Published on September 28, 2022

Progressive & Borderless Culinary Experience

หากพูดถึง ‘Fine Dining’ หลายคนอาจจะนึกถึงร้านอาหารบรรยากาศหรูหราที่มาพร้อมการบริการแบบเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว แต่ Alésia Yu คือร้านอาหาร Fine Dining ของเชฟตี่ ที่พร้อมต้อนรับให้คุณมาเปิดประสบการณ์ความอร่อยของรสชาติอาหารระดับพรีเมียม แต่อบอวลไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยมาพร้อมคอนเซ็ปต์การนำเสนอเมนูอาหารที่ไม่ได้บ่งบอกถึงสัญชาติ แต่เป็นการผสมผสานความเป็นตัวตนของเชฟออกมาได้อย่างน่าสนใจ นำมาสู่ชื่อร้าน ‘Alésia Yu’ ที่มาจาก ‘Alésia’ ชื่อถนนของกรุงปารีสที่เชฟได้ไปเรียนทำขนม มาผสมผสานกับ ‘Yu’ แซ่หรือนามสกุลของเชฟนั่นเอง

 

ร้านอาหาร Fine Dining ในบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง

 

มุมที่นั่งบรรยากาศผ่อนคลาย สบาย ๆ

Industrial Meets Art Deco

ในส่วนของบรรยากาศร้านถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความผ่อนคลาย สบาย ๆ โดยตกแต่งมาได้อย่างงดงาม นับตั้งแต่ทางเข้าก็ให้กลิ่นอายความเป็นยุโรปได้เป็นอย่างดี ทันทีที่เข้ามาก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอบอุ่นด้วยการเปิดรับแสงด้วยกระจกใส ผสมผสานกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจอย่าง ‘ตู้เครื่องเสียง’ พร้อมเสริมความเป็น Industrial ด้วยเหล็กและปูนเปลือย แต่ในขณะเดียวกันยังเพิ่ม Element การตกแต่งด้วยโลหะสีทอง ซึ่งสะท้อนกลิ่นอายของศิลปะแบบ Art Deco ไว้ได้อย่างลงตัว

 

ทางเข้าร้านที่ให้กลิ่นอายสไตล์ยุโรปได้เป็นอย่างดี

 

การตกแต่งด้วยโลหะสีทอง สะท้อนกลิ่นอายของศิลปะแบบ Art Deco

 

เสริมความเป็น Industrial ด้วยเหล็กและปูนเปลือย

Chef’s Progressive Tasting Menu

สำหรับคอร์สเมนูอาหารจากทางร้าน เป็นการเสิร์ฟแบบ Fine Dining ในคอนเซ็ปต์ ‘Progressive’ ที่ครีเอตแต่ละเมนูออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ผสมผสานกับเทคนิคและกรรมวิธีที่หลากหลาย เชื่อว่าจะทำให้คุณต้องประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบอย่างแน่นอน

มาสัมผัสรสชาติแห่งความละเมียดละไม ที่มาพร้อมความใส่ใจในทุกรายละเอียดของเชฟผ่าน 10 Courses Menu (3,800 ++ บาท) เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกันที่เมนูขนมปังทำเองแบบอบสดใหม่อย่าง Fermented Mini Baguette and Milk Bread Shokupan มินิบาแกตต์ที่ใช้เวลาหมักนานกว่า 2 วัน เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสความเหนียวของบาแกตต์แบบคลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศส และโชกุปังเนื้อนุ่มฟู เสิร์ฟพร้อมเนยฝรั่งเศสที่นำมาเบลนด์กับไข่ปลาเมนไทโกะ ให้รสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี

 

Fermented Mini Baguette and Milk Bread Shokupan

ตามด้วย Blue Swimming Crab ปูม้าที่เชฟคัดสรรวัตถุดิบมาจากจังหวัดชุมพร โดยเป็นการนำเอากรรเชียงปูม้ามาทำเป็นสลัดที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ลเขียว ส้มแมนดาริน แล้วท็อปด้วยแผ่นแป้งบางกรอบพร้อมใบชิโสะ ให้รสชาติสดชื่น

 

Blue Swimming Crab

จานถัดมาเป็น Scallop หอยเชลล์จากฮอกไกโดที่ผ่านการสโมคแบบจีนจนได้ความนุ่มกำลังดี ท็อปมาบนแป้งทาร์ตกรุบกรอบ เสริมความกลมกล่อมด้วย Black Garlic Cream และ Roasted Tomato Puree แล้วโรยด้วย Finger Lime ปิดท้าย

 

Scallop

ต่อมาที่ Wide Caught Grouper ปลาเก๋าดอกแดงที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากทะเลอันดามัน ผ่านเทคนิคการแล่แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ก่อนจะนำมานึ่งด้วยซอสที่มีส่วนผสมของเหล้าจีนและสาเก ทำให้ได้กลิ่นหอมพร้อมรสกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ แล้วราดด้วย Aromatic Oil ที่เต็มไปด้วยส่วนผสมของเครื่องหอมอย่าง มะแขว่น พริกเสฉวน พริกบางช้าง และเปลือกส้ม ก่อนจะท็อปด้วย Red Amarant หรือผักโขมแดงปิดท้าย ให้สัมผัสได้ถึงรสชาติเข้มข้นพร้อมความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี

 

