Modern Thai Recipe
ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย ทยอยเปิดใหม่ให้ได้ตามไปลิ้มลองความอร่อย แต่ก็มีเพียงไม่กี่ร้านที่ทั้งทีมงานและเจ้าของร้าน ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ รักษามาตรฐานความอร่อยไว้ได้อย่างดีเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง หนึ่งในนั้นคือร้าน 80/20 (Eighty Twenty) ที่ได้มีการรีโนเวทใหม่ โดย เชฟโจ - ณพล จันทรเกตุ และเชฟซากิ โฮชิโนะ ภรรยาสาวชาวญี่ปุ่น สองเชฟใหญ่มากประสบการณ์ ซึ่งเคยทำงานด้านอาหารอยู่ที่ประเทศแคนาดามานานนับสิบปี ได้ช่วยกันออกแบบเมนูสไตล์ Modern Thai Recipe ที่ทวิสต์ความเป็นไทยลงไปในทุก ๆ จานที่เสิร์ฟ เพื่อสร้างสีสันใหม่ให้ย่านเมืองเก่าอย่าง 'ถนนเจริญกรุง' อีกครั้งชื่อร้าน 80/20 มาจากคอนเซ็ปต์การเลือกใช้วัตถุดิบของไทยในการปรุงอาหาร 80% และของต่างประเทศอีก 20% และไม่เพียงแต่เรื่องของอาหารเท่านั้น ในส่วนของการตกแต่งร้านนั้นก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของ Element หรือเลือกใช้วัสดุไทย ๆ เช่นเดิม โดยเฉพาะวัสดุไทยที่หลายคนคุ้นเคยและพบได้ในย่านเจริญกรุง ก่อนจะนำมาตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์แบบประยุกต์ เช่น เหล็กดัด ช่องลมที่นำมาทำเป็นโครงสร้างบาร์, ป้ายหน้าร้านที่เลือกใช้ฟอนต์สไตล์ไทย ๆ หรือแม้แต่ลวดลายไทยที่ปรากฏบนภาพวาดจิตรกรรม ก็ดูทันสมัยเข้ากับตัวร้านและตึกรามบ้านช่องละแวกนี้ได้เป็นอย่างดี
อีกฝั่งหนึ่งของร้านจะเป็นโซนครัวเปิดที่มีพื้นที่กว้างขวางและมี Station Bar ให้นั่งชิลล์เอาต์ตามอัธยาศัย สามารถนั่งดูเชฟทำอาหารได้อย่างเพลิดเพลิน หรือบางวันอาจจะแวะมาเช็คเมนูประจำวันบนกระดานก่อนเลือกสั่งมาทานก็ย่อมได้ และหากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าทางร้านได้มีการจัดวางชั้นต่าง ๆ ด้วยวัตถุดิบอาหาร เช่น พริกดอง ผักดอง น้ำผึ้งดอง ไข่เค็ม แยมกระเจี๊ยบ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถูกบรรจุอยู่ภายในกระป๋องใส ตั้งโชว์เรียงรายให้เห็นอย่างโดดเด่น เสมือนเป็นกิมมิกอีกหนึ่งอย่างที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ โดยเป็นวัตถุดิบและสินค้าชนิดแรก ๆ ที่ทางร้านทำขึ้นมา ในขณะที่เมืองไทยยังไม่มีใครหยิบเอาวัตถุดิบไทย ๆ มาทำเป็นเครื่องเคียงแบบฝรั่ง อีกทั้งยังนำมาบรรจุลงในกระป๋อง วางจำหน่ายอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
Twist and Twists
ทางร้านตั้งใจนำเสนอวัตถุดิบของไทยมากกว่า 95% พร้อมด้วย Process วิธีการทำที่ละเมียดละไมมากขึ้นในสไตล์ Modern Thai Recipe ที่ทวิสต์ความเป็นไทยแบบ 80/20 ลงไปในทุก ๆ จานที่เสิร์ฟ โดยครีเอทคอร์สดินเนอร์ 11 เมนู (ราคา 3,000++ บาท/คน) ให้ทานคู่กับ Wine Pairing 5 แก้ว (เพิ่ม 1,400++ บาท) หรือ Wine Pairing 7 แก้ว (เพิ่ม 1,800++ บาท)
ส่วนใหญ่แล้วทางร้านจะเลือกใช้วัตถุดิบของไทยที่คุ้นเคย เช่น ปลาแม่น้ำ หมูย่าง ใบชะคราม ฯลฯ ซึ่งสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายแบบ โดยเมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วแต่วัตถุดิบที่มีในแต่ละวัน เริ่มที่เมนูเรียกน้ำย่อยในคอร์สอย่าง หอยนางรมย่างใบชะคราม เสิร์ฟคู่กับหอยแครงดองที่เพิ่ม Black Garlicให้มีรสชาติกลมกล่อม แล้วท็อปบนด้วยมันแกวที่นำไปหมักแบบคอมบูฉะเพื่อดึงรสชาติของมันแกวให้ออกมามากขึ้น
ปลาแม่น้ำรมควัน เชฟเลือกใช้ปลาคัง ปลาบู่ หรือปลาแม่น้ำตามฤดูกาลมารมควัน ผสมผสานกับซอสที่ได้จากการนำครีมกะทิสดไปหมักเป็นโยเกิร์ต ก่อนนำไปคาลาเมลไรซ์ในกระทะจนกลายเป็นสีน้ำตาล จากนั้นจึงใส่ Coconut Syrup เพื่อเพิ่มความหอมและความกลมกล่อมยามที่ทานคู่กับก้านคะน้าย่าง แล้วนำไปดองทานพร้อมปลารมควัน จานนี้ตกแต่งด้วยใบคะน้าที่จัดเรียงอย่างสวยงามในลักษณะของเกล็ดปลา เมื่อทานเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงเนื้อแน่นละเอียดของปลาแม่น้ำและกลิ่นรมควันอ่อน ๆ
ถัดจากเมนูปลา มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูแนะนำอย่าง หมูย่างเมืองตรัง หมูย่างเมืองตรังแบบฉบับ 80/20 นี้ เชฟเลือกใช้เนื้อหมูคุณภาพ ราดด้วยซอสน้ำผึ้งที่นำไปดองกับกระเทียม ก่อนนำไปย่างเพื่อลดความหวานลง แล้วเสิร์ฟคู่มากับบะจ่าง ซอสพริก และเหล้าสาโทที่เชฟโจทำเอง ให้หอมกลิ่นของหมูย่างและรสชาติ After Tasted ของน้ำผึ้งดองที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
ในส่วนของขนมหวาน ได้แรงบันดาลใจมาจาก ฟักทองสังขยา ที่เชฟนำฟักทองส่วนหนึ่งไปย่าง และนำอีกส่วนหนึ่งไปและคอมเพรสเข้ากับน้ำมันฟักทองและคอมบูฉะจนได้ออกมาเป็นฟรุ๊ตเจล จากนั้นท็อปด้านบนด้วยเปลือกช็อกโกแลตที่ทำออกมาในลักษณะของคุกกี้คาราเมลกรอบหวานมัน เป็นหนึ่งในเมนูที่ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น หวานมันแบบไทย ๆ
Must Read!
- สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ www.facebook.com/8020bkk หรือโทร. 099-118-2200 หากไม่ทานวัตถุดิบหรือแพ้อาหารชนิดใด สามารถแจ้งกับทางร้านได้