Thai Taste & Warm Vibes
บ้านไทยโบราณอายุกว่า 70 ปี ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พร้อมพื้นที่กว้างขวางไม่อึดอัด เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความเป็นไทยในซอยสุขุมวิท 32 หลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารไทยสไตล์บ้านโคโลเนียล เสิร์ฟอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์ “ให้คนที่มารู้สึกมีความสุขเหมือนมาทานข้าวที่บ้านกับครอบครัว”
ที่นี่คัดสรรเอาเมนูพื้นบ้านโบราณแท้ ๆ ใช้วัตถุดิบพื้นบ้านจากทั่วประเทศไทยมาอนุรักษ์ไว้ให้คนสมัยนี้ได้ชิมอาหารไทยแบบดั้งเดิม และเนื่องจากในสมัยก่อนนั้นเครื่องปรุงไทยแท้ ๆ จะไม่มีน้ำมันหอยหรือซอสปรุงรส ครัวของที่นี่จึงแยกส่วนครัวไทยและครัวจีน ที่ใช้เครื่องปรุงไม่เหมือนกันไว้อย่างชัดเจน ให้คงความเดิม ๆ ของทั้งสองชาติ เป็น “รสมือคุณย่าคุณยาย” ที่แท้จริง
ส่วนที่มาของชื่อร้าน “อำแดงไต้ฝุ่น” นั้น คุณใหญ่ หรือ เชฟปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ เจ้าของร้านเล่าว่า เหตุผลที่ใช้คำว่าอำแดงนั้นเพราะเป็นคำโบราณที่คุณใหญ่ไม่อยากให้จางหายไปจากสังคมไทย “อำแดง” เป็นคำนำหน้าสำหรับเรียกผู้หญิงในสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนคำว่า “ไต้ฝุ่น” นั้นมากจากสูตร Spicy Crab จากเกาะฮ่องกง ที่ชาวประมงต้องทำอาหารกันสด ๆ บนเรือในขณะที่หลบพายุไต้ฝุ่น กลายมาเป็นเมนูเด็ดของร้านที่มอบความประทับใจให้ทุกคนที่แวะเวียนมา
Recommended Menu
ด้านเมนูอาหาร ร้านนี้มีเมนูแนะนำมากมาย เริ่มจาก กุ้งแม่น้ำเผา (340g. / 567 บาท) ตัวโต มีหลายขนาดให้เลือก แถมยังราคาเดียวกับที่อยุธยา ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทานไกล ๆ เพราะใจกลางกรุงอย่างที่นี่ก็มีเสิร์ฟ และเนื่องจากทางร้านเชี่ยวชาญเรื่องกุ้งเผาจากชื่อเสียงของ 3 ร้านอาหารชื่อดังที่เชฟใหญ่บริหารมาก่อนหน้านี้ ทั้งบ้านชิดกรุงกุ้งเผา, ครัวบุษบันกุ้งเผา และ ท่าน้ำขวัญกุ้งเผา จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้สัมผัสเนื้อกุ้งแน่น ๆ สดเด้ง พร้อมมันหัวกุ้งเยิ้ม ๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด กลมกล่อมเข้ากันอย่างน่าประทับใจแน่นอน
Original Recipe from Hongkong
ต่อมาที่เมนูในตำนานอย่าง Spicy Crab (ขีดละ 290 บาท) หรือปูผัดซอสไต้ฝุ่นสูตรต้นตำรับจากฮ่องกงแท้ ๆ ที่เชฟใหญ่ใช้เวลาเดินทางไปศึกษาวิธีการและเคล็ดลับการปรุงด้วยตัวเองไกลถึงฮ่องกงกับชาวประมงท้องถิ่นบนเรือ แต่เพื่อให้เข้ากับรสชาติของคนไทย เชฟใหญ่ได้ทำการปรับสูตรเล็กน้อย แต่ยังคงคุณภาพจากปูตัวโตคัดพิเศษเหมือนเดิม เมนูนี้โด่ดเด่นในเรื่องของกระเทียมและพริก เจียวจนหอมกรอบ รสชาติเข้มข้นในสัดส่วนที่พอดี จนลูกค้าบางคนถึงกับต้องขอห่อกลับบ้าน
หรือจะเป็นเมนูทานเล่น รากบัวทอด (180 บาท) ที่เชฟใช้รากบัวล้างสะอาด คลุกแป้งให้บางพอเกาะ ทอดให้กรอบ แล้วคลุกเคล้าเข้ากับซอสรสหวานอีกครั้ง ก็จะได้รากบัวทอดกรอบหวานทานเพลิน แถมหาทานได้ยากในยุคนี้
