Published on April 21, 2022

First Purely Tea Cocktail Bar in Thonglor

ชวนปักหมุดสุดชิลล์เอาต์เคล้าบรรยากาศโฮมมี่ ๆ ที่ After TE Time บาร์ค็อกเทลแห่งย่านทองหล่อ ซึ่งมีการครีเอตเครื่องดื่มซิกเนเจอร์เป็นค็อกเทลแก้วพิเศษที่นำไปอินฟิวส์เข้ากับชาออร์แกนิกเบลนด์คุณภาพ หลากหลายกลิ่นหลากหลายรสชาติของร้าน TE Time and Space จนได้รสสัมผัสของเครื่องดื่มที่ลงตัวในแบบที่ไม่เหมือนใคร

 

After TE Time

สำหรับใครที่เป็นนักดื่มชาหรือ Tea Lovers ตัวจริงของ TE Time and Space แล้วละก็ คงพอจะทราบกันดีว่าทางร้านนั้นได้มีการคัดสรรชาออร์แกนิกคุณภาพที่ผ่านการเบลนด์ส่วนผสมเองมากมายหลายชนิดจนได้กลิ่นและรสชาติของชาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งล้วนเป็นที่ชื่นชอบของคนที่ดื่มชาอย่างมาก ภายหลังจากเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ช่วงเวลาแห่งการจิบชาจึงได้ขยับขยายมาเป็นช่วงเวลาแห่งการจิบค็อกเทลร่วมด้วย เพื่อต่อยอดไอเดียใหม่ ประยุกต์ศาสตร์ของชาให้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้นโดยการนำเอาส่วนผสมของชาเบลนด์ไปเป็นส่วนหนึ่งของค็อกเทล

 

การครีเอตเมนูค็อกเทลจากการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอินฟิวส์เข้ากับชาออร์แกนิกเบลนด์ของ TE Time & Space

From TE Time To After TE Time

จุดเริ่มต้นของการเปิดบาร์แห่งนี้ เกิดจากความชอบ ความสนใจ และประสบการณ์การไป Bar Hopping ยังที่ต่าง ๆ ของ ‘คุณปอ-ภาพพจน์ รัตนกุล’ เจ้าของร้านและบาร์เทนเดอร์หนุ่มมากฝีมือ ซึ่งเขาเองนั้นมีศักดิ์เป็นน้องชายของ ‘คุณปลา-นันธิดา รัตนกุล’ เจ้าของร้านและทีมาสเตอร์ของ TE Time & Space

 

โซนเคาน์เตอร์บาร์ที่พร้อมโชว์สกิลฝีไม้ลายมือการชงค็อกเทลของคุณปอ

การไป Bar Hopping แต่ละครั้งของคุณปอ เขาสังเกตว่าการครีเอตเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ นั้น มีความน่าสนใจ ดูเป็นศาสตร์ที่น่าสนุกดีไม่น้อยจึงหาโอกาสไปลงเรียนเป็นคอร์สเพิ่มเติม ก่อนจะตัดสินใจปรับพื้นที่ร้าน TE Time & Space ซึ่งในช่วงกลางวันเปิดให้บริการในรูปแบบของ Tea Bar อยู่แล้ว มาเป็นเคาน์เตอร์บาร์ค็อกเทลในช่วงกลางคืน โดยได้มีการครีเอตเมนูค็อกเทลจากการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอินฟิวส์เข้ากับชาออร์แกนิกเบลนด์ของ TE Time & Space และได้รสชาติที่หลากหลายจากการคิดค้นสูตร ส่วนผสมต่าง ๆ เป็นการสานต่อเรื่องราวภาคต่อของร้าน TE Time & Space จากร้านชาสู่ร้านบาร์ พร้อมกับเลือกใช้คำว่า ‘After TE Time’ เพื่อสอดแทรกกิมมิกเล็ก ๆ ที่ว่าด้วยเรื่องของเวลา สื่อความหมายว่าคือ ‘ร้านที่เปิดให้บริการหลังเวลาชา’ ซึ่งเป็นชื่อของบาร์แห่งนี้นั่นเอง

 

บรรยากาศสบาย ๆ ภายในบาร์

Chilling Time with Homey Vibes

ด้วยความที่เปิดเป็น Tea Bar มาก่อน บรรยากาศภายในร้านจึงเต็มไปด้วยฟีลอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยยังคงเค้าโครงของโซนเคาน์เตอร์ Tea Bar ไว้ ก่อนจะปรับมู้ดให้เป็นฟีลค็อกเทลบาร์มากขึ้นด้วยการจัดแสงไฟสลัว ๆ ซึ่งฉากหลังของเคาน์เตอร์บาร์และบริเวณโดยรอบของบาร์ยังคงโดดเด่นด้วยโหลชาชนิดต่าง ๆ และขวดแอลกอฮอลล์ตั้งเรียงรายพร้อมนำมาใช้ชงเป็นเครื่องดื่มแก้วพิเศษ พร้อมด้วยชั้นลอยที่มีโต๊ะไม้ให้นั่งสำหรับใครที่อยากเน้นความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ว่าจะเลือกนั่งมุมไหนทุกคนสามารถร่วมพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์เกี่ยวกับเครื่องดื่มที่เสิร์ฟกันได้แบบชิลล์ ๆ

