Food Art & Craft
บันยากาด ร้านอาหารไทยในซอยประดิพัทธ์ 10 ที่มีคอนเซ็ปต์ Food Art & Craft โดยได้นำศิลปะมาประยุกต์ให้เข้ากับอาหารได้อย่างลงตัว ภายในบ้านสีขาวที่รายล้อมไปด้วยสวนอันร่มรื่น เหมือนนั่งทานข้าวอยู่ที่บ้านของตัวเอง
เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับต้นชมพูพันทิพย์ต้นใหญ่อยู่ด้านหน้า พร้อมกับบ้านสีขาวที่อยู่มานานตั้งแต่สมัยก่อน โดดเด่นด้วยโซนบ่อบัวที่ตกแต่งด้วยร่มแดงได้คอนทราสต์ที่ตัดกัน พร้อมกับที่นั่งเอนกายให้นั่งชมธรรมชาติสีเขียวเพลิน ๆ
Indoor & Outdoor
นอกจากโซนบ่อบัวแล้ว ทางร้านยังมีอีก 2 โซนให้เลือกนั่งกัน ใครที่ตั้งใจมาดื่มเครื่องดื่มและทานขนม สามารถนั่งได้ในบ้านสีขาวที่ตกแต่งด้วยของสะสมและเฟอร์นิเจอร์ทั้งเก่าและใหม่มากมาย ส่วนใครที่ต้องการทานอาหารหรือจัดไพรเวทปาร์ตี้ แนะนำที่โซน Glass House ห้องกระจกสีขาวที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ และยังตกแต่งด้วยภาพศิลปะรัชกาลที่ 9 ซึ่งวาดขึ้นโดยกลุ่มเพื่อนที่เป็นศิลปิน สามารถสอบถามกับทางร้านเพื่อจับจองเป็นเจ้าของได้
Chef's Creation
อาหารของทางร้านครีเอทโดยเชฟลุงณัฐ ผู้ที่นำเอาศิลปะมาผสมผสานกับอาหารไทย โดยถ่ายทอดผ่านการตกแต่งที่เสพได้ด้วยตาและสัมผัสได้ที่รสชาติ พร้อมยังตั้งชื่อเมนูให้น่าสนใจเพื่อให้ลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยนหรือซักถามกับเชฟได้โดยตรง เมนูแรกที่เชฟแนะนำ ยำแมงมุม (185 บาท) เมนูสร้างสรรค์ โดยนำคางกุ้งมาทอดกรอบ แล้วคลุกเคล้ากับสมุนไพรไทย ได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด มะเขือเทศ ใบมะกรูด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และมะม่วงเปรี้ยว มีรสแซ่บ ถึงเครื่องยำสมุนไพรไทย
ส่วนใครที่กำลังมองหาเมนูอิ่มท้อง ลองสั่ง ข้าวผัดแมวร้องไห้ (185 บาท) เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวคลุกปลาทูในสมัยเด็ก โดยจะนำข้าวไปผัดกับน้ำพริกกะปิ ปลาทู และชะอม เสิร์ฟกับน้ำพริกกะปิที่ตำเองและผักพื้นบ้านต่าง ๆ ให้ทานแกล้มคู่กันใครที่ชอบสปาเก็ตตี้ ลองสั่ง สปาเก็ตตี้บันยากาด (185 บาท) เส้นพาสต้าผัดกับเบคอนทอดกรอบ มะกอกดำ มะเขือเทศราชินี และพริกแห้งกะเหรี่ยงทอด มีรสจัดจ้าน กลมกล่อม
หรือจะลองเมนูเบา ๆ อย่าง ยำอกอีแป้นจะแตก (245 บาท) หรือยำอกเป็ดรมควัน เมนูไทย ๆ ที่ใช้ส้มโอพันธุ์ขาวทองดีไปยำแบบไทยโดยใส่ถั่วลิสงและมะพร้าวคั่ว ทานกับอกเป็ดรมควันหอม ๆ มีรสชาติจัดจ้าน เข้ากันเป็นอย่างดี