ชวนเวิร์คช็อปเรียนรู้เทคนิคการชงชา สัมผัสมนต์เสน่ห์วัฒนธรรมการกินที่น่าค้นหาของชาวไต้หวัน

Published on June 08, 2022

ส่งต่ออีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ที่คนรักชาไม่ควรพลาด! กับ ‘Taiwanese Tea Workshop’ เวิร์คช็อปเรียนรู้เทคนิคการชงชาที่จัดขึ้นโดย สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ (Taiwan Tourism Bureau Thailand) ร่วมกับ GW Tea House ร้านชาคุณภาพสูตรต้นตำรับจากไต้หวันแท้ ๆ เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่คนไทย ซึ่งครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2565 ที่ร้าน GW Tea House ซอยศาลาแดง ภายใต้หัวข้อ ‘Taiwanese Shake Tea Workshop’ กับการเรียนรู้จุดเริ่มต้นของ Shake Tea ประเภทต่าง ๆ พร้อมเข้าร่วม Tea Tasting และลอง Shake ชาด้วยตนเอง โดย Tea Master ชาวไต้หวัน ที่จะมาถ่ายทอดเทคนิคการชงชาที่ถูกต้องตามแบบต้นตำรับ อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเวิร์คช็อปทุกคนได้ลิ้มลองอาหารไต้หวันรสดั้งเดิม และร่วมเดินทางท่องเที่ยวไต้หวันในเมืองเจียอี้ แบบ One Day Trip ผ่านการไลฟ์สดโดย คุณแบงค์ จาก เพจ Brogasis ที่เรียกได้ว่าเป็นการเวิร์คช็อปแบบเต็มอรรถรส ให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์วัฒนธรรมชาไต้หวันไปพร้อมกับเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวไต้หวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

Taiwanese Shake Tea Workshop กิจกรรมเวิร์คช็อปที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้เทคนิคการชงชา Shake Tea ไต้หวัน

เรียนรู้จุดเริ่มต้นของ Shake Tea


สำหรับกิจกรรมเวิร์คช็อป 'Taiwanese Shake Tea Workshop’ ในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ภาคทฤษฎี เริ่มต้นทำความรู้จักกับ Shake Tea ว่าชาประเภทนี้มีความพิเศษอย่างไร และเหตุใดถึงเรียกว่า Shake Tea

โดย Shake Tea นั้น คือชาที่มีการนำชามาผสมกับวัตถุดิบหรือส่วนประกอบหลายชนิด ซึ่งผู้ชงชาจะใช้มือในการเชคเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันอย่างลงตัว หากมีการเชคในท่าที่ถูกต้องก็จะทำให้ชามีฟองและได้รสชาติที่ดี มีกลิ่นหอมของชา ถ้าใครได้ลองศึกษาถึงประวัติความเป็นมาของ Shake Tea ก็จะทราบว่าชาประเภทนี้ได้ถือกำเนิดมาก่อนจะมีชานมไข่มุกเสียอีก โดยชานมไข่มุกที่นิยมดื่มกันในปัจจุบันนั้นเป็นหนึ่งในเมนูของชาเชคนั่นเอง

 

บรรยากาศการเวิร์คช็อปขั้นตอนการเชคชาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

หลังจากทำความรู้จักกับ Shake Tea กันไปเป็นที่เรียบร้อย ผู้ร่วมเวิร์คช็อปยังจะได้เรียนรู้ถึงที่มาของ Shake Tea อีกด้วย จากการถ่ายทอดเรื่องราว 2 เรื่องเล่าของการเกิดชาเชค โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1949 ที่เมืองไถหนาน และอีกเรื่องเล่าในปี 1980 ที่เมืองไถจง ซึ่งสมัยก่อนมีการค้าขายใบชากันเป็นจำนวนมาก และนำไปทำเพียงชาร้อน ต่อมาเมื่อชาร้อนไม่เป็นที่นิยมนัก จึงได้มีการคิดค้นทำชาเย็นโดยนำไปผสมกับน้ำเชื่อม ก่อนจะกลายมาเป็นชาเชค ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเวลาต่อมา