 

มุมชิลล์เอาต์แบบเป็นส่วนตัว

 

หลากหลายผลิตภัณฑ์ชาออร์แกนิกเบลนด์สูตรเฉพาะของ TE Time & Space ที่ถูกนำมาโชว์ไว้และวางจำหน่ายภายในร้าน

คอนเซ็ปต์การตกแต่งบาร์จะเป็นในลักษณะของ Homey Bar ซึ่งในอนาคตทางบาร์อาจมีการจัดกิจกรรม Movie Night ในทุก ๆ คืนวันพฤหัสบดี เพื่อให้เหล่านักดื่มทั้งหลายได้จิบค็อกเทลไปพร้อมกับซึมซับบรรยากาศสบาย ๆ ภายในบาร์
 

เบื้องหลังการครีเอตค็อกเทลซิกเนเจอร์แต่ละแก้ว

Based on TE Signature Tea & Herbal Infusion with A Twist of Tipsy Touch

การครีเอตเครื่องดื่มส่วนใหญ่ของ After TE Time จะเน้นดื่มง่าย ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการนำเอาส่วนผสมหลักของชามาใช้ในการชงค็อกเทล โดยเวลาเสิร์ฟ จะเสิร์ฟในลักษณะของค็อกเทลที่มาพร้อมกับชาถ้วยเล็ก ๆ หรือแก้วเล็ก ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนผสมของค็อกเทลแก้วนั้น ๆ ด้วย เพื่อให้คนดื่มรู้รสชาติของชาและรู้ว่าเป็นชาตัวไหนบ้างที่เบลนด์อยู่ในค็อกเทล (เวลาดื่ม สามารถเลือกได้เลยว่าจะดื่มค็อกเทลหรือชาก่อน แต่ส่วนมากจะนิยมให้จิบค็อกเทลก่อน แล้วค่อยดื่มชาตามลงไปเพื่อลดความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในค็อกเทล แต่ไม่แนะนำให้เทผสมรวมกัน เพราะจะทำให้เสียรสชาติ)

 

ลิสต์เมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ต่าง ๆ ของทางบาร์

เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางบาร์มีทั้งหมด 6 เมนูด้วยกัน โดยมี 5 เมนูเป็นค็อกเทลที่มีส่วนผสมของชา และ 1 เมนูที่เป็นค็อกเทลแบบคลาสสิก ประเดิมกันที่เมนูแรกกับ Midsummer Gimlet (280 บาท) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของชา ‘Midsummer Dream’ ซึ่งถูกเบลนด์ด้วยส่วนผสมของกุหลาบ หญ้าหวาน กระเจี๊ยบ (ตัวชาจะให้รสหวานอย่างเป็นธรรมชาติ) ก่อนจะนำมาผสมเข้ากับเหล้าจินที่มีกลิ่นหอมหวานของ Juniper Berry และไซรัป แก้วนี้จะให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มง่าย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นดื่มค็อกเทล

 

Midsummer Gimlet (280 บาท)

ตามด้วยเมนูสุดเฟรชสมชื่ออย่าง Hae! Chodchaii (แฮ่! ฉดใฉ) (280 บาท) ค็อกเทลที่ครีเอตขึ้นมาเพื่อสื่อถึงความสดชื่น สำหรับแก้วนี้ทางร้านเลือกใช้เหล้ารัมของไทยแบรนด์ ‘ฉลองเบย์’ เป็นเบสส่วนผสมหลัก ผสานเข้ากับชาเบลนด์ที่ให้กลิ่นและรสชาติของสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นขิง มินต์ ชาเขียว ใบหม่อน ซึ่งในขั้นตอนชงเครื่องดื่มจะมีการเติมผงขิงลงไป ตามด้วยโรสแมรี่ จนได้กลิ่นหอมและรสชาติของสมุนไพรนานาชนิดแบบเต็ม ๆ

 

การเผาโรสแมรี่แล้วครอบแก้ว เพื่อรมควันให้ค็อกเทลมีกลิ่นหอมอโรมาของโรสแมรี่

พร้อมเสิร์ฟในแก้ว On The Rock ก่อนเสิร์ฟจะมีการเผาโรสแมรี่แล้วครอบแก้ว เพื่อรมควันให้ค็อกเทลมีกลิ่นหอมอโรมาของโรสแมรี่ สำหรับเครื่องดื่มแก้วนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับชาที่ชื่อว่า 'Spice Potion’ ซึ่งใช้ส่วนผสมในแบบเดียวกัน

