอาน ทำจากแป้งสาลี ให้เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับกำลังดี โดยทางร้านแนะนำเมนู เปี๋ยงไข่หมักซีอิ๊วซอสน้ำมันงาและหอมเจียว (160 บาท) เมนูเส้นเปี๋ยงสุดคลาสสิกสูตรมังสวิรัติ ที่นำเสนอวัตถุดิบและวิธีทานแบบต้นตำรับของชาวจีน ซึ่งนิยมทานเพียงแป้งและเครื่องปรุงให้พออิ่มท้อง ส่วนความพิเศษของเส้นเปี๋ยงนั้นอยู่ที่การเลือกใช้ไข่แดงปลอดสารมาหมักในน้ำซอสและผิวเลมอน จนได้ความหอมมัน รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร
เปี๋ยงหมูแดงรมควันในน้ำซุปกระดูกหมูโครงไก่ (215 บาท) เส้นเปี๋ยงที่มาพร้อมหมูแดงย่างฟืนชิ้นใหญ่ไม่ใส่สีผสมอาหาร ได้สีแดงแบบธรรมชาติซึ่งได้จากข้าวแดงในซอสหมักของทางร้าน และรมควันด้วยฟืนกว่า 3 ชั่วโมงจนได้กลิ่นหอมอย่างมีเอกลักษณ์ แล้วเสริมความอร่อย คล่องคอมากขึ้นด้วยน้ำซุปกระดูกหมูผสมโครงไก่ร้อน ๆ ที่นำไปเคี่ยวด้วยไฟแรงจนได้รสชาติกลมกล่อม
อย่าลืมตบท้ายด้วยสุราล้างปากกันสักนิดกับ สุราลิ้นจี่ (ขวดน้ำเต้า 160 ml 180 บาท/ไห 1600ml 980 บาท) ค็อกเทลสไตล์จีน หอมกลิ่นลิ้นจี่ ซึ่งทางร้านเบสรสชาติด้วยโซจู เสิร์ฟมาในไห ดื่มแล้วให้ความรู้ร้อนวูบวาบเบา ๆ
ยุ้งฉาง 穀倉
อารีย์สัมพันธ์ ซอย 6
เปิดวันพุธ - จันทร์ เวลา 11.30 - 14.30 น. และ 17.30 - 21.30 น. (หยุดวันอังคาร)
โทร. 09-0976-4686
www.facebook.com/ร้านอาหารยุ้งฉาง-穀倉-Yoong-Chang-Restaurant-243177113241179
บนชั้น 2 ของตึกแถวเก่าในซอยสุขุมวิท 49 มีร้านอาหารจีนเก๋ ๆ สไตล์ Chinese Homemade อย่างร้าน CHU ที่ให้รสชาติในแบบต้นตำรับ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลอง ภายใต้บรรยากาศสุดคลาสสิกของตึกแถวฮ่องกงที่ผสมผสานการออกแบบทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
FULL REVIEWที่มาของคำว่า 'CHU (ฉู่)' นั้น มาจากชื่อของร้าน ที่แปลว่าตึกแถว ด้วยความที่อยากสร้างพื้นที่ตึกแถวตรงนี้ให้เป็นร้านอาหารจีนที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความโมเดิร์น โดยได้รับความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์หลายคนที่ล้วนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ก่อนจะสร้างห้องแถวที่เคยเป็นร้านบะกุ๊ดเต๋เจ้าโปรดของทุกคนในกลุ่ม ให้กลายมาเป็นพื้นที่เสิร์ฟความสุขด้วยมื้ออาหารแสนอร่อย
ภายในร้าน CHU มีร้านกาแฟเล็ก ๆ บริเวณชั้น 1 ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้า ส่วนอาหารเมนูต่าง ๆ นั้น จะเสิร์ฟตั้งแต่มื้อกลางวันไปจนถึงมื้อเย็น นอกจากนี้ยังให้บริการในส่วนของบาร์จนถึงช่วงดึกอีกด้วย เมื่อมาทานที่ร้าน ต้องไม่พลาดที่จะทานเซ็ตไฮไลต์อย่าง บักกุ๊ดเต๋ - ปาท่องโก๋ (280 บาท) ชุดบักกุ๊ดเต๋ จุดเริ่มต้นที่มาของทางร้าน โดยสูตรของที่นี่จะเน้นรสเผ็ดร้อนของพริกไทย เข้ากันดีกับรสชาติหวานหอมของน้ำซุปกระดูกซี่โครงหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยพร้อมเครื่องในชิ้นใหญ่ เสิร์ฟร้อน ๆ เคียงมากับปาท่องโก๋ น้ำจิ้มรสพิเศษ 2 ชนิด เป็นซีอิ๊วดำ และพริกเหลือง