เพลิดเพลินไปกับเรื่องราววิวัฒนาการของ Shake Tea


เมื่อ Shake Tea เริ่มแพร่หลายมากขึ้น บ้างก็เริ่มทยอยเปิดเป็นร้านชาเชคให้พบเห็นโดยทั่วไปตามท้องถนน บ้างก็เริ่มมีการจำหน่ายชาเชคภายในร้านอาหาร คาเฟ่ ซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่ชาแดงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชานมไข่มุกที่นับเป็นอีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ของชาเชคเลยก็ว่าได้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาดื่มชาเชคนั้น จะมีทั้งนักเรียนและคนวัยทำงาน จากตรงนี้จะสังเกตได้ว่าจากร้านชาเล็ก ๆ เพียงหนึ่งร้าน ก็เริ่มขยับขยายเป็นหลายสาขา หรือเป็นแฟรนไชนส์มากขึ้น

 

ทำความรู้จักกับชนิดของชาที่ใช้สำหรับทำ Shake Tea แบบเจาะลึก

ทำความรู้จักกับประเภทของ Shake Tea


หากย้อนเวลาไปในสมัยก่อน ยุคแรกเริ่มของ Shake Tea จะเริ่มต้นด้วยชาใสผสมน้ำเชื่อม แล้วนำไปเชค ซึ่งชาที่นำมาชงนั้นมีหลากหลายชนิด อาทิ ชาดำหรือชาแดง ชาอู่หลง ชาเขียวมะลิหลายสายพันธุ์ ต่อมาได้การพัฒนาส่วนผสมต่าง ๆ และปรับประยุกต์เรื่อยมาเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมในปัจจุบัน อย่างชานมไข่มุก ซึ่งมีต้นกำเนิดจากร้านชา 2 ร้าน คือ ร้านชาชุนฉ่วยถัง ในปี 1983 ที่เมืองไถจง และ ร้านชาฮั่นหลิน ในปี 1987 ที่เมืองไถหนาน

 

เรียนรู้จุดเริ่มต้นของ Shake Tea ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ กลิ่นอายสไตล์คาเฟ่ไต้หวันที่ร้าน GW Tea House

‘ชานมไข่มุก’ มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘Pearl Milk Tea’ และ ‘Tapioca Ball Tea’ ซึ่งภายหลังได้มีร้านชาเฉาม่ง นำไปเม็ดไข่มุกไปปรับขนาดให้มีเม็ดใหญ่ขึ้น พร้อมเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่า ‘Boba Milk Tea’ ปัจจุบันร้านชาเชคต่าง ๆ ได้มีการลดขนาดชาเชคลงสำหรับการให้บริการรูปแบบ Take away เพื่อเพิ่มการขายให้มากขึ้น เกิดเป็นร้านชาเชค Take Away ชื่อดังมากมายทั่วไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็น 50, ต้าย้วนจึ (DaYung’s), มากุ (MACU), ชิงซิน, MilkShop, Wanpo Tea Shop และ CoCo เป็นต้น

เวิร์คช็อปแบบครบเครื่องทุกเรื่องชาไต้หวัน


หลังจากเรียนรู้ทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับความเป็นมาและประเภทของ Shake Tea เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้ทดลอง Shake Tea Tasting โดยกิจกรรมนี้ทาง Tea Master ชาวไต้หวัน จะเป็นผู้สาธิตวิธีการดูใบชา ซึ่งโดยปกติแล้วในไต้หวัน ใบชาที่นำมาต้มทำชาเชคจะไม่มีการใช้ชาผงมาผสม แต่จะนำใบชาไปผัดให้มีความเข้มและได้รสเฝื่อน เพื่อที่เวลานำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ จะยังคงกลิ่นหอมของชาไว้ได้ดีเช่นเดิม

 

