เติมความสดชื่นระหว่างวัน ด้วยสารพัดเมนูดับร้อนแบบไทย ๆ

Published on April 24, 2021

BKK. ชวนเหล่านักชิมสายอาหารไทย มาดับร้อนผ่อนกระหายทุกฤดูกาล ด้วยหลากหลายเมนูคาว-หวาน และเครื่องดื่มสุดสดชื่นสไตล์ไทย ที่จะช่วยสร้างความสดชื่น คลายร้อนให้กับทุกคนได้ดีในระหว่างวัน ส่วนจะเป็นเมนูไหนและร้านใดบ้าง เตรียมเซฟลิสต์ร้านต่อไปนี้เอาไว้กันได้เลย

จากประกาศกรุงเทพมหานคร ลิสต์ร้านต่าง ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยสามารถตรวจสอบวันเวลาเปิด-ปิด เพิ่มเติมได้จากทางร้านโดยตรง ผู้ใช้บริการอย่าลืมให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19

1

ส้มฉุน

FULL REVIEW
 

ส้มฉุน (120 บาท)

ส้มฉุน เครื่องว่างหน้าร้อนที่ปรากฏอยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในบทพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือล้นเกล้ารัชกาลที่ 2 โดยคำว่า ‘ส้มฉุน’ นี้ เป็นคำที่ใช้เรียกลิ้นจี่แบบปอกเปลือกและคว้านเมล็ด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ขาดไม่ได้ในการทำเมนูนี้

FULL REVIEW
 

ทับขวัญ รีสอร์ท

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน ทับขวัญ ห้องอาหารไทยตำรับชาววัง ซึ่งตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทเรือนไทยหมู่ ใจกลางอำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารไทยแท้ ท่ามกลางบรรยากาศแบบไทย ๆ

โดยความพิเศษของเมนู ส้มฉุน (120 บาท) ของทางทับขวัญนั้น อยู่ที่การคัดเลือกวัตถุดิบผลไม้ชนิดต่าง ๆ ตามฤดูกาลที่มีรสอมเปรี้ยวอมหวาน เช่น มะยงชิด ส้ม มะม่วงซอย ลำไย สละ โดยอาศัยความประณีตในการปอกเปลือก คว้านเมล็ด ก่อนจะนำไปปรุงรสกับน้ำลอยแก้วที่มีส่วนผสมของน้ำส้มซ่า ขิงซอย โรยหน้าด้วยหอมเจียว เวลาทานให้ใส่น้ำแข็งลงไปด้วย รับรองว่าอร่อยชื่นใจ

สามารถสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood, LINE MAN หรือ Robinhood

ทับขวัญ รีสอร์ท
ถนนนนทบุรี 1 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 10.30-17.00 น. (โซนห้องอาหาร)
โทร. 0-2969-1200
www.facebook.com/Dhabkwan

 

ม้าฮ่อ (100 บาท)

ม้าฮ่อ อาหารว่างไทยโบราณที่ใช้ผลไม้รสเปรี้ยวจัด เช่น สับปะรด ส้มเขียวหวาน ส้มโอ ส้มเช้ง ปอกเปลือกแบ่งเป็นชิ้น แล้วทับด้วยเครื่องคล้ายข้าวเกรียบปากหม้อหรือไส้สาคูไส้หมู เพียงแต่จะไม่ใส่หัวผักกาดแห้งหรือไชโป๊ว แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าซอยหรือผักชี

FULL REVIEW
 

ต้นเครื่อง

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน ต้นเครื่อง ร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยมายาวนาน เพราะได้สูตรอาหารมาจากรุ่นคุณทวดของเจ้าของร้านที่พัฒนาสูตรมาจากการศึกษาตำราต่าง ๆ ในวัง และความพิเศษของเมนู ม้าฮ่อ (100 บาท) ของทางร้านต้นเครื่องก็คือ การเสิร์ฟแบบชิ้นพอดีคำที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องวัตถุดิบที่มีส่วนผสมของถั่วลิสงคั่วบด หอมแดงซอย กระเทียม และซีอิ๊วดำ ให้รสหวานนำ พร้อมแต่งจานด้วยผักชีได้อย่างสวยงามน่าทาน


สามารถสั่งเดลิเวอรีผ่านทางโทร. 0-2185-3072-308-1449-1926 และแอปพลิเคชัน GrabFood หรือ LINE MAN


