Welcome to BLOOM Neighborhood Dining
ชวนมาสัมผัสความหอมกรุ่นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่นละมุนละไมไปกับบ้านหลังใหม่ของ ‘BLOOM BKK’ ที่หลายคนอาจจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟ Soft Pretzel ในรสชาติที่ไม่เหมือนใคร รวมไปถึงกรรมวิธีที่ใส่ใจด้วยการอบสดใหม่ทุกวัน จนทำให้ใคร ๆ ต่างก็ติดอกติดใจกันมานักต่อนัก ครั้งนี้พร้อมเปิดประตูบ้านหลังใหม่ในชื่อ ‘BLOOM DINING’ ให้ทุกคนได้มาสัมผัสความอร่อยของ Soft Pretzel เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยหลากหลายเมนูอาหารที่มีให้เลือกสรรมากยิ่งขึ้น
Homey Vibes, Feel Like Home
ด้วยความที่ทางร้านต้องการอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศอบอุ่นเสมือนมาบ้านเพื่อน ทำให้บ้านหลังใหม่แห่งนี้มาพร้อมบรรยากาศสุดโฮมมี่ ที่ยังคงความคลาสสิกของโครงสร้างบ้านหลังเก่าเอาไว้ ก่อนจะมีการรีโนเวทใหม่ด้วยการล้อมรอบกระจกใส เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาสร้างความอบอุ่นระหว่างวัน ในขณะเดียวกันยังสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายด้วยต้นไม้และการตกแต่งร้านอย่างเรียบง่ายในโทนสีครีมสะอาดตา ตัดกับสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มได้อย่างลงตัว โดยมีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ให้เลือกชิลล์กันได้ตามใจชอบ
Homemade, Fresh-Baked Soft Pretzels
จากความรักและความหลงใหลในการทานเพรทเซลของเจ้าของร้าน นำมาสู่การคิดค้นและครีเอตเพรทเซลรูปแบบใหม่ที่โดดเด่นด้วยรสชาติถูกปากคนไทย มีความหอมกรุ่นและสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน โดยมีหลากหลายรสชาติให้เลือก อาทิ French Butter, Roasted Almond, Salt & Chewy, Queen Cheese, 55% Dark Belgium และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทุกตัวจะมีคาแร็กเตอร์ของรสชาติที่โดดเด่นและแตกต่างกันออกไป
ขอแนะนำเมนูคลาสสิกอย่าง French Butter (60 บาท) เพรทเซลรสชาติคลีน ๆ ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมาก โดยจะได้สัมผัสรสชาติจากเนยฝรั่งเศสและวัตถุดิบพรีเมียมที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอม พร้อมความนุ่มแบบเต็ม ๆ คำ จับคู่ความอร่อยกับ Latte (80 บาท) ลาเต้ร้อนรสสัมผัสเข้มข้นผสมผสานเข้ากับความนุ่มละมุนของนม หรือจะเป็น Hojicha (95 บาท) ชาเขียวโฮจิฉะจากเมืองชิซึโอกะที่ให้กลิ่นหอมแบบเบาบางกำลังดี ก็เป็น Perfect Match ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
มาถึงเมนูสุดพิเศษที่มีเฉพาะสาขานี้อย่าง 41 (90 บาท) ได้แรงบันดาลใจการตั้งชื่อมาจากโลเคชันของร้านที่อยู่ในถนนพระราม 9 ซอย 41 โดยเป็นเพรทเซลที่สอดไส้ด้วยช็อกโกแลตแท้คุณภาพดีจากประเทศเบลเยียม โดดเด่นด้วยรสชาติที่ไม่ขมหรือหวานจนเกินไป ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ผสานเข้ากับความกรุบกรอบของอัลมอนด์ได้อย่างเข้ากัน แนะนำให้ทานคู่กับ Iced Nutella Latte (110 บาท) กาแฟ House Blend คั่วแบบ Medium-Dark Roast รสชาติเข้มข้นผสมกับช็อกโกแลตเฮเซลนัท เสิร์ฟในรูปแบบเย็น เป็นการจับคู่ความอร่อยที่เข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี
Homemade Menus
ทางด้านเมนูอาหาร ที่นี่พร้อมเสิร์ฟเมนูในหลากหลายสไตล์ โดยยังคงความใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี บวกกับกรรมวิธีการทำแบบโฮมเมดในทุก ๆ ขั้นตอน มาถึงแล้วต้องห้ามพลาดลิ้มลองเมนู Bloom Sandwich (220 บาท) เพรทเซลรสชาติ Salt & Chewy ที่มีความหนึบและรสชาติเค็มกำลังดี นำมาสอดไส้ความอร่อยด้วยทรัฟเฟิลครีมซอส ครีมชีส แฮมย่าง และผักต่าง ๆ ทานพร้อมกันได้ความอร่อยที่แสนลงตัว
ตามด้วยเมนู Koreana Salad (220 บาท) สลัดผักสไตล์เกาหลีที่คลุกเคล้าด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน นำมาผสมผสานความอร่อยเข้ากับเบคอนย่าง ช่วยเพิ่มมิติของรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานได้เพลิน ๆ
ใครที่มองหาเมนูอิ่มท้อง แนะนำว่าต้องลอง Sticky Rice & Chicken (150 บาท) ไก่ย่างเตาถ่านที่ผ่านการปรุงด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้สัมผัสถึงกลิ่นหอมของสมุนไพรต่าง ๆ พร้อมรสชาติกลมกล่อมแบบกำลังดี ทานคู่กับข้าวเหนียวที่เพิ่มความพิเศษด้วยการนำไปผัดคลุกเคล้าเข้ากับน้ำจิ้มแจ่วรสชาติจัดจ้าน ไม่ว่าใครทานก็ต้องถูกใจ
ปิดท้ายด้วยเมนู Isn't Pasta (185 บาท) พาสต้าแหนมเนื้อ พิเศษด้วยแหนมเนื้อที่ทางร้านทำเอง โดยผ่านการหมักเป็นเวลากว่า 48 ชั่วโมง ก่อนจะนำมาผัดคลุกเคล้าเข้ากับพาสต้าเส้นเหนียวนุ่ม ปรุงรสด้วยซอสโฮมเมด น้ำมันมะกอก และพริกแห้งเพื่อเพิ่มรสชาติจัดจ้าน เสิร์ฟมาให้ทานพร้อมแหนมเนื้อชุบแป้งทอด ช่วยเสริมความอร่อยได้อย่างเข้ากัน แนะนำให้ทานคู่กับเมนูเครื่องดื่มอย่าง Passion Fruits Tea (90 บาท) ชาอังกฤษกลิ่นหอมพร้อมน้ำเสาวรส ดื่มแล้วเรียกความสดชื่นเป็นอย่างดี
ทางร้านมีให้บริการเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชัน Robinhood, LINE MAN และ GrabFood