จากนั้นมาต่อกันที่เมนูทานกับข้าวอย่าง แขนงหมูกรอบ (170 บาท) ผักแขนงสดหวานกรอบ มาพร้อมกับหมูกรอบชิ้นโตเต็มคำ หอมกลิ่นกระเทียมและได้รสเผ็ดนิด ๆ ของพริกแดง ตามมาด้วย กุ้งผัดซอสเสฉวน (220 บาท) ที่ทางร้านเลือกกุ้งสดไซส์ใหญ่ ผัดมากับซอสเสฉวนที่ถูกปรับรสให้ได้รสชาติแบบไทย ๆ ไม่ว่าจะทานกับข้าวสวยหรือข้าวต้มก็เข้ากัน
ส่วนเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูอีกเช่นกัน หากชอบดื่มชาต้องสั่งเป็น ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ร้อน (150 บาท) เมนูนี้เสิร์ฟมาเป็นกาน้ำชาพร้อมชุดถ้วยชาแบบจีน เหมาะสำหรับคนชอบดื่มชาร้อน ส่วนใครที่อยากเติมความสดชื่นในบรรยากาศฮ่องกง ต้องสั่ง ชามะนาวฮ่องกงเย็น (60 บาท) แก้วนี้ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของเลมอนชิ้นใหญ่ที่ฝานใส่มาในแก้วด้วย กลิ่นและรสชาติเข้ากันกับชา เป็นเครื่องดื่ม Refreshing ที่แนะนำว่าต้องลอง
Chu
ซอยสุขุมวิท 49
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 00.00 น.
โทร. 0-2120-4199
www.facebook.com/chuchinesebangkok
เพราะคุ้นเคยกับย่านเจริญกรุงเป็นอย่างดี ในฐานะที่เคยอยู่อาศัยในย่านนี้ อีกทั้งยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนในละแวกดังกล่าว ประกอบกับความถนัดในการทำอาหารคั่ว ที่มักจะทำให้คุณหม่งต้องรับบทบาทพ่อครัวประจำของก๊วนเพื่อนอยู่เสมอ จนทำให้หลายคนติดใจในรสมือของเขา และเมื่อมีโอกาสดี ๆ จึงทำให้ คุณหม่ง-ธีรพัฒน์, คุณฟ่ง-วรูน และ คุณเอก-เอกวิทย์ ตัดสินใจเปิดร้าน KUA (คั่ว) ร้านอาหารไทยสไตล์จีน ที่พร้อมเสิร์ฟสารพัดเมนูคั่ว หอมกลิ่นเตาถ่านแบบดั้งเดิม ให้หลายคนที่ผ่านไปผ่านมาได้แวะมาลิ้มลองความอร่อยกัน
FULL REVIEWตัวร้านดัดแปลงมาจากอาคารหลังเก่า ติดถนนใหญ่ โดยทางร้านยังคงเอกลักษณ์และสีสันแบบคลาสสิกที่ชวนคิดถึงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นผนัง บานประตูหรือบานหน้าต่าง ตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และของตกแต่งกระจุกกระจิกที่ให้กลิ่นอายของความเป็นจีนผสมผสานกับความเป็นไทย ราวกับได้จำลองวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในย่านเจริญกรุงแห่งนี้เอาไว้
เริ่มต้นกันที่เมนูขายดีอย่าง คั่วไก่ (89 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ที่นำไปคั่วกับไก่และไข่ บนเตาถ่าน จนส่งกลิ่นหอมน่าลิ้มลอง สามารถเพิ่มท็อปปิงได้ตามใจชอบ ซึ่งทุก ๆ เมนูจะเสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมะนาวดองรสเข้มแบบไม่อั้นในทุก ๆ จาน ซึ่งซุปร้อน ๆ ถ้วยนี้จะช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้ดียิ่งขึ้น
แต่สำหรับใครที่ชอบเมนูคั่วแต่ไม่ชอบกินเส้นทางร้านก็ยังมีเมนูเกาเหลาไว้รองรับ ซึ่งทางร้านแนะนำให้ลอง เกาเหลาคั่วไข่ปลาหมึก (139 บาท) ไข่ปลาหมึกคั่วกับไข่จนหอม กรอบเล็กน้อย ทานคู่กับซุปมะนาวดอง หรือสั่งมาทานเพิ่มเติมกับเมนูจานหลักก็ดีไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูทานเล่นอีกมากมายให้ได้ลอง ไม่ว่าจะเป็น หมั่นโถว (29 บาท) ซาลาเปาไข่เค็มลาวา (39 บาท) ซาลาเปาไส้ครีมมินิ (69 บาท) ถุงทอง (89 บาท) และเกี๊ยวกุ้งทอด (69 บาท) ที่จะมอบกลิ่นอายของอาหารสไตล์จีนให้ทุกคนได้อิ่มท้องพร้อมรับความสุขก่อนกลับถึงบ้านในเย็นวันนี้
KUA
เจริญกรุง 73
เปิดทุกวัน เวลา 17.30 - 23.30 น.
