เติมเต็มความสุขของการใช้ชีวิตอีกขั้นในย่านสุขุมวิท ด้วยพื้นที่แห่งการพักผ่อนใจกลางเมืองที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน สะท้อนคุณภาพชีวิตที่เหนือระดับกับ Quarter 31 โครงการ Luxury Urban Residences ภายใต้ Quarter Collection บ้านหรูแนวใหม่ใจกลางสุขุมวิทโดย นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) ที่จะมาเปลี่ยนนิยามการใช้ชีวิตใจกลางเมืองให้ได้สัมผัสถึงความเหนือระดับของการอยู่อาศัยใน Exclusive Community ท่ามกลางบรรยากาศสงบเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ และยังได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ครบครันทั้ง กิน ดื่ม เที่ยว ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างลงตัว
สำหรับชีวิตดี ๆ ที่พร้อมต้อนรับทุกครอบครัวให้ได้เข้ามาสัมผัส ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท 31 ย่านที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Super Prime Area ของกรุงเทพฯ เป็นทำเลในฝันที่หลายคนอยากครอบครอง ด้วยราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS, ศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส, โรงพยาบาลชั้นนำ และสถานศึกษาที่มีคุณภาพ โดยใจกลางย่านสุขุมวิท 31 เป็นที่ตั้งของโครงการ Quarter 31 ที่อยู่อาศัยแนวคิดใหม่ที่สามารถอยู่อาศัยร่วมกันได้ทุก Generations ด้วยการออกแบบทุกฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว คาดว่าทุกคนคงอยากรู้แล้วว่าไลฟ์สไตล์ที่ว่านี้เป็นอย่างไร BKK. จึงขอพาทุกคนมาสำรวจสิ่งที่น่าสนใจในย่านสุขุมวิท 31 ไปพร้อม ๆ กัน
Cafe & Afternoon Tea
สุขุมวิท 31 อีกหนึ่งย่านที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของสถานที่กิน เที่ยว ช้อป พร้อมอำนวยความสะดวกให้คนเมืองได้ใช้ช่วงเวลาระหว่างวันหรือเติมเต็มวันพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ว่าแล้วก็เริ่มต้นวันดี ๆ ด้วยการ Hopping คาเฟ่สุดชิคกันที่ Unbirthday Cafe แล้วแวะจิบชาร้อน ๆ กันที่ Siam Tea Room ให้รู้สึกผ่อนคลายกันดีกว่า
เริ่มต้นเช้าที่สดใสด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษและหลากหลายเมนูเค้กน่าทานที่ Unbirthday Café คาเฟ่สุดน่ารักที่ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 31 บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ อีกทั้งยังมีวิวสวย ๆ ของสระว่ายน้ำด้านหน้าร้านอีกด้วย ด้านในคาเฟ่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ภายใต้หลังคากระจกใสที่ได้ลักษณะโครงสร้างสไตล์ Glasshouse มีแสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านเข้ามาสร้างมู้ดแอนด์โทนสบาย ๆ สอดรับกับผนังห้องที่เลือกใช้โทนสีขาวสะอาดตา พร้อมด้วยโซนนั่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้เเห้งและข้าวของเครื่องใช้สไตล์วินเทจ
FULL REVIEWที่นี่เสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มน่ารักและเบเกอรี่โฮมเมดจาก Dandelion Bake Studio ที่พร้อมครีเอทเมนูใหม่ ๆ มาให้ทุกคนได้ทานเค้กชิ้นพิเศษทุกวัน แม้วันนั้น ๆ จะไม่ใช่วันเกิดของคุณก็ตาม หากมาถึงที่ร้านแล้วอย่าลืมรีชาร์จความสดชื่นก่อนด้วย Yuzu Orange Tea (120 บาท) น้ำส้มคั้นสด 100% จากส้มหลายชนิดตามฤดูกาล รวมถึงส้มยูซุที่นำเข้าจากเกาหลี มาชงเข้ากับชาซีลอนจนได้รสชาติหวานนำเปรี้ยวตาม ดื่มแล้วชื่นใจแน่นอน
