Great Jazz Music and Good Cocktails
หากใครกำลังมองหา Jazz Bar เราอยากชวนคุณมาดื่มด่ำคลาสสิกค็อกเทลท่ามกลางบรรยากาศของเสียงดนตรีแนวเพลง Jazz ที่ Alonetogether Bangkok บาร์น้องใหม่จากเจ้าของร้านเดียวกันกับ Sugar Ray You’ve Just Been Poisoned, Q&A และ Thaipioka ซึ่งในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับเจ้าของร้าน Ku Bar ที่รวบรวมเอาความหลงใหลในเสียงดนตรีแนวเพลง Jazz และรสชาติแสนพิเศษของคลาสสิกค็อกเทลมาผนวกเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมมามอบประสบการณ์สุดพิเศษของเครื่องดื่มและเสียงเพลงที่คัดสรรมาให้คุณได้เพลิดเพลินตลอดคืน
The Hidden Speakeasy Bar in Sukhumvit
ด้วยโลเคชันที่ไม่ลับแต่กลับชวนให้ลึกลับด้วยบรรยากาศที่หากเปิดประตูเข้าไปภายในร้าน จะพบกับมุมเคาน์เตอร์บาร์ที่ทอดยาวขนานไปกับทางเดิน พร้อมเสริมความอบอุ่นและโรแมนติกด้วยดวงไฟสีน้ำตาลทองที่ส่องแสงสลัวอยู่ทั่วทุกมุมร้าน โดยจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความคลาสสิกจากเฟอร์นิเจอร์วินเทจแบบยุคเก่า และทันทีที่เดินเข้าไปยังด้านในสุดของตัวร้านจะพบกับเครื่องเล่นเปียโนสีดำพร้อมกับกลองชุดสุดคลาสสิก ที่ทางร้านจัดเป็นพื้นที่สำหรับให้เหล่านักดนตรีได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาบรรเลงเพลง Jazz ให้ฟังกันแบบสด ๆ
สำหรับ Jazz Band จะแสดงสดทุกคืนวันพุธ-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 21.30-24.30 น.
Vintage Vinyl Vibes
อีกหนึ่งความพิเศษของ Alonetogether Bangkok คือบนชั้น 2 ของตัวร้าน ถูกแบ่งพื้นที่ให้เป็นบาร์ลับที่พร้อมให้คุณได้มาสัมผัสความสุนทรีย์ของเสียงดนตรีอันเนิบช้าจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงสุดคลาสสิกจากร้าน Recoroom vinyl & vintage audio ที่คัดสรรหลากหลายแนวเพลงมาให้ฟังแบบไม่เหมือนใคร อาทิ Jazz, Soul, Funk, Pop ตลอดจนแนว Rock อันโดดเด่นด้วยแผ่นเสียงหายากจากยุคเก่า ที่เราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความคลาสสิกแบบไวนิลแท้ ๆ
Creative Cocktail Drinks
สำหรับความพิเศษของเมนูเครื่องดื่ม คือความพิถีพิถันในการคิดค้นสูตรค็อกเทลที่หยิบเอากลิ่นอายของความเป็น Sugar Ray มาผสมผสานกับ Ku Bar ออกมาเป็นคลาสสิกค็อกเทลที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของ Alonetogether Bangkok
เริ่มกันที่เมนูแรกอย่าง Frozen Screwdriver (380 บาท) เครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่มีส่วนผสมของวอดก้าเบสกับน้ำส้ม โดดเด่นด้วยการใช้ส้มสด 3 ชนิด มา Blend รวมกัน ได้แก่ ส้มโอ ส้มเช้ง และส้มเขียวหวาน พร้อมเพิ่มความหอมสดชื่นด้วยเครื่องเทศ Cardamom ก่อนจะนำไปแช่แข็งแล้วนำมาปั่นผสมกับวอดก้า ให้รสหวานผสมผสานความเปรี้ยวนิด ๆ เหมาะกับการเติมความสดชื่นในยามค่ำคืน
ถัดมาที่ Pina Colada (380 บาท) ที่เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของทางร้าน อันเต็มไปด้วยส่วนผสมของเหล้า Rum ที่นำมาผสมผสานรสชาติให้เข้ากันกับน้ำมะพร้าวเผา ก่อนจะนำไป Smoked กับน้ำสับปะรดปิดท้าย ให้รสชาติกลมกล่อม หอมหวาน ดื่มแล้วจะสัมผัสถึงความหอมละมุนของกลิ่น Smoked ออกมาได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วย Aviation (380 บาท) คลาสสิกค็อกเทลที่ใครหลายคนอาจลืมไปแล้ว แต่ทางร้านได้นำกลับมาครีเอตในรสชาติใหม่ด้วยส่วนผสมของ Gin ที่มาพร้อมความพิเศษของ Homemade Violet ที่ทางร้านทำเองแบบสูตรเฉพาะ โดยได้สีสันมาจากดอกอัญชันแบบธรรมชาติ ที่ให้สัมผัสถึงกลิ่นหอมอโรมาของดอกลาเวนเดอร์ที่ผสมผสานเข้ากันกับดอกจำปี แก้วนี้เสิร์ฟมาพร้อมผลเชอร์รี ที่ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น
ปิดท้ายด้วย Sazerac (420 บาท) เครื่องดื่มอีกหนึ่งแก้วที่คงความคลาสสิกมาอย่างยาวนาน โดยความพิเศษจะอยู่ที่การไม่ใช้ส่วนผสมของ absinthe แต่ใช้วิธีการนำเหล้า Rye และ Cognac มา Infused กับใบสมุนไพรอย่าง Murraya Leaf เพื่อให้ได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยให้รสชาติแบบ Spirit Forward Cocktail ที่เน้นกรุ่นกลิ่นหอมและรสชาติของตัวเหล้าแบบชัดเจน เหมาะสำหรับคนชอบดื่มค็อกเทลรสชาติเข้ม ๆ