Wide Caught Grouper

อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ที่น่าสนใจ ขอยกให้กับ XO Shokubun ขนมปังซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่เป็นการนำเอาโชกุปังไปย่างด้วยเนย แล้วเพิ่มความหอมด้วย Scallop Mayo ท็อปด้วยอูนิสดใหม่คุณภาพดีที่ส่งตรงมาจากตลาด Toyosu และ French Kaviari Caviar ให้รสสัมผัสของขนมปังที่กรอบนอกนุ่มใน เข้ากันได้ดีกับอูนิและคาเวียร์อย่างลงตัว 

 

XO Shokubun

เมนู XO Shokubun ไม่รวมในคอร์ส สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งเพิ่มได้ในราคา 900 บาท

พักเบรกด้วยเมนูเบา ๆ อย่าง Soup of the Day น้ำซุปรสเข้มข้นที่เบลนด์ระหว่างซุปไก่ที่เคี่ยวเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง มาผสมผสานกับน้ำสต๊อกจากหอยเชลล์แห้ง ทำให้ได้กลิ่นหอมพร้อมรสกลมกล่อมไม่เหมือนที่ไหน เสิร์ฟมาให้ทานพร้อมกับ Fa Cai Seaweed หรือสาหร่ายเส้นผม และ Kaviari’s Oscietra Caviar

 

Soup of the Day

ต่อกันที่ Luca’s Egg เมนูที่ได้วัตถุดิบไข่มาจาก ‘Luca’ เจ้าของฟาร์มไก่ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่พัทยา โดยเขาใส่ใจในการเลี้ยงไก่ไม่เหมือนใครด้วยการเลือกใช้โปรตีนในการขุน ทำให้ได้ไข่ที่มีคาแรกเตอร์รสชาติที่มันและหวานกว่าไข่ทั่วไป โดยเชฟจะนำไป Confit ในน้ำมันมะกอก ก่อนจะท็อปด้วย Kaviari’s Oscietra Caviar เสิร์ฟพร้อมถั่วลันเตาที่ผัดคลุกเคล้ากับเนย และ Spicy Crumble ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น 

 

Luca’s Egg

ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจอย่าง Wild Caught Giant Tiger Prawn กุ้งลายเสือตัวโตจากจังหวัดพังงาที่ผ่านกรรมวิธีการ Sous Vide เพื่อให้ได้ความสุกแบบพอดีและคงความกรอบเด้งของกุ้งอย่างเต็มที่ เคียงมาคู่กับโฟมที่ช่วยเสริมมิติให้กับรสชาติ ทานพร้อมผัก Ice Plant และข้าวโพดอ่อนที่ผ่านการสโมคเบา ๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว

 

Wild Caught Giant Tiger Prawn

ต่อมาที่จานของ Angthong Aged Barbary Duck อกเป็ดเนื้อแน่นที่เชฟนำไปแช่ในน้ำเกลือ 1 คืน ก่อนจะดรายเอจเป็นเวลา 18 วัน เพื่อให้ได้รสชาติความเข้มข้นของเป็ดอย่างเต็มที่ จากนั้นจึงนำไปสโมคอีกที เสิร์ฟพร้อม Taro Puree, Blackberry Jus และก้านคะน้าผัด แนะนำให้ทานคู่กับ Vessantara Rice ข้าวสวยจากจังหวัดอำนาจเจริญที่นำมาอบคลุกเคล้ากับหอมแดงและ Dried Scallop เพื่อให้ได้กลิ่นหอม ทานพร้อมกันได้ความอร่อยที่แสนลงตัว

 

Angthong Aged Barbary Duck

 

Vessantara Rice

 

Vessantara Rice

จากนั้นมาตัดเลี่ยนด้วย Organic Guava เมนู Sorbet ที่ทำมาจากน้ำฝรั่งออร์แกนิก ท็อปมาบนขิงอ่อนเชื่อมน้ำผึ้ง แล้วเสริมความสดชื่นด้วยกลิ่นของผิวเลมอน

 

Organic Guava

มาถึงเมนูในหมวดของหวานอย่าง Apricot Seed ไอศกรีมแอปริคอตที่เพิ่มความหอมด้วยดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ท็อปมาบน Riz au Lait ข้าวกวนหรือขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ปรุงรสออกมาในสไตล์จีนด้วยการใส่พุทราเชื่อมและซินนามอนเข้าไป ทานคู่กับ Sweet Chili Meringue ช่วยเสริมความกรุบกรอบเข้ากันได้เป็นอย่างดี พร้อมปิดท้ายคอร์สนี้ด้วย Petit Four ที่ประกอบไปด้วย Financier เค้กสไตล์ฝรั่งเศสที่ให้สัมผัสนุ่ม ทานคู่กับช็อกโกแลตทรัฟเฟิลเข้มข้นของจังหวัดจันทบุรี ที่มาจากแบรนด์ Bridet Chocolaterie ซึ่งเป็น Lab ผลิตช็อกโกแลต Bean to Bar ของเชฟเองด้วย ช่วยปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

Apricot Seed

 

Petit Four

ต้องจองล่วงหน้าก่อนเท่านั้น! แนะนำให้จองก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ ผ่านทาง Line : https://lin.ee/6iBHYcF หรือ โทร. 09-8269-1984 

นอกจากนี้ทางร้านยังเปิดให้บริการในส่วนของ Coffee & Snack เวลา 10.00-17.00 น. อีกด้วย

Info
Hours
Open : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Mon : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Tue : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Wed : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Thu : Closed
Fri : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Sat : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Sun : 10AM - 5PM
6PM - 8PM
Price

฿฿฿฿฿฿ มากกว่า 2,000 บาทต่อคน

Address
โครงการ Stadium One ซอยจุฬา 6 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT สามย่าน

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ

Facilities
Suggest an Edit