อีกหนึ่งเมนูโบราณที่หลายคนอาจเคยได้ชิมอยู่บ่อย ๆ อย่าง ผัดสายบัวกุ้งสดใส่มันกุ้ง (220 บาท) นั้นก็เป็นอีกจานพิเศษของร้าน เรื่องรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โด่ดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะเชฟใช้เครื่องปรุงแบบโบราณ ที่มีแค่ เกลือ น้ำตาล พริกไทย สัดส่วนที่พอดี ใส่มันกุ้งสด ๆ ลงไปผัดกับสายบัวที่มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ ซึมซับทุกความกลมกล่อม มีกุ้งสดตัวโตให้ทานเคล้ากัน เสิร์ฟมาในจานรูปดอกบัว เป็นกิมมิคเล็ก ๆ น่ารักอีกอย่างของที่ร้าน
แต่ใครที่รักรสชาติจัดจ้านกับน้ำซุปร้อน ๆ ต้องไม่พลาดชิม ปลาทูต้มมะดัน (250 บาท) อีกหนึ่งเมนูไทย ๆ ที่เชฟใหญ่บอกว่าน่ารักตรงที่คนไทยเข้าใจที่จะหาวัตถุดิบจากธรรมชาติมาผลัดเปลี่ยนแทนรสเปรี้ยวได้หลายอย่าง ทั้งมะดัน ยอดมะขาม มะนาว หรือมะขามเปียก อย่างปลาทูต้มมะดัน ชามนี้เชฟก็ใช้ปลาทูสดตัวใหญ่ ต้มกับมะดันจนเปื่อย ได้รสเปรี้ยวและหอมมะดัน เข้ากันกับกลิ่นพริกขี้หนูทุบ คล่องคอและดีต่อสุขภาพ
อีกจานคือ ผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า (250 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล พร้อมเสิร์ฟรสเผ็ดร้อนจากเครื่องแกงและใบยี่หร่า อีกหนึ่งพืชพื้นบ้านของประเทศไทยที่ใช้ทำอาหารกันมาแต่โบราณ เครื่องแกงของร้านนี้โขลกกันสดใหม่ทุกวัน เนื้อเกรดดี นุ่ม ชุ่มเครื่องแกง นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจานที่เชฟใหญ่ภูมิใจ
สำหรับคนรักปูดอง ที่นี่ก็ยังมีให้ทาน คุณใหญ่เล่าว่า ปูไข่ดองแดนกิมจิ (850 บาท) ที่นี่รสชาติแบบดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมคือน้ำจิ้มแบบไทยที่ทางร้านตั้งใจทำเอาใจคนรักรสชาติจัดจ้าน เสิร์ฟมาแบบเย็น ๆ
ข้าวผัดมันกากหมู (180 บาท) หอมกรุ่นก็เป็นอีกไฮไลท์ของที่นี่ ด้วยความที่เมนูนี้เป็นเมนูโบราณแท้ ๆ เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยในสมัยก่อน หลังจากเจียวมันหมูเพื่อทำน้ำมันหมูไว้ใช้ในครัวเรือนแล้ว ส่วนที่เป็นน้ำมันติดกระทะ ผัดเข้ากับข้าวสวย และกากหมูที่เจียวไว้ แต่งรสง่าย ๆ ด้วยเกลือป่น เท่านี้ก็สามารถเสิร์ฟความอร่อยเรียบง่ายแบบรสมือคุณย่าคุณยาย ทานคู่กับข้าวแบบไหนก็อร่อย
Sweet Moment
ส่วนเมนูเครื่องดื่มคุณใหญ่แนะนำให้ลอง ค็อกเทลเสน่ห์อำแดง (150 บาท) โมจิโต้สูตรไทยที่ผสมน้ำเสารส วอดก้า มะนาว และมีกิมมิกเล็ก ๆ อย่างการใช้ใบสะระแหน่เป็นใบโหระพาแทน รสชาติออกหวานเปรี้ยว สัมผัสแน่นหนักแบบไทย ๆ ถูกใจนักดื่มแน่นอน
ส่วนจานสุดท้ายที่ไม่เหมือนที่ไหนแน่ ๆ คือขนมหวานล้างปาก สูตรเฉพาะของตัวเองที่ตั้งชื่อตามชื่อร้านให้จำง่าย ๆ อย่าง อำแดงไต้ฝุ่น (150 บาท) ที่เชฟใช้เต้าหู้ Homemade ไปคลุกกับงาบดก่อนนำไปทอด โรยด้วยน้ำตาลเกลือ ทานกรุ่น ๆ หวานอ่อน ๆ คู่กับชาร้อนก็เข้ากัน
ดังนั้นหากใครหลงรักอาหารไทยโบราณ อำแดงไต้ฝุ่นเป็นอีกหนึ่งร้านแนะนำของคนกรุง พร้อมให้คุณมาสัมผัสความเป็นตัวของตัวเองในเรื่องรสชาติดั้งเดิมแท้ ๆ แล้วที่สุขุมวิท 32 แนะนำให้โทรไปจองโต๊ะก่อนที่เบอร์ 095-716-4712