ทำความรู้จักกับชาหลากหลายประเภท

ใบชาที่ทางร้าน GW Tea นำมาให้เรียนรู้กันนั้นมีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ ชา Gingwan หรือชาดำ (ผสมชาดำ 2-3 สายพันธุ์ จึงให้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีจำหน่ายที่ร้านเท่านั้น), ชา Jasmine Green Tea หรือชาเขียวมะลิ (มีความพิเศษอยู่ที่รสชาติเฝื่อน), ชาอู่หลง Nhai Chiang (ให้สีชาที่มีโทนสีใส มีฟองนุ่ม ๆ ดื่มง่าย นิยมนำมาทำเป็นชาผลไม้) และ ชาอู่หลง Tie Guan Yin (ให้สีชาที่ออกโทนสีน้ำตาลเข้ม) โดยเวลาเทสต์กลิ่นชา ตัว Shake Tea จะมีกลิ่นที่ค่อนข้างแรง จึงนิยมนำไปทำเป็นชานม

เมื่อเรียนรู้เรื่องใบชาเสร็จเรียบร้อย ทาง Tea Master จะทำการทดสอบ ผ่านหนึ่งกิจกรรมสนุก ๆ ที่ใช้ชื่อว่า ‘Tea Tasting Quiz’ ซึ่งเป็นการนำชาเชคทั้ง 4 ชนิดมาให้ผู้ร่วมเวิร์คช็อปได้ชิมและลองทายว่าเป็นชาชนิดใด แล้วเพิ่มความพิเศษด้วยชาที่ผสมใหม่และทายต่อว่าเป็นชาชนิดใดบ้างที่นำมาผสมกัน แน่นอนว่าผู้ที่ทายถูกจะได้รับรางวัลสนับสนุนจากการท่องเที่ยวไต้หวันที่นำมามอบให้ผู้โชคดีที่ตอบคำถามถูกต้องโดยเฉพาะ

Shake Tea ภาคปฏิบัติ


ในส่วนของภาคปฏิบัติที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมเวิร์คช็อปได้ลองเชคชาด้วยตนเอง ทางร้านจะเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์และส่วนผสมต่าง ๆ ในการทำ Shake Tea โดยจะมีให้เลือก 1 เมนูเครื่องดื่ม จากทั้งหมด 5 เมนูที่ทางร้านได้เซ็ตเตรียมเอาไว้ให้ โดยระหว่างที่ทำการเชค ทาง Tea Master และ Tea Supervisor ชาวไต้หวัน จะเป็นผู้สอนเชคตัวต่อตัว แบบลงรายละเอียดทุกขั้นตอนการตักส่วนผสมและขั้นตอนการเชคเลยทีเดียว

 

หนึ่งในขั้นตอนการมิกซ์ส่วนผสมของ Shake Tea ชาผลไม้

 

เทชาลงไปในกระบอกน้ำ ปิดฝาให้สนิท เพื่อเตรียมเชคชาในลำดับต่อไป

สำหรับตัวอย่างการเชคชาครั้งนี้ จะเป็นการทำ Shake Tea ชาผลไม้ของชาวไต้หวัน ซึ่งจะไม่นิยมใส่น้ำเชื่อม โดยจะใช้ส่วนผสมของน้ำผลไม้และเนื้อผลไม้แท้ 100% ประกอบด้วยเนื้อสับปะรดที่นำมาเคี่ยวในสไตล์โฮมเมด ตามด้วยเนื้อเสาวรสที่นำมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน และชาใส ซึ่งชาที่นำมาใช้ชงจะเป็น ชาอู่หลง Nhai Chiang ซึ่งให้กลิ่นหอมของชาแบบกำลังดี ผสานเข้ากับน้ำส้ม จากนั้นเทลงไปในน้ำแข็งแล้วทำการเชคตามกระบวนท่าเชคที่ถูกต้องจนเกิดเป็นฟองชานุ่ม ๆ ด้านบน พร้อมเสิร์ฟใส่ในแก้วและตกแต่งแก้วด้วยเปลือกส้มเป็นอันเสร็จเรียบร้อย Shake Tea แก้วนี้ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น ได้กลิ่นหอมของชาอู่หลงอย่างเป็นเอกลักษณ์

 

Tea Master ติวเข้มสอนเชคชาแบบตัวต่อตัว

 

ชาผลไม้ที่เชคเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกเทลงไปในแก้วพร้อมเสิร์ฟ

 

ขั้นตอนการตกแต่งแก้ว เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ลิ้มลองอาหารไต้หวันรสดั้งเดิม