 

Hae! Chodchaii (แฮ่! ฉดใฉ) (280 บาท)

ส่วนใครที่อยากดื่มด่ำค็อกเทลรสชาตินุ่มลึก ต้องเมนู Chamomile Silverfizz (ไอ้ไข่) (280 บาท) เหตุที่ใช้ชื่อว่า ‘ไอ้ไข่’ นั่นก็เพราะว่ามีส่วนผสมของไข่ขาวด้วย ซึ่งเวลาที่ไข่ขาวนั้นถูกเชคไปกับเหล้าจินจะให้ฟองโฟมนวลเนียนและรสชาติที่นุ่มละมุน 

 

ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของไข่ขาวจะให้ฟองโฟมนวลเนียนและรสชาติที่นุ่มละมุน

ส่วนชาที่เลือกนำมาเป็นส่วนผสมมีชื่อว่า 'Silence Lullaby’ หรือชาคาโมมายล์ ซึ่งชาเบลนด์สูตรนี้มีส่วนประกอบของดอกไม้หอมและสมุนไพรนานาชนิด อาทิ ดอกคาโมมายล์ ดอกเก๊กฮวย น้ำขิง ชะเอม เป็นต้น ค็อกเทลแก้วนี้จึงเป็นอีกหนึ่งแก้วที่ดื่มง่าย เพราะให้รสหวานนวลนุ่มละมุน

 

Chamomile Silverfizz (ไอ้ไข่) (280 บาท)

หรือจะเป็น Butterfly Peri (320 บาท) ค็อกเทลสีม่วงสวยหวานที่โดดเด่นด้วยส่วนผสมของชาเบลนด์ที่ชื่อว่า ‘Tropical Wonderland’ ซึ่งเป็นชาเบลนด์ที่ไม่มีคาเฟอีน (Herbal Infusion) หรือชาสมุนไพรที่มีส่วนผสมหลักคือดอกอัญชัน มะพร้าว และหญ้าหวาน

 

ค็อกเทลสีม่วงสวยหวานด้วยส่วนผสมของชาเบลนด์ที่สกัดจากดอกอัญชัน

สำหรับค็อกเทลแก้วนี้จะมีส่วนผสมของไข่ขาวร่วมด้วย ผสานเข้ากับไซรัป Elderflower ที่ให้กลิ่นหอมหวานละมุนของดอกไม้

 

Butterfly Peri (320 บาท)

หากเป็นนักดื่มสายแข็งต้องยกให้แก้วนี้ E120 (320 บาท) ค็อกเทลที่มาพร้อมรสสัมผัสที่ค่อนข้างเข้มขม เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นและสมุนไพรหลากหลายชนิด ก่อนจะปิดท้ายกันที่ Hot Gin Toddy (250 บาท) ค็อกเทลที่เสิร์ฟมาแบบอุ่น ๆ ความพิเศษของแก้วนี้ก็คือการนำเอาเหล้าจินมาอินฟิวส์กับชาเบลนด์ที่ชื่อว่า ‘Golden Sunrise’ ซึ่งมีส่วนผสมของสตรอเบอร์รี ผิวส้ม และมะม่วง ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติแนวฟรุ๊ตตี้ ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นชุ่มคอเหมือนเวลาดื่มน้ำผึ้งมะนาวอุ่น ๆ (แนะนำให้เป็นค็อกเทลสำหรับดื่มปิดท้าย เพราะความอุ่นของค็อกเทลแก้วนี้จะช่วยเจือจางความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ และเติมความสดชื่นหลังดื่มได้ในคราวเดียวกัน)

 

Hot Gin Toddy (250 บาท)

หากมีโอกาสแวะมาที่ After TE Time นอกจากจะได้จิบค็อกเทลแก้วโปรดแล้ว ยังสามารถสั่งอาหารสไตล์ Home Cooking ภายในร้าน TE Time & Space เช่น ข้าวหมูอบ, ข้าวสตูว์, ข้าวแกงกะหรี่หมู, ข้าวมัสมั่นไก่, ข้าวหน้าไก่ ฯลฯ มาทานรองท้องก่อนดื่มค็อกเทลได้อีกด้วย 
Info
Hours
Open : 6:30PM - 11:30PM
Fri : 6:30PM - 11:30PM
Sat : 6:30PM - 11:30PM
Sun : Closed
Mon : Closed
Tue : Closed
Wed : Closed
Thu : 6:30PM - 11:30PM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
TE Time and Space, 50/5 ซอยทองหล่อ 25 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS ทองหล่อ

Facilities
Suggest an Edit