Welcome to Baan Somtum Restaurant
จากชื่อเสียงโด่งดังและยาวนานกว่า 17 ปี ของ บ้านส้มตำ อันโดดเด่นด้วยรสชาติแซ่บนัวจัดจ้าน บวกกับคุณภาพและมาตรฐานของอาหารและการให้บริการที่ใส่ใจ ทำให้บ้านส้มตำได้กลายเป็นอีกหนึ่งร้านโปรดในดวงใจใครหลายคน โดยเกิดขึ้นมาจากความหลงใหลในเสน่ห์ของอาหารอีสาน และอยากยกระดับวัฒนธรรมของอาหารอีสานให้เป็นที่รู้จักระดับโลก สู่การขยับขยายกว่า 10 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงสาขาล่าสุดในย่านบางนา ที่พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสความอร่อยของอาหารไทยอีสาน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย และความรื่นรมย์ของสวนสีเขียว
Relaxing in Greenery and Homey Vibes
สำหรับ บ้านส้มตำ สาขาบางนา พร้อมเปิดต้อนรับให้คุณมาสัมผัสบรรยากาศอันแสนผ่อนคลายด้วยโลเคชันที่กว้างขวาง โอบล้อมด้วยแมกไม้สีเขียวขจี ที่ให้ความรู้สึกเหมือนการทานข้าวที่บ้านอันเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ส่วนบริเวณด้านในทางร้านเน้นใช้วัสดุไม้และล้อมรอบด้วยกระจกใส เพื่อสร้างความโปร่งโล่ง สบาย ๆ ให้กลิ่นอายความโฮมมี่ เหมาะแก่การพาครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ อิ่มอร่อยร่วมกันได้อย่างเพลิดเพลิน
Experience The Authentic Taste of Thai Northeastern Food
แน่นอนว่า บ้านส้มตำ ให้ความสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีเข้าสู่ครัวกลางทุกวันเพื่อความสดใหม่ อีกทั้งยังเน้นความละเมียดละไมและใส่ใจในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะรังสรรค์สู่อาหารอีสานจานเด็ดที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีหลากหลายเมนูให้เลือกอย่างจุใจ จนทำให้บ้านส้มตำได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bib Gourmand จาก MICHELIN Guide ปี 2018-2021, รางวัล Certificate of Excellence ปี 2015-2019 (5 ปีซ้อน) จาก tripadvisor และรางวัล Ctrip Gourmet List (Local Favorite) ปี 2018
ได้เวลาลิ้มรสความแซ่บกับเมนู ตําหลวงพระบาง (90 บาท) ส้มตำรสเเซ่บนัวที่ได้สูตรมาจากเมืองหลวงพระบาง เมนูยอดนิยมประจำประเทศลาว โดดเด่นด้วยกรรมวิธีการฝานมะละกอแขกดำให้เป็นเส้นใหญ่แผ่นบาง ๆ เพื่อให้ดูดซับความอร่อยของน้ำส้มตำไว้ได้อย่างเต็มที่ ก่อนจะนำมาตำคลุกเคล้ารสชาติเข้มข้นกลมกล่อมด้วยกะปิคลองโคนและน้ำปลาร้าปรุงสุกสูตรพิเศษของทางร้าน จนได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เคียงมาให้ทานคู่กับกากหมูเจียวเองแบบสดใหม่ เข้ากันได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูในหมวดตำที่ห้ามพลาด ขอแนะนำ ตำข้าวสาลีดอย (95 บาท) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าตำข้าวโพดข้าวเหนียว โดยทางร้านเลือกใช้ข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์ ‘ราชินีทับทิมสยาม’ โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสเหนียวหนึบหนับอันเป็นเอกลักษณ์ นำมาคลุกเคล้าน้ำตำไทยสูตรเด็ดรสเปรี้ยวอมหวาน ให้กลิ่นหอมของน้ำตาลมะพร้าวเป็นอย่างดี พร้อมสร้างสีสันให้น่าทานด้วยการผสมผสานข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงและสีขาวเข้าด้วยกัน ทำให้จานนี้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
