Blue is the New Black
Blue Parrot ร้านอาหารสไตล์ทรอปิคอลจากทีมงาน Revolucion Cocktail บาร์ค็อกเทลชื่อดังจากเซี่ยงไฮ้ ตั้งอยู่ในซอยสาทร 10 โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังร้านเปิดเป็นร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ
Sathorn Hideaway
Blue Parrot มาในคอนเซ็ปต์ที่สนุกสนาน รู้สึกถึงบรรยากาศผ่อนคลายและสบาย ๆ มีพื้นที่ทานอาหารและบาร์อยู่ใกล้กัน ถัดออกมาเป็นโซนเด็ก มีของเล่นและโต๊ะไม้เล็ก ๆ สำหรับคุณหนูโดยเฉพาะ ผู้ปกครองสามารถปล่อยให้บุตรหลานวิ่งเล่นในพื้นที่ดังกล่าวได้ตามใจชอบ
Tropical Vibes
ความพิเศษของ Blue Parrot คือเป็นร้านอาหารที่มีสระว่ายน้ำ และสามารถว่ายได้จริง สร้างบรรยากาศเหมือนนั่งพักผ่อนชิล ๆ ในบ้านพักตากอากาศ นอกจากนี้ยังมีเตียงอาบแดด และศาลาหลบร้อนให้ได้เลือกนั่งกันตามสบาย และทุกวันพฤหัสฯ ทางร้านจะจัดงาน 'La French' มีดนตรี อาหาร และเครื่องดื่มสำหรับการสังสรรค์ตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนดึก
French Cuisine with Bangkok Tropic Touch
เมนูที่ร้านส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ฝรั่งเศส ครีเอทโดยเชฟ Nicolas Valanchon ซึ่งคัดสรรเฉพาