If You Are A Big Fan Of Italian Food
สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกับชื่อของ Beccofino Italian Restaurant and Grill ร้านอาหารอิตาเลียนคลาสสิกแท้ ๆ ที่อยู่คู่ย่านทองหล่อมานานกว่า 10 ปี และล่าสุดได้ขยับมาตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของโครงการ Fifty Fifth ซอยทองหล่อ 2 นานกว่า 4 ปีแล้ว ที่สำคัญยังคงเน้นเสิร์ฟหลากหลายเมนูอาหารอิตาเลียนโดยฝีมือของเชฟชาวอิตาลีแท้ ๆ อย่างเชฟ Angelo Rottoli ให้เหล่าคนรักอาหารอิตาเลียนได้แวะมาลิ้มลองความอร่อยกัน
Feel The Warm Vibe
บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยตัวร้านจะตกแต่งด้วยโทนสีเข้มเป็นหลัก เน้นการใช้วัสดุประเภทงานไม้ และงานปูนเปลือย ที่ให้ลุคขรึม ๆ เพดานของร้านค่อนข้างสูงทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง และเพิ่มความสบายตามากยิ่งขึ้นด้วยภาพถ่ายสีขาว - ดำ ที่ประดับตกแต่งโดยรอบ นอกจากนี้สำหรับใครที่มากันเป็นกลุ่มทางห้องอาหารก็มีห้องส่วนตัวไว้สำหรับบริการอีกด้วย
Authentic Italian Dishes
สำหรับเมนูของที่นี่นั้นจะเน้นเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ด้วยวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพดีส่งตรงจากอิตาลี โดยจะมีเมนูให้เลือกสั่งกันทั้งแบบ A la carte และล่าสุดทางร้านได้เปิดไลน์ Buffet สำหรับมื้อดินเนอร์ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 - 22.30 น. ทุกวันจันทร์ - วันพฤหัส ซึ่งจะมีให้เลือกถึง 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ Full Courses Menu (999 บาท++) ที่ให้อิ่มอร่อยแบบไม่อั้นกับหลากหลายเมนูอาหารอิตาเลียนแบบไม่มีจำกัดเวลา และยังสามารถสั่งได้เกือบทุกอย่างในเมนูเริ่มตั้งแต่เมนูจากโซน Antipasto & Salad Bar รวมไปถึงเมนูในเล่มทั้ง Starters, Risottos and Pastas, Mains, Pizzas และ Desserts และเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ และ Full Courses Menu with Drinks (1,599 บาท++) ที่เพิ่มความพิเศษด้วยเครื่องดื่มซอฟท์ดริงก์ เบียร์ และไวน์อย่างดี
เริ่มกันที่เมนูเบา ๆ อย่าง Alaska King Crab Salad (490 บาท) สลัดผักสด ๆ ที่เพิ่มความพิเศษด้วยเนื้อปูอลาสก้าแน่น ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดเลมอนสูตรเฉพาะของร้านที่ให้รสชาติอมเปรี้ยวนิด ๆ กำลังดีแบบไม่กลบรสชาติของเนื้อปู
ถัดมาที่เมนูพาสต้า ที่โดดเด่นด้วยตัวเส้นพาสต้าแบบโฮมเมดที่เชฟเป็นคนปั้นแป้งเองสด ๆ แบบจานต่อจาน แนะนำให้ลอง Tortelli (380 บาท) เกี๊ยวอิตาลีแบบโฮมเมดนุ่ม ๆ ที่สอดไส้ด้านในด้วยกะหล่ำปลี และเบคอน พร้อมพาเมซานซอส
หรือจะลอง Bigoli Friarielli (350 บาท) เส้นพาสต้าที่ผัดคลุกเคล้ากับ Italian Sausage ตัดรสด้วย Broccoli Leaves และปรุงรสแบบอิตาเลียนแท้ ๆ
มาถึงอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของร้านอย่างพิซซ่า ซึ่งที่นี่นั้นจะเป็นแป้งบางกรอบที่อบในเตาด้วยไม้ยูคาลิปตัสเพื่อเพิ่มความหอมเฉพาะตัว ทางร้านแนะนำให้ลองหน้าขายดีอย่าง White Pizzas (380 บาท) ไวท์พิซซ่าจากแป้งคุณภาพอย่างดี อบอวนไปด้วยกลิ่นหอม ๆ ของน้ำมันทรัฟเฟิล เพิ่มความอร่อยด้วยมอสซาเรลล่าชีสแบบเป็นชิ้น ๆ และเห็ดแชมปิญอง
อิ่มท้องด้วยเมนูทานหลักอย่าง Snow Fish Fillet (690 บาท) ปลาหิมะที่นาบกระทะจนสุกกำลังดี เสิร์ฟวางมาบนแตงกวากริลล์ ก่อนราดด้วยซอสไวน์แดงรสเข้มข้นซิกเนเจอร์ของร้าน และท็อปด้านบนชิ้นปลาด้วยแครอทสไลด์บาง นอกจากนี้ยังมีเมนูจานหลักอย่างอี่นให้เลือกอีกเช่น Steak, Pork Chop เป็นต้น
และ Veal Ossobuco (550 บาท) โดยจะเลือกใช้เนื้อส่วนที่มีกระดูกอยู่ตรงกลาง นำไปหมักปรุงรสก่อนตุ๋นจนเข้าเนื้อ ทานคู่กับมันฝรั่งบดที่ผสมด้วยน้ำมันทรัฟเฟิล
Before the End Of the Meal
ก่อนกลับอย่าลืมตบท้ายด้วยเมนูของหวานที่ไม่ควรพลาดอย่าง Tiramisu (180 บาท) ด้วยสูตรคลาสสิกแบบอิตาเลียนดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป
สำหรับเมนูที่กล่าวทั้งหมดนี้รวมอยู่ในไลน์ Buffet ของทางร้าน สามารถสั่งมาลองได้ตลอดแบบไม่จำกัดเวลา
Premium Menu You Should Try!
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูที่ใช้วัตถุดิบแบบ High end นอกเหนือจากเมนูในไลน์ Buffet ให้เลือกสั่งทานกันได้ ใครที่ยังไม่อิ่มจุใจแนะนำให้อัพเกรดความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูพรีเมียม คนรักเนื้อต้องลอง Grilled US Short Rib with Sauted Spinach and Mushroom (650 บาท/100 gr.) เนื้อ US ส่วนติดซี่โครงที่กริลล์จนสุกกำลังดี เสิร์ฟมาคู่กับเครื่องเคียงอย่างผักโขม และเห็ดแชมปิญอง