โทร. 09-8819-7974
www.facebook.com/KUABKK
Suki House ร้านสุกี้โฮมเมดแนวใหม่บนชั้น 3 Gateway at Bangsue สาขาเเรกที่ให้ชาวบางซื่อและ Suki Lover เปิดประสบการณ์การทานสุกี้รูปแบบใหม่ที่มากกว่าความอร่อย และจัดเต็มทั้งความสุขและสนุกกับลูกเล่นจากเมนูสุดพิเศษไปพร้อม ๆ กัน
บรรยากาศภายในร้านสบาย ๆ เป็นกันเองด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และสไตล์การตกแต่งที่มีสีโทนส้มสดใส มีกิมมิกเล็ก ๆ ด้วยน้องน้ำจิ้ม มาสคอตคาแรกเตอร์ประจำร้านที่เรียกความน่ารักน่าเอ็นดู เชิญชวนให้เข้ามาลิ้มลองความอร่อยของสุกี้โฮมเมด เริ่มกันที่น้ำซุปสุกี้ 3 สไตล์ เลือกอร่อยได้ตามใจชอบทั้ง ซุปผักสุขใจ น้ำซุปสูตรเฉพาะที่ผ่านการเคี่ยวเป็นเวลานาน รสชาติหวานหอมกลมกล่อมโดนใจ, ซุปสุโก้ยปลาแห้ง ซุปน้ำดำสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นปลาแห้งแบบเน้น ๆ และ ซุปต้มยำคึกคัก แซ่บกับเครื่องต้มยำรสเผ็ดจัดจ้าน
สุกี้จะอร่อยครบเครื่อง ต้องทานคู่น้ำจิ้มสูตรเด็ด Suki House ก็มีน้ำจิ้มหลากหลายให้เลือกตักเองด้วยกัน 5 สูตรทั้ง น้ำจิ้มกวางตุ้ง สูตรต้นตำรับที่หอมกลิ่นน้ำมันงา พริกสด และกระเทียม , น้ำจิ้มสูตรเต้าหู้ยี้ หวานกลมกล่อมหอมกลิ่นเต้าหู้ยี้ สำหรับคนไม่ชอบทานเผ็ด ,น้ำจิ้มแจ่ว เผ็ดเปรี้ยวได้ฟีลอีสานแท้ ๆ , น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติจัดจ้านจากพริกและกระเทียมครบรสสไตล์ไทย ๆ และน้ำจิ้มชาบูญี่ปุ่น (พอนสึ) รสชาติเปรี้ยวหวานสไตล์ญี่ปุ่น จิ้มกับอะไรก็อร่อย
ขอแนะนำ ชุดสุกี้เฮ้าส์ (459 บาท) ชุดอร่อยสุดคุ้มที่ประกอบด้วย เนื้อหมูสไลซ์แผ่นใหญ่ ลูกชิ้น เต้าหู้ อาหารทะเลหลากหลาย และเซ็ตผักสดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผักกาดขาว ข้าวโพดอ่อน ผักบุ้งจีน เห็ดนานาชนิด ฯลฯ หากยังไม่จุใจก็มีวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น เกี๊ยวกุ้งสุกี้เฮ้าส์ เต้าหู้ชีส และแซลมอน สำหรับชาว Meat Lovers ต้องไม่พลาดกับชุดเนื้อริปอายสไลซ์ และชุดหมูคุโรบุตะสไลซ์ ลวกสุกกำลังดีแล้วจุ่มลงในน้ำจิ้มรสเด็ด รับรองว่าฟินทุกคำ
ซดสุกี้ร้อน ๆ ทั้งทีต้องมีของทานเล่น เมนูที่เชฟแนะนำ จะต้องลืมความจืดของเต้าหู้แบบเดิม ๆ ได้เลยเพราะ เต้าหู้ญี่ปุ่นพริกเกลือ (72 บาท) ของทางร้านทอดจนเหลืองทอง กรอบนอกนุ่มใน และเผ็ดจัดจ้านด้วยพริกเกลือที่คั่วจนหอม, คะน้าฮ่องกงเจี๋ยน (79 บาท) คะน้าผัดเข้ากับเห็ดหอมในน้ำมันหอย โรยด้วยแปะก๊วยเพิ่มความกรุบกรอบเข้ากัน และขอเอาใจคนชอบอาหารทะเลด้วย กุ้งทอดมหาสมบัติ (95 บาท) กุ้งทอดชิ้นพอดีคำผัดเข้ากับซอสพริกเสฉวน เปรี้ยว หวาน เผ็ด ครบรส
Suki House