ตามด้วยเมนูเบเกอรี่อย่าง Black Forest Mouse Cake (165 บาท) เค้กที่ให้รสชาติเบอร์รีแบบเต็มคำ ทั้งเค้กสปันจ์ เค้กช็อกโกแลตสุดนุ่มที่นำไปแช่ด้วยเหล้าเชอร์รีจนได้รสหอมหวานเป็นเนื้อเค้กเลเยอร์ชั้นล่างสุด ตามด้วยมาสคาโปนชีสผสมเหล้าเชอร์รี และซอสเบอร์รีที่ทางร้านเคี่ยวเอง ก่อนท็อปด้านบนด้วยมูสดาร์กช็อกโกแลตและผลไม้สดที่นำมาตกแต่งอย่างสวยงาม
จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยเมนูสุดน่ารักกับ Lemon Sherbet (175 บาท) เลมอนที่ทางร้านนำมาคั้นและปั่นเองแบบสไตล์โฮมเมด ซึ่งตัว Lemon Sherbet ที่ได้จะถูกเสิร์ฟลงในเปลือกเลมอน ทานคู่กับเมอแรงก์ครีมนุ่มรสหวานที่ท็อปมาด้านบนเพื่อตัดรสเปรี้ยวได้อย่างเข้ากัน
Unbirthday Café
ซอยสุขุมวิท 31
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
โทร. 08-5145-3181
www.facebook.com/Unbirthday-Cafe-330900554234072
ถ่ายรูปเช็คอินสวย ๆ ในยามเช้ากันไปแล้ว บอกลาอากาศร้อน ๆ ในช่วงเที่ยงด้วยการพาตัวเองไปจิบชา Afternoon Tea และทานขนมกันต่อที่ Siam Tea Room ที่จะมาช่วยเติมความสดชื่นให้ทุกคนได้ตลอดทั้งวัน
FULL REVIEWSiam Tea Room คือห้องอาหารของโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park โรงแรมหรูขนาดใหญ่ที่สุดในย่านสุขุมวิท ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายแพทเทิร์นแบบไทย ผนังสไตล์ยุ้งฉาง ไปจนถึงชุดแต่งกายพนักงานที่มีกลิ่นอายของชุดม่อฮ่อมสีอินดิโก้
เมื่อเข้าไปในร้านจะพบกับโซนเบเกอรี่ที่มีขนมอบสดใหม่วางเรียงรายให้ได้เลือกชิม รวมถึงลูกอมแบบไทย ๆ ในขวดโหล ช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของผลไม้และเครื่องเทศของไทย รวมถึงชาและกาแฟเบลนด์พิเศษที่หาซื้อได้จากโรงแรมแห่งนี้เท่านั้น ส่วนใครที่ชอบทานขนมหวาน แนะนำ กล้วยหอมทอดกับไอศกรีมชาไทย (210 บาท) กล้วยหอมชุบแป้งที่ผสมมะพร้าวและงา นำไปทอดจนกรอบ กับไอศกรีมชาไทยโฮมเมด โรยผงมะพร้าวแทนไอซิ่ง เป็นเมนูของหวานที่มีทั้งร้อนและเย็นเข้ากันได้ดี
Siam Tea Room
ซอยสุขุมวิท 22
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-23.00 น.
โทร. 0-2059-5999
www.facebook.com/bangkokmarriottmarquis
Shop & Restaurant
นอกจากคาเฟ่น่ารัก ๆ ที่ให้ทุกคนได้แวะไปเช็คอินเพื่อแชะรูปสวย ๆ จิบเครื่องดื่มและทานขนมแสนอร่อยแล้ว ย่านสุขุมวิท 31 แห่งนี้ ยังคงมีร้านไลฟ์สไตล์ช็อปชิค ๆ เอาใจสายช้อปโดยเฉพาะอีกด้วย กับ Rosemanclub แฟลกชิปสโตร์ ที่จะเปลี่ยนลุคใหม่ของคุณให้ดูดีมีสไตล์ ก่อนจะแวะไปเต็มพลังให้อิ่มท้องอีกครั้งกับการทานอาหารมื้อพิเศษ บรรยากาศดี ๆ ณ นิมิตร (Nimitr) ร้านอาหารบรรยากาศหรูที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูสุดพิเศษคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลองกันแบบเต็มอิ่ม
ตามที่เกริ่นไว้ เราใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับการเดินเลือกไอเท็มสุดเก๋ เท่ไม่ซ้ำใครให้ตัวเอง หรือจะเลือกเป็นของขวัญให้คนพิเศษก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ที่ Rosemanclub แฟลกชิปสโตร์ จากแบรนด์แว่นตาสัญชาติไทยที่ก่อตั้งมานานกว่า 5 ปี โดย คุณแน๊ต-ภัศนันท์ ธราจรัสพัฒน์ และ คุณปอย-ปิยะวรรณ เอื้อบุญสิริ ที่เริ่มต้นทำแบรนด์แว่นตาเป็นของตัวเองด้วยความตั้งใจที่อยากจะเปลี่ยนความคิดให้แว่นสายตาเป็นสิ่งที่ไม่เชย ซึ่งนอกจากจะให้ความสำคัญกับเรื่องของดีไซน์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ในส่วนของการเลือกวัสดุและกระบวนการผลิตแว่นตาแต่ละชิ้นนั้นก็มีความละเอียดมากไม่แพ้กัน
