Published on May 21, 2018

Have A Good Time Before Thirtieth

ไม่เพียงแต่ย่านอารีย์เท่านั้นที่มีคาเฟ่ใหม่ ๆ หลากสไตล์เกิดขึ้นมากมาย เพราะเมื่อเดินทางต่อไปยังซอยพหลโยธิน 11 ก็จะได้พบกับโซนคาเฟ่ ร้านอาหารจำนวนไม่น้อยที่รอให้นักชิมทั้งหลายได้แวะไปชิลล์เอาท์และลิ้มลองความอร่อยด้วยตัวเอง หนึ่งในนั้นคือ before thirtieth café คาเฟ่สีน้ำเงินที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ของเวลา ให้ทุกคนได้ละเลียดความสุขช้า ๆ ใช้ช่วงเวลาดี ๆ นาน ๆ ไปกับการดื่มกาแฟถ้วยโปรด จิบชา ทานเบเกอรี่และอาหารอร่อย ๆ ตามสโลแกนซึ่งติดไว้ด้านหน้าร้านที่ว่า ‘Coffee, Tea, Bakery & Time’ นั่นเอง 

 

บรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ ภายในร้าน

before thirtieth cafe ชื่อนี้เกิดจากการรวมตัวกันของ 5 หนุ่ม เติ้ง-สตานนท์ สันติกุล, เอ็ม-ศุภโชติ โชติวงศ์วาน, ตั๋ง-สัณหณัฐ อัศวนิเวศน์, ปุ้ม-ธนากร บุญพ่วง และ เจ-สุรเซษฐ์ โคกทอง ซึ่งทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่ 28 และเหล่ารุ่นน้องคณะมนุษยศาสตร์รุ่นที่ 29 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทั้งสิ้น จึงนำไอเดียก่อนจะถึงลำดับที่ 30 นี้มาตั้งเป็นชื่อร้าน นอกจากนี้ยังพ้องกับช่วงเวลาของการสกัดกาแฟสดที่จะต้องไม่เกิน 30 วินาที หรือที่เรียกว่าเป็น Perfect Shot ได้อย่างพอดิบพอดีอีกด้วย

Comfy Space

บรรยากาศภายในตกแต่งในสไตล์เวสเทิร์น ที่นำสีขาวและสีน้ำเงินเข้ามาใช้เป็นโทนสีหลักของทางร้าน  มีหลากหลายโซนนั่ง ทั้งมุมเคาน์เตอร์บาร์ติดกับกระจกใส ชิมวิวนอกร้านได้เพลิน ๆ หรือจะสุดส่วนตัวกับเก้าอี้บาร์ติดผนัง หากมากันเป็นกลุ่มก็มีมุมโซฟานุ่ม ๆ ไว้รองรับ ไม่ว่าจะเลือกนั่งมุมไหนก็สามารถละเลียดความสุขจากการทานได้แบบสบาย ๆ เป็นกันเอง อบอุ่นเหมือนได้แวะมาเติมพลังที่บ้านเพื่อน

 

ตัวร้านขนาดกะทัดรัดแต่มีพี่ที่ให้ได้นั่งจิบเครื่องดื่ม ทานขนมสบาย ๆ

อีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นที่น่าสังเกตไม่น้อยคือตัวร้านมี Tag Line หรือ Status ที่น่าสนใจกล่าวไว้ว่า ’Stay Thirsty’ หรือ ’จงกระหายเสมอ’ เมื่อเติมคำลงในช่องว่างของคำว่ากระหาย เช่น กระหายในความรู้ กระหายในความรู้สึกและมิตรภาพที่ดี กลายเป็นความหมายดี ๆ ที่ทำให้คนที่เข้ามาทานได้ชาร์จพลังความคิดบวกกลับไปด้วย ในอนาคตคาเฟ่แห่งนี้จะกลายเป็น Community อีกที่ที่มีมุมห้องสมุดเล็ก ๆ ไว้ต้อนรับหนอนหนังสือให้ลูกค้าได้เข้ามานั่งอ่านฟรี มาพูดคุย แชร์อะไรดี ๆ ร่วมกัน

Comfort Food Menus

before thirtieth café จะเน้นไปที่เรื่องของวัตถุดิบ ส่วนผสม และรสชาติของตัวเมนูเป็นหลัก ไม่เพียงแต่เสิร์ฟเบเกอรี่เท่านั้น แต่ยังรองรับลูกค้าที่อยากทานอาหารด้วยหลากเมนู Comfort Food สูตรเฉพาะให้ได้อิ่มท้องระหว่างมื้อ โดยอาหารจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือเมนูทานเล่น ประเภท Snack ที่สามารถทานแชร์กับเพื่อนได้ อีกส่วนคือเมนูอาหารจานเดียวที่ทานแบบอิ่มคุ้ม นำเสนอแต่ละเมนูที่มีการผสมผสานระหว่างอาหารแนวตะวันตกกับรสชาติของความเป็นไทยเข้าไว้ด้วยกัน และในอนาคตจะมีการครีเอท นำเมนูใหม่ ๆ มาให้ได้ลิ้มลองกันเรื่อย ๆ สำหรับเมนูที่ห้ามพลาด ได้แก่ Shrimp Spring Rolls (115 บาท) ปอเปี๊ยะขลุ่ยกุ้ง เมนูของทอดทานเล่นยอดฮิต เป็นปอเปี๊ยะทอดสอดไส้เนื้อกุ้งแบบเนื้อเน้น ๆ เสิร์ฟพร้อมกับผักสลัด และน้ำจิ้มบ๊วย ทานแล้วรสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี 

 

Shrimp Spring Rolls (115 บาท)

Stir Fried Spaghetti (125 บาท) สปาเก็ตตี้พริกแห้งเบคอน สูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ผู้ทานสามารถบอกได้ว่าจะทานเผ็ดระดับไหน เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มกำลีงดี นำไปผัดกับเบคอน กระเทียม และพริกแห้งที่ให้ทั้งกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อนอ่อน ๆ ทานแล้วไม่เลี่ยนแน่นอน 

 

Stir Fried Spaghetti (125 บาท)

ถ้าใครชอบเมนูข้าว ลองสั่ง Pork Stew in Tomato Sauce (105 บาท) สตูว์หมูนุ่ม ๆ ที่เคี่ยวในซอสมะเขือเทศเป็นเวลานานจนได้รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ 

 

Pork Stew in Tomato Sauce (105 บาท)

ก่อนจะทิ้งท้ายความอร่อยด้วยเมนูของหวานด้วยโฮมเมดเบเกอรี่อย่าง Riceberry Coconut Cake (165 บาท) เค้กมะพร้าวอ่อนที่ทำจากแป้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ รสหวานน้อย หอมละมุน เสิร์ฟแบบ Portion ใหญ่ที่สามารถแบ่งทานกันได้ 

 

Riceberry Coconut Cake (165 บาท)

หรือจะเป็น Honey Lemon Cake (135 บาท) เค้กเลมอนแบ่งเป็นชั้น ๆ สลับเลเยอร์ด้วยซอสเลมอน แล้วท็อปด้านบนด้วยน้ำผึ้ง รังผึ้งเล็ก ๆ ให้รสเปรี้ยวอมหวานกำลังดี

 

Honey Lemon Cake (135 บาท)

Stay Cool with Cold Brew

มาถึง before thirtieth café ทั้งที ขอแนะนำให้ลองดื่มกาแฟและชาของที่นี่ เพราะโดดเด่นด้วยกาแฟ House Blend ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ใช้กาแฟเอธิโอเปียเบลนด์เข้ากับกาแฟไทยซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้เจอกันได้บ่อย ๆ นัก อย่างเมนู Sparkling Iced Americano with Peach (115 บาท) แก้วนี้ใช้กาแฟเพียงช็อตเดียว ผสมกับน้ำพีช แล้วท็อปด้วย Tonic ที่ให้ความซ่า เพิ่มความสดชื่น ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกาแฟ ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มน้ำผลไม้มากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟรสขมเป็นที่สุด

 

Sparkling Iced Americano with Peach (115 บาท)

ในส่วนของชาทางร้านเลือกวิธีการสกัดเย็นมาใช้ โดยเป็นชาที่สกัดจากดอกไม้และผลไม้ ปริมาณคาเฟ่อีนน้อย และให้รสชาติที่ขมน้อยกว่า เช่น Black Tea & Blueberry (125 บาท) ชาดำสกัดเย็นรสบลูเบอร์รี่ คล้ายคลึงกับการสกัดกาแฟโคลด์บรูว์ ให้ได้รสชาติชาที่ไม่เข้มขมจนเกินไป โดยทางร้านเลือกใช้น้ำแข็ง Ice Ball เพื่อคงความเย็นของเครื่องดื่ม พร้อมเสิร์ฟแบบแยกไซรัป เหมาะกับนักดื่มชาที่ชื่นชอบกรรมวิธีแบบออร์แกนิก และไม่ชอบรสหวานสักเท่าไหร่  

 

Black Tea & Blueberry (125 บาท)

Info
Hours
Open : 7:30AM - 8:30PM
Mon : 7:30AM - 8:30PM
Tue : 7:30AM - 8:30PM
Wed : 7:30AM - 8:30PM
Thu : 7:30AM - 8:30PM
Fri : 7:30AM - 8:30PM
Sat : 9:30AM - 10:30PM
Sun : 9:30AM - 10:30PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
36/4 ซอยพหลโยธิน 11 ถนนประดิพัทธ์ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS อารีย์ ทางออก 3

Suggest an Edit