เมนูที่ทานคู่กับส้มตำแล้วเข้ากัน คงจะหนีไม่พ้น คอหมูย่าง (150 บาท) อีกหนึ่งเมนูขายดีของทางร้าน พิเศษด้วยเนื้อส่วนคอหมูที่มีมันแทรกกำลังดี นำมาหมักจนได้ความกลมกล่อม ก่อนจะย่างออกมาจนได้ความนุ่มชุ่มฉ่ำ ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษของร้าน ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความอร่อยจัดจ้านแบบลงตัว
หรือจะเป็น ไก่ย่างมะแขว่น (95 บาท) เมนูไก่ย่างที่พิเศษด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเทศทางภาคเหนือที่มักนิยมทานกันอย่างมะแขว่น โดยทางร้านได้คัดสรรไก่ส่วนสะโพกนำไปหมักกับมะแขว่นที่ผ่านการคั่วไฟอ่อน ๆ ก่อนจะนำไปย่างจนได้ความหอมพร้อมหนังที่กรอบและเนื้อที่นุ่มชุ่มฉ่ำกำลังดี ไม่ว่าจะทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วมะขามหรือน้ำจิ้มแจ่วข้าวคั่ว ก็ช่วยเสริมความอร่อยได้อย่างเข้ากัน
ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูแนะนำที่ต้องลอง คือ ปีกไก่ทอด (125 บาท) เมนูคลาสสิกในดวงใจของใครหลายคน พิเศษด้วยปีกไก่ที่ทางร้านคัดสรรมาได้ขนาดใหญ่กำลังดี ก่อนจะนำไปทอดจนสุกได้ที่ มีสีเหลืองทองน่ารับประทาน จานนี้ให้รสกลมกล่อมพร้อมสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ เคียงมาให้ทานคู่กับน้ำจิ้มสองรสชาติที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นได้มากยิ่งขึ้น
มาถึงเมนูไฮไลต์ที่ห้ามพลาดอย่าง ลาบเป็ด (145 บาท) เมนูยอดนิยมของคนอีสาน จานนี้ทางร้านเลือกใช้เนื้อเป็ดสับพอหยาบ นำมารวนกับน้ำซุปรสกลมกล่อม ก่อนจะปรุงด้วยมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว จนได้รสเข้มข้น พร้อมผสมผสานความหอมด้วยเครื่องเทศสมุนไพรต่าง ๆ ทำให้จานนี้ครบรสแบบถึงเครื่องถึงใจ แล้วโรยด้วยใบมะกรูด พริกแห้ง และหอมเจียวซอยปิดท้าย ที่ไม่ว่าใครทานก็ต้องติดใจ
ส่วนใครที่มองหาเมนูปลา ขอแนะนำ ปลากะพงนึ่งแจ่ว (425 บาท) ปลากะพงเนื้อขาวแน่นที่นำไปนึ่งพร้อมสมุนไพรไทยหลากหลายอย่าง อาทิ กระเทียม รากผักชี ข่า และตะไคร้ จนได้กลิ่นหอมชวนรับประทาน เสิร์ฟพร้อมผักลวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง และดอกแค ทานพร้อมแจ่วและน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเข้มข้น เข้ากันได้อย่างลงตัว
มาถึงเมนูแกงสุดพิเศษอย่าง ปลาร้าต้มกะทิเนื้อเปื่อย (155 บาท) ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปลาร้าบ้านส้มตำที่มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม ทำให้ทางร้านได้พัฒนาเมนูจากวัตถุดิบปลาร้าที่ไม่ใช่แค่การนำมาทำส้มตำหรือยำ จึงเกิดเป็นเมนูหมวด ‘ปลาร้าต้มกะทิ’ ที่ทางร้านเลือกใช้หัวกะทิอย่างดี นำมาเคี่ยวอย่างพิถีพิถันกับปลาร้าปรุงสุกจนได้น้ำแกงที่หอมมัน ก่อนจะเพิ่มสีสันของรสชาติด้วยเนื้อเปื่อยและสมุนไพรไทยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และกระชาย รวมถึงบรรดาผักพื้นบ้านอย่าง ถั่วฝักยาว หน่อไม้ และมะเขือเปราะ ที่ช่วยเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบและเสริมความอร่อยกลมกล่อมได้อย่างคาดไม่ถึง
ปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มสุดสดชื่นอย่าง น้ำลำไย (70 บาท) แบบโฮมเมด ทำสดใหม่ ให้รสชาติเข้มข้น หอมหวานเย็นชื่นใจ ท็อปมาด้วยเนื้อลำไยเน้น ๆ ให้ทานเล่นแบบเพลิน ๆ เติมเต็มมื้ออาหารสุดพิเศษนี้ได้อย่างน่าประทับใจ