ชั้น 3 Gateway at Bangsue
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
www.facebook.com/sukihouserestaurant
ต่อกันที่ร้าน อะเหน่ ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ในย่านตลาดน้อย-เจริญกรุง ได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อร้านมาจากคำที่ใช้เรียก “คุณยาย” ในภาษาจีนไหหลำ คุณอ๊อน-พัทธ์ธีรา สกุลวิริยะธรรม เจ้าของร้าน จึงตั้งใจให้ร้านนี้เป็นของขวัญให้กับคุณยาย เน้นเสิร์ฟอาหาร Homemade Seafood เสิร์ฟทุกจานด้วยวัตถุดิบซีฟู้ดสดใหม่ ปรุงจานต่อจาน และไม่ใส่ผงชูรส โดยทุกเมนูที่ทางร้านเสิร์ฟ นอกจากเลือกนั่งทานที่ร้านได้แล้ว ยังสามารถสั่งแบบเดลิเวอรี่มาทานได้อีกด้วย
ในย่านนี้ ล้วนเต็มไปด้วยห้องแถวที่สร้างติดกันยาวไปจนสุดถนน ตึกแต่ละหลังมีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ทางร้านจึงยังคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ สังเกตได้จากประตูเหล็กดัด ผนังอิฐมอญ ที่คนสมัยก่อนนิยมนำมาสร้างเป็นอาคาร นอกจากนี้ ยังได้ทาสีเพิ่ม รวมถึงใช้โต๊ะและเก้าอี้ให้เหมือนกับร้านน้ำชาของคนจีน เป็นการสร้างบรรยากาศให้กลมกลืนไปกับย่านคนจีนได้เป็นอย่างดี
นอกจากเมนูซีฟู้ดที่ทางร้านตั้งใจเลือกวัตถุดิบและปรุงเป็นอย่างดีแล้ว ต้องลองสั่งเมนูซาลาเปาและติ่มซำที่ทางร้านสั่งทำรสชาติเฉพาะ อย่างเช่นเมนูนี้ เปาส้มไข่เค็ม (29 บาท) ซาลาเปาลูกส้มที่สอดไส้ไข่เค็มและเนื้อส้มแท้ ๆ ไว้ด้านใน แนะนำให้รีบทานตอนร้อน ๆ จะได้รสชาติความมันของไข่เค็ม และเนื้อส้มแบบไส้ทะลัก ถัดมาเป็นเมนูที่พลาดไม่ได้อย่าง เปาไข่ช็อก (29 บาท) ซาลาเปาลวดลายน่าค้นหา ด้านในเป็นช็อกโกแลตลาวาไข่เค็ม ได้รสเข้มข้นของช็อกโกแลตที่อัดแน่นมาเต็มคำ
วัตถุดิบหลักที่ใช้รังสรรค์ความอร่อยในแต่เมนูอาหาร ทางร้านเน้นเป็นกุ้งแม่น้ำและเนื้อก้ามปู โดยเสิร์ฟมาในลักษณะของจานเดียว แต่ทานอิ่มท้อง เพราะอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบที่ใส่มาให้แบบไม่อั้น อย่างจานนี้ โคตรเนื้อก้ามปูกะเพราราดข้าว (255 บาท) เนื้อก้ามปูผัดซอสกะเพรา ปรุงให้มีรสชาติเข้มข้น ทานกับข้าวสวย
ส่วนจานเด็ดที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์และเมนูขายดีของทางร้านคือ ข้าวกุ้งแม่น้ำซอสไข่เค็มมันกุ้ง (155 บาท) กุ้งแม่น้ำผัดซอสไข่เค็มและมันกุ้งเน้น ๆ ผัดจนข้น ก่อนจะราดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ หอมมัน ยิ่งมีมันกุ้งเยิ้ม ๆ จากหัวกุ้งด้วยแล้วยิ่งทำให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น
อะเหน่
763 ถนนเจริญกรุง
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น.