ต้นเครื่อง
ซอยสุขุมวิท 49/13 ถนนสุขุมวิท
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น.
โทร. 0-2185-3072-3, 08-1449-1926
www.facebook.com/Thonkrueng

3

มะยงชิดลอยแก้ว

FULL REVIEW
 

มะยงชิดลอยแก้ว (250 บาท)

เมนูลอยแก้ว เป็นการนำเอาผลไม้ตามฤดูกาลที่มีรสเปรี้ยวอมหวานมาเสิร์ฟใส่น้ำเชื่อมแล้วโปะด้วยน้ำแข็งไส สำหรับไว้ทานดับร้อนปิดท้ายระหว่างมื้ออาหาร

FULL REVIEW
 

The Raweekanlaya Dining

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน The Raweekanlaya Dining ห้องอาหารไทยสไตล์ฟิวชันซึ่งตั้งอยู่ภายใน The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort บูทีครีสอร์ทสุดคลาสสิกใจกลางกรุงฯ ย่านพระนคร พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารไทยดั้งเดิมและอาหารยุโรปที่ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนความพิเศษของเมนู มะยงชิดลอยแก้ว (250 บาท) ของร้านนี้อยู่ที่การนำเอาผลมะยงชิดสด ๆ ระดับความสุกกำลังพอดีทานไปคว้านเนื้อ แล้วนำมาเสิร์ฟพร้อมกับน้ำเชื่อมที่มีกลิ่นหอมของน้ำลอยดอกมะลิ โปะด้วยน้ำแข็งไสเย็น ๆ ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วชื่นใจ

สามารถสั่งเดลิเวอรีผ่านทางโทร. 0-2628-5999 และแอปพลิเคชัน LINE MAN

The Raweekanlaya Dining
The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. (โซนห้องอาหาร)
โทร. 0-2628-5999
www.facebook.com/RaweekanlayaHotel

4

ปลาแห้งแตงโม

FULL REVIEW
 

ปลาแห้งแตงโม (150 บาท)

ปลาแห้งแตงโม เมนูของว่างที่คนโบราณนิยมทานในช่วงฤดูร้อน ช่วยดับร้อน ทำให้สดชื่น ด้วยน้ำอันชุ่มฉ่ำจากแตงโม เข้ากันกับรสชาติเค็มนิด ๆ ของปลาแห้ง เป็นของว่างที่หาทานยากในยุคสมัยนี้

FULL REVIEW
 

Baannai

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน Baannai ร้านอาหารไทยที่ตั้งอยู่ภายในบูทีคโฮเทลสไตล์โคโลเนียลแห่งย่านสามเสน ท่ามกลางบรรยากาศเก่า ๆ ของบ้านโบราณหลังสีขาวสุดคลาสสิก ส่วนความพิเศษของเมนู ปลาแห้งแตงโม (150 บาท) ในแบบฉบับของ Baannai ก็คือความสดฉ่ำของของแตงโมที่โรยหน้าด้วยปลาแห้งและหอมเจียว เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นระหว่างมื้ออาหารท่ามกลางสภาพอากาศร้อน ๆ ของเมืองไทยได้เป็นอย่างดี

สามารถสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood หรือ LINE MAN (ค่าจัดส่งคิดตามระยะทาง และต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน)

Baannai the Reminiscence
13/102 ถนนกำแพงเพชร 5 เขตพญาไท
เปิดทุกวัน เวลา 11.30-17.00 น. (โซนร้านอาหาร)
โทร. 09-8262-2486
www.facebook.com/Baannaithereminiscence

5

ข้าวแช่

FULL REVIEW
 

เซ็ตข้าวแช่ตำรับชาววัง (690 บาท)

ข้าวแช่ เมนูดับร้อนตำรับไทยโบราณที่คนไทยสมัยก่อนนิยมทานกันในช่วงฤดูร้อน โดยความอร่อยของสำรับของว่างสไตล์ไทยที่ว่านี้จะอยู่ตรงที่ข้าวหอมมะลิซึ่งหุงออกมาแบบเรียงเม็ดสวย พร้อมเสิร์ฟในน้ำลอยดอกมะลิเย็น ๆ ทานคู่กันกับเครื่องเคียงรสเค็มหวานต่าง ๆ 

FULL REVIEW
 

Nara Thai Cuisine

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน Nara Thai Cuisine ร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในรสชาติอาหาร เพื่อให้เข้าถึงรสชาติอาหารไทยที่ทั้งกลมกล่อม ละเมียดละไม จากสูตรที่ส่งต่อแบบรุ่นสู่รุ่น และความพิเศษของเซ็ตเมนู ข้าวแช่ตำรับชาววัง (690 บาท) ของทางร้านนั้นอยู่ที่การคัดสรรข้าวหอมมะลิจากจังหวัดนครสวรรค์ มีกลิ่นหอมละมุนจากใบเตยนำมาลอยดอกมะลิแทรกด้วยน้ำแข็งช่วยเพิ่มความสดชื่น เสิร์ฟมาพร้อมกันกับเครื่องเคียง 12 อย่าง ได้แก่ พริกหยวกสอดไส้, หัวหอมยัดไส้ทอด, ลูกกะปิปั้นทอด, ไชโป๊วเส้นผัดหวาน, ปลายี่สนผัดหวาน, หมูหวานฝอย, ไข่เค็มมุกมณี, ไชโป๊วแผ่นหน้าหมู, หนังปลากรอบไข่เค็ม, กุ้งหวานไชยา, พริกแห้งบางช้างทอดสอดไส้ปลาช่อน ทานพร้อมกับผักสดแกะสลักเพื่อตัดรสชาติให้มีความกลมกล่อม

สามารถสั่งกลับมาทานที่บ้านผ่านบริการ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน GrabFood หรือ LINE MAN

Nara Thai Cuisine
ทุกสาขา เปิดทุกวัน เวลา 10.30-21.00 น.
www.facebook.com/narathaicuisine

6

แสร้งว่า

FULL REVIEW
 

แสร้งว่า ปลาดุกฟู (380 บาท)

แสร้งว่า อาหารชาววังประเภทยำหรือเครื่องจิ้ม โดยมีหน้าตาคล้ายกับพล่ากุ้ง แต่มักใช้กุ้งที่ย่างหรือลวกจนสุก ส่วนน้ำยำมักมีกลิ่นหอมของมะกรูดและตะไคร้นำ บางสูตรสามารถใส่น้ำเคยกุ้งหรือกะปิเพิ่มความหอมได้ จานนี้มักเสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงอย่างปลาดุกฟู

FULL REVIEW
 

Praya Dining

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน Praya Dining ห้องอาหารไทยที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Praya Palazzo พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้เหล่านักชิมทั้งหลายได้ลิ้มรสชาติอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน โดยทางร้านเลือกเสิร์ฟเมนู แสร้งว่า ปลาดุกฟู (380 บาท) ที่เลือกใช้กุ้งเผาหั่นพอดีคำ คลุกเคล้ามากับน้ำยำรสแซ่บที่ให้กลิ่นหอมจากส้มเสี้ยวและสมุนไพรไทย เสิร์ฟพร้อมกับผักสดและปลาดุกฟู

สามารถสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE Official @prayapalazzo

Praya Dining
โรงแรม Praya Palazzo
เปิดทุกวัน เวลา 11.30-21.00 น. (โซนห้องอาหาร)
โทร. 08-1402-8118
www.facebook.com/prayapalazzo

7

ข้าวเหนียวมะม่วง

FULL REVIEW
 

ข้าวเหนียวมะม่วง (120 บาท)

ข้าวเหนียวมะม่วง เมนูขนมหวานแบบไทย ๆ ที่คาดกันว่าเริ่มต้นทานกันตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายต่อเนื่องมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งถูกกล่าวในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน และในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ได้มีการกล่าวถึงการทานมะม่วงสุกคู่กับข้าวเหนียวมูน กลายเป็นคู่ความอร่อยที่อยู่คู่คนไทยมาจนถึงยุคปัจจุบัน ทานดับร้อนได้ดีFULL REVIEW
 

Tr.EAT by Saneh Jaan

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน Tr.EAT by Saneh Jaan ร้านอาหารไทยโบราณบรรยากาศสบาย ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูอาหารไทยโบราณรสต้นตำรับ ส่วนความพิเศษของ ข้าวเหนียวมะม่วง (120 บาท) ในแบบฉบับของทางร้านอยู่ที่การเลือกใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ ที่เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมูนนุ่ม ๆ ราดตามด้วยน้ำกะทิสดหอม ๆ

สามารถสั่งกลับมาทานที่บ้านผ่านบริการ Take Away 

Tr.EAT by Saneh Jaan 
ชั้น 2, Sindhorn Midtown Hotel Bangkok
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และเวลา 17.00-21.00 น.
โทร. 0-2796-8888
www.facebook.com/sindhornmidtownhotelbangkok