FULL REVIEWRosemanclub ตั้งอยู่ที่บริเวณซอยสุขุมวิท 31 สะดุดตาด้วยตัวอาคารโครงสร้างปูนเปลือยขนาดใหญ่ที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยสีเขียว เมื่อเข้ามาด้านในแล้วแนะนำให้ค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดทางลาดมายังด้านบนชั้น 2 ของตึก ซึ่งด้านในจะถูกตกแต่งตามสไตล์และคาแร็กเตอร์ของร้าน ที่มีกลิ่นอายของความ Vintage Antique อยู่แทบทุกซอกทุกมุม
โดยความพิเศษของที่นี่คือแว่นตาของ Rosemanclub แต่ละคอลเลกชัน ล้วนถูกออกแบบจากสิ่งที่ชอบ ซึ่งไอเดียส่วนใหญ่ก็จะมาจากการที่ได้เดินทางท่องเที่ยวและดูหนัง โปรดักส์แต่ละชิ้นจะเลือกใช้วัสดุที่ดีจากญี่ปุ่นและอิตาลี แล้วส่งต่อให้โรงงานที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายผลิตทั้งหมด สำหรับรุ่นคลาสสิกขายดีในตอนนี้ต้องยกให้ HARU (4,500 บาท) ที่มีให้เลือก 3 สีหลัก ๆ ได้แก่ SUNSET, OCEAN และ CAMO
Rosemanclub
ซอยสุขุมวิท 31
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น.
โทร. 08-1444-2642
www.facebook.com/rosemanclub
เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังช้อปปิ้งกันมาเหนื่อย ๆ ก็ได้เวลาแวะเติมพลังกันสักนิดที่ นิมิตร (Nimitr) ร้านอาหารสไตล์เอเชีย หนึ่งเดียวที่ตั้งอยู่บนชั้น 27 ของโรงแรมสุดหรูสัญชาติไทยอย่าง 137 Pillars Suites & Residences Bangkok เกิดจากความตั้งใจและต้องการนำเสนอประสบการณ์การทานอาหารแบบ Fine Dining ในบรรยากาศสุดพิเศษ พร้อมใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การตกแต่งร้าน ที่ได้ทีม Interior Designer ชาวเบลเยียมมาออกแบบให้ ใช้โทนสีน้ำเงิน ซึ่งสื่อถึงความฝันได้เป็นอย่างดี แต่ละมุมของร้านประกอบไปด้วยลวดลายที่แฝงสไตล์ความเป็นเอเซียเข้าไปอย่างลงตัว เมื่อประกอบกับวิวตึกสูงของกรุงเทพฯ ด้วยแล้ว ยิ่งเสริมบรรยากาศของร้านให้ดูหรูหรา น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงการครีเอทเมนูอาหารแต่ละจานให้แก่ผู้ที่เข้ามาทานอาหารที่นี่
FULL REVIEWสำหรับอาหารของที่นี่ ได้ เชฟ Nanang Prasetya Aditama เชฟหนุ่มชาวอินเดียมากฝีมือที่มาร่วมครีเอทเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน โดยนำเสนอสไตล์ที่เรียกว่า Cutting Edge Oriental Gastronomy เป็นเทคนิคการปรุงอาหารใหม่ที่มาผสมผสานเข้าไว้กับอาหารสไตล์เอเซีย ผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก เพื่อให้ได้อาหารคุณภาพดีที่สุด เช่นจานหลักอย่าง Cantonese Duck (550 บาท) เนื้ออกเป็ดซูวีนุ่ม ๆ ทานคู่กับทาร์ตเห็ดอบร้อน พร้อมซอสสวีทเบซิลและซอสเสฉวนเข้มข้น แล้วท็อปด้วยฟองลิ้นจี่ ทานพร้อมกันได้รสชาติแบบพอดี
ส่วนเมนูของหวาน ต้องเมนู Sweet Dream Quartet (390 บาท) เค้กช็อกโกแลตบราวนี่เนื้อแน่นรสไม่หวานมาก เสิร์ฟพร้อมมาการองรสขนุนมะลิ และไอศกรีมวานิลลา ท็อปด้วยเบอร์รีสด เป็นการปิดท้ายมื้อพิเศษที่ยอดเยี่ยม
Nimitr
ชั้น 27 โรงแรม 137 Pillars Suites & Residences Bangkok ซอยสุขุมวิท 39
เปิดทุกวัน เวลา 12.00-15.00 น. และ 18.00-22.00 น.
โทร. 0-2079-7000
www.137pillarsbangkok.com/en/dining/nimitr
www.facebook.com/NimitrBKK
Bar
ช่วงเย็นอย่าลืมไปแฮงเอาต์แบบชิลล์ ๆ กันต่อที่ ABar บาร์บรรยากาศดีใจกลางย่านพร้อมพงษ์ ซึ่งถือเป็นร้านยอดนิยมของคนในย่านนี้ เพราะนอกจากวิวสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังดูแลโดยมิกโซโลจิสต์ (Mixologist) ที่มากประสบการณ์และเคยร่วมงานกับบาร์ชั้นนำมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากร้านอาหารสุดหรูแล้ว ในละแวกดังกล่าวนี้ยังมี ABar เลาจน์สุดคลาสสิกในคอนเซ็ปต์ของ Sherlock Holmes และ ABar Rooftop ค็อกเทลบาร์บนดาดฟ้า บรรยากาศสบาย ๆ และอบอุ่น สามารถมองเห็นวิวขอบฟ้าของตัวเมืองกรุงเทพฯ ได้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในร้านพาทุกคนย้อนเวลาไปสู่ยุคอดีต ด้วยการตกแต่งที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม รับกับเก้าอี้หนังแบบวินเทจ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความลึกลับและความมหัศจรรย์ของ Victorian London ซึ่งเข้ากับสไตล์อเมริกันยุค 1930s
สำหรับค็อกเทลที่ ABar โดดเด่นด้วย Dark Spirits ซึ่งรวมไปถึงวิสกี้ชื่อดังจากทั่วโลกอย่าง Rum และ Cognac พร้อมตัวเลือกอื่น ๆ อย่างค็อกเทลวินเทจ คราฟต์สปิริต และมิกซ์ต้นตำรับ โดย Dark Spirit Cocktails ของ ABar จะมีรสสัมผัสที่เข้ม ดุดัน เข้ากับลุคเท่ ๆ ของผู้ชาย แบ่งเป็น Libation และ Connoisseur สำหรับใครที่ไม่ชอบรสชาติกลาง ๆ ไม่เข้มมาก ลองเป็น Study in Stone (415 บาท) Nusa Cana Rum, Dr Sherry, Citrus Oleo Sachrum และ Fresh Lemon
ส่วนใครที่อยากดื่มด่ำกับวิวสวย ๆ ต้องขึ้นไปที่ชั้น 38 ในโซนของ ABar Rooftop บาร์สไตล์โอเพ่นแอร์และรูฟท็อปบาร์บรรยากาศสบาย ๆ ที่สามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกของสวนเบญจสิริ พร้อมตึกสูงต่าง ๆ ได้แบบพาโนรามา
ABar Rooftop ได้รวม Gin ที่มีมากถึง 55 ชนิด นำไปใช้เป็นส่วนผสมหลักของค็อกเทลซิกเนเจอร์มากมาย นอกจากทุกแก้วจะมีส่วนผสมของ Gin แล้ว ยังสามารถเลือกครีเอทค็อกเทลแก้วของตัวเองได้อีกด้วย ถ้าชอบค็อกเทลสีสวยหวาน ลองสั่ง Bitter Sweet Time (385 บาท) ดอกมะลิ Infused กับ Beefeater Gin ตามด้วย Lemon Syrup, Chardonnay, Fresh Lime Juice และ Soda Splash มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เป็นการฉลองส่งท้ายวันดี ๆ ด้วยเครื่องดื่มแก้วโปรดได้อย่างน่าประทับใจ
ABar
ชั้น 37-38 Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park ซอยสุขุมวิท 22
เปิดทุกวัน เวลา 17.00-01.00 น. และ 18.00-22.00 น.
โทร. 0-2059-5999
www.bangkokmarriottmarquisqueenspark.com/dining
www.instagram.com/abar_abarrooftop
The Luxury Urban Residences in The Heart of Sukhumvit 31
หลีกหนีความวุ่นวายของย่านใจกลางเมือง แล้วผ่อนคลายไปกับบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติและสัมผัสความเป็นส่วนตัวแบบ Exclusive Community ที่โครงการควอเตอร์ 31 (Quarter 31) บ้านหรูนิยามใหม่ใจกลางสุขุมวิทที่สะท้อนคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเหนือระดับ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมภายนอกสไตล์ Modern Contemporary และฟังก์ชั่นภายในซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุก Generations ในครอบครัวอย่างแท้จริง
โครงการ ควอเตอร์ 31 (Quarter 31) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท 31 ที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำสามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตได้ในทุกด้าน ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ซึ่งมีแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ชั้นนำ อาทิ Emporium, EmQuartier, ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำอย่างโรงพยาบาลสมิติเวช ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีถึง นอกจากนี้ ยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชื่อดังมากมาย ทำเลนี้จึงเป็นเหมือนกับจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวเข้าไว้ด้วยกัน
ด้านงานดีไซน์โครงการออกแบบโดยผสมผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน สะท้อนรสนิยมที่เหนือกาลเวลา โดยได้ทีมดีไซน์คุณภาพถึง 3 ทีม มาช่วยกันสร้างสรรค์โครงการ ได้แก่ ทีม makeAscene บริษัทนักออกแบบสถาปัตยกรรม, ทีม SHMA บริษัทที่ดูแลด้าน Landscape หรือการออกแบบภูมิทัศน์โดยรวม และทีม PIA บริษัท Interior Design หรือการออกแบบและตกแต่งภายใน โดยโครงการออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางมีความหรูหราเหมือนรีสอร์ทระดับ 5 ดาว รวมถึงออกแบบบ้านให้มีที่จอดรถส่วนตัวใต้ดินจำนวน 4 คันทุกหลัง เพื่อให้มีพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มมากขึ้น ส่วนการออกแบบภายในของบ้านแต่ละหลัง จะเน้นรับแสงธรรมชาติให้มีความโล่ง โปร่ง สบาย พร้อมด้วยห้องนั่งเล่นที่ดีไซน์เป็น Double Volume พร้อมกระจกบานใหญ่ ให้ผู้อาศัยสามารถชื่นชมธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดจากภายในบ้าน
เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะพบกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ ประกอบไปด้วย สวนร่มรื่นขนาดใหญ่และสระว่ายขนาด 20 เมตร ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทันทีจากห้องนั่งเล่นของบ้าน นอกจากนี้ ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ภายในโครงการมีบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 425 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.1 เมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถชั้นใต้ดิน มาพร้อมห้องครัวแบบ Private ซึ่งถูกดีไซน์ให้อยู่ทางด้านหลังของตัวบ้าน และ Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 431 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.6 เมตร ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถชั้นใต้ดิน มาพร้อมห้องครัวที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น แบบ Party Area ทั้งนี้พื้นที่ของห้องนั่งเล่นบริเวณชั้น 1 ยังเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่แสงธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวของส่วนกลาง เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติ สบายตา แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น
ในส่วนของวัสดุภายในบ้านนั้น ทางโครงการได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีด้วยเกรดระดับพรีเมียมที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยและการใช้งานของผู้พักอาศัยได้อย่างดี ได้แก่ ชุดครัวแบรนด์ระดับโลกจาก พ็อกเกนโพล (Poggenpohl) เครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ ซีเมนส์ (Siemens) รวมไปถึงลิฟต์ส่วนตัวภายในบ้านที่ใช้คุณภาพระดับเดียวกับอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม
โครงการควอเตอร์ 31 (Quarter 31) นับว่าเป็นบ้านนิยามใหม่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่า Generations ไหนก็ร่วมแชร์ความสุขความอบอุ่นกันได้ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้ดี ทั้งพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้าน
หากใครกำลังมองหาบ้านหรูแนวใหม่ใจกลางสุขุมวิทที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัว โครงการควอเตอร์ 31 (Quarter 31) นับว่าเป็นโครงการที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ด้วยความสะดวกสบายของทำเลและรูปแบบโครงการที่ตอบโจทย์เรื่องความสงบเป็นธรรมชาติแต่ก็ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทุกความต้องการ เป็นโอกาสสำคัญที่คุณควรมีไว้ในครอบครอง โดยตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการพร้อมรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://nyeestate.com/project/quarter-31