โทร. 08-0627-7498
www.facebook.com/raananeteerak
ปิดท้ายกันที่บ้านใจกลางย่านคลองสาน บ้านไม้เรือนไทยทรงปั้นหยาหน้าตาสุดคลาสสิกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 หรือราว ๆ ปีพ.ศ. 2472 เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ของกรุงธนบุรี รวมถึงเรื่องราวของต้นตระกูลจีน ‘ทังสมบัติ’ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย (บ.ทั่งง่วนฮะ) น้ำปลาตรารวงทอง ที่ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความทรงจำในวัยเด็กของคนในครอบครัว จนกระทั่งกลายมาเป็น My Grandparent's House บ้านอากงอาม่า
FULL REVIEWบรรยากาศภายในร้าน สงบร่มรื่น เติมเต็มบรรยากาศสุดคลาสสิกแบบจีน ๆ ด้วยศาลเจ้ากวนอู ส่วนบ้านไม้หลังนี้มีระเบียงยื่นออกไปให้ได้รับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยรูปแบบการก่อสร้างแบบโบราณของบ้านเรือนไทย จึงทำให้ที่นี่เติมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความคลาสสิกในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ บวกกับความคลาสสิกแบบจีน ๆ ไม่แปลกที่คาเฟ่แห่งนี้จะเน้นเสิร์ฟอาหารว่างและเครื่องดื่มแบบคลาสสิกที่ชวนให้นึกไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยก่อนหรือชวนนึกย้อนไปถึงความทรงจำในวัยเด็กของใครหลายคน สำหรับใครชอบทานของหวานแบบเย็น ๆ แนะนำเป็น เฉาก๊วยโบราณสูตรอาม่า (40 บาท) ด้วยความเหนียวนุ่มของเนื้อเฉาก๊วย โรยด้วยน้ำตาลอ้อยที่มาเพิ่มความหวานหอม ทำให้ขนมโบราณหวานเย็นถ้วยนี้ครองใจใครต่อใครได้ไม่ยาก
หรือจะเป็น วุ้นมะพร้าวน้ำหอมสูตรอาม่า (20 บาท) วุ้นมะพร้าวที่ผสมเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป เสิร์ฟมาในกระทงเล็ก ๆ อิ่มกำลังดี ตามมาด้วยของว่างทานเล่นอย่าง ปั้นขลิบ (35 บาท) ที่ให้รสชาติหวานเค็มแบบไทย ๆ เคี้ยวเล่นเพลิน ๆ ระหว่างรับลมริมน้ำ
ก่อนจะเปลี่ยนบรรยากาศมาลองทานขนมฝรั่งบ้างอย่าง คุกกี้ช็อกโกแลต (25 บาท) ซอฟต์คุกกี้รสช็อกโกแลตเข้มข้น ที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มและรสหวานกำลังดี และปิดท้ายด้วยเมนูที่ให้ความสดชื่น น้ำเก็กฮวยสูตรอาม่า (30 บาท) มาจิบให้เข้ากับบรรยากาศ แก้วนี้ให้กลิ่นหอมของเก็กฮวยแท้ มีรสหวานอ่อน ๆ ดื่มแล้วเพิ่มความสดชื่นผ่อนคลายได้ดีระหว่างวัน
บ้านอากงอาม่า
ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3
เปิดเปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น.
โทร. 0-2437-5183
www.facebook.com/mygpshouse