8

ขนมสี่ถ้วย

FULL REVIEW
 

ขนมสี่ถ้วย (65 บาท)

ขนมสี่ถ้วย ขนมมงคลสี่อย่างที่สืบทอดมาจากพิธีแต่งงานของคนไทยโบราณ ประกอบด้วย ไข่กบหรือเม็ดแมงลักน้ำกะทิ, นกปล่อยหรือลอดช่องน้ำกะทิ, มะลิลอยหรือข้าวตอกน้ำกะทิ และอ้ายตื้อหรือข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ เป็นการทานแบบรวมมิตร โดยเริ่มจากหยิบข้าวเหนียวดำลงใส่ถ้วยตามด้วยลอดช่อง เม็ดแมงลัก แล้วราดด้วยน้ำกะทิผสมน้ำตาลโตนด พร้อมโรยด้วยข้าวตอกนุ่ม ๆ ให้กลิ่นหอมของน้ำตาลโตนด หวานเย็นชื่นใจ 

FULL REVIEW
 

เฬอรส

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองทานกันที่ร้าน เฬอรส ร้านอาหารไทยสไตล์ Comfort Food ที่รวบรวมอาหารไทยดั้งเดิม เมนูอาหารไทยในความทรงจำ ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับแรงบันดาลใจและสูตรประจำของครอบครัวชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากรุ่นสู่รุ่น นำมาถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น ส่วนเมนู ขนมสี่ถ้วย (65 บาท) ของที่นี่ ก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยตามแบบต้นตำรับ โดยเป็นการรวมขนมสี่อย่างในถ้วยเดียวกัน ประกอบด้วย เม็ดแมงลัก, ข้าวเหนียวดำ, ลอดช่อง และข้าวตอก เคียงคู่มากับน้ำกะทิที่ให้รสหวาน-เค็มกำลังดี

สามารถสั่งกลับมาทานที่บ้านผ่านบริการ Take Away และสั่งเดลิเวอรีผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE MAN

เฬอรส
ชั้น 2, The Crystal Veranda (Crystal Park)
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.30 น.
โทร. 0-2021-3558
www.facebook.com/LeroseTH

 

ชาไทย (80 บาท)

ชาไทย เครื่องดื่มชาผสมนมสีส้มสุดคลาสสิกของไทย ที่คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย เมื่อครั้งได้มีการติดต่อค้าขายเครื่องเทศระหว่างประเทศกัน โดยในสมัยนั้นเรียกกันว่า ‘Tea Latte’ หรือชาใส่นม ซึ่งปีพ.ศ.2436 ไทยเริ่มวางขายนมข้นหวานตราแหม่มทูนหัว ทำให้การดื่มชาใส่นมมีเพิ่มขึ้น ต่อมาปี พ.ศ. 2446 มีการจัดตั้งโรงน้ำแข็งเป็นแห่งแรก ทำให้น้ำแข็งเข้าไปเพิ่มความเย็นสดชื่นให้กับหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม จนกระทั่งช่วงปลายรัชกาลที่ 6 เริ่มมีร้านกาแฟโบราณเพิ่มขึ้นในพระนคร จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด ‘Thai Tea’ หรือชาไทยที่มีกลิ่นหอมและสีส้มสวยอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งหาดื่มได้ในประเทศไทยเท่านั้น

FULL REVIEW
 

SAMANTAO Heritage Coffee

สำหรับเมนูนี้ แนะนำให้ตามไปลองดื่มกันที่ร้าน SAMANTAO Heritage Coffee ร้านกาแฟโบราณแห่งเดียวบนย่านเพลินจิต ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้านปาร์คนายเลิศ เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยกาแฟ ชา ขนมปังปิ้ง ขนมปังนึ่ง และอาหารเช้าสไตล์ไทยโบราณที่เชื่อว่าคนไทยทั้งคนยุคก่อนและคนรุ่นใหม่ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วนเครื่องดื่ม ชาไทย (80 บาท) ของทางร้าน ความพิเศษจะอยู่ที่การเลือกใช้ชาหอมสูตรโบราณที่ชงอย่างพิถีพิถัน ให้รสหวานมันกลมกล่อมแบบลงตัว

สามารถสั่งกลับมาดื่มที่บ้านผ่านบริการ Take Away 

SAMANTAO Heritage Coffee
บ้านปาร์คนายเลิศ ซอยสมคิด
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.
โทร. 0-2253-0123 ต่อ 127 หรือ 09-7140-5176
www.facebook.com/SamantaoHeritageCoffee