นอกจากการได้ลองเชคชาและลิ้มรสชาติของ Shake Tea ตำรับไต้หวันแล้ว การเวิร์คช็อปครั้งนี้ผู้ร่วมกิจกรรมยังจะได้ลองทานอาหาร Comfort Food รสดั้งเดิมของไต้หวันควบคู่กันไปอีกด้วย เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว วัฒนธรรมการกินของชาวไต้หวันจะนิยมทาน Shake Tea ไปพร้อมกับอาหารทานเล่น อย่างเมนู ‘หรูโล่วฟ่าน’ และ ‘หรูเว่ย’ โดยหรูโล่วฟ่าน ที่ทางภาษาไต้หวันเรียกว่า ‘โลบ้าเบิง’ นั้น เป็นเมนูอาหารทานง่ายที่ผู้คนสมัยสมัยก่อนนิยมทำทานกันในครอบครัว เป็นการนำเอาหนังหมูมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมกับใส่ต้นหอม กระเทียม แล้วนำไปต้มในซีอิ๊วหม้อใหญ่ สามารถนำไปประยุกต์การทานได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทานแบบราดข้าว หรือราดบนเส้นก๋วยเตี๋ยว

ส่วนหรูเว่ย ก็เป็นหนึ่งในเมนูอาหาร Comfort Food ยอดนิยมของชาวไต้หวันที่มีลักษณะคล้ายกับเมนูพะโล้อีกเช่นกัน แต่ความพิเศษของเมนูนี้ คือมีให้เลือกทานทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน คือ แบบร้อน ทานแบบซดน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนำไปลวกทานกับผักและเส้นก๋วยเตี๋ยว และ แบบเย็น เป็นการทานแบบแห้ง ๆ โดยจะมีส่วนผสมเป็นเครื่องใน (กึ๋น) เต้าหู้ และถั่วแระญี่ปุ่น ซึ่งบางครั้งก็จะเสิร์ฟให้ทานกับท็อปปิ้งหรือของแกล้มอื่น ๆ เป็น 2 เมนูซิกเนเจอร์หรือเมนูยอดนิยมของชาวไต้หวันที่เมื่อไปถึงประเทศไต้หวันแล้วจะต้องหาโอกาสไปลองชิมให้ได้สักครั้ง

 

ดื่ม Shake Tea ชาผลไม้ พร้อมลิ้มลองอาหาร Comfort Food รสดั้งเดิมของไต้หวัน

สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านไลฟ์สดจากไต้หวัน


ปิดท้ายกันที่กิจกรรมไลฟ์สดที่ทุกคนจะได้พบกับ ‘คุณแบงค์’ จากเพจ Brogasis ซึ่งจะพาผู้ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปไปท่องเที่ยวไต้หวัน 1 วันในเจียอี้ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางบินลัดฟ้าไปชมไร่ชา พิพิธภัณฑ์ และศาลเจ้าภายในเมืองเจียอี้ด้วยตัวเอง

 

สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวไต้หวันให้มากขึ้น ผ่านการศึกษารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ จากทางสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ (Taiwan Tourism Bureau Thailand)

 

เรียนรู้วัฒนธรรมการกินของชาวไต้หวันแบบเจาะลึก

 

ท่องเที่ยวผ่านไลฟ์สด ชมบรรยากาศไร่ชาที่ไต้หวัน (Photo by สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ)

ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวไต้หวันแบบครบรสกับกิจกรรมเวิร์คช็อป ‘Taiwanese Shake Tea Workshop’ บ้างแล้วละก็ สำรองที่นั่งล่วงหน้ากันได้แล้ววันนี้ผ่านทาง Inbox ของเพจ Facebook ของ สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ หรือเพจ Facebook ของร้าน GW Tea House

 

บรรยากาศภายในร้าน GW Tea House

 

ร้าน GW Tea House

โดยจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบละ 5 ท่าน (ราคาท่านละ 990 บาท) ได้แก่ รอบเช้า เวลา 10.00-12.00 น. และรอบเที่ยง เวลา 12.30-14.30 น. ในวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2565 ที่ร้าน GW Tea House ซอยศาลาแดง ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/itstimefortaiwanth และ www.facebook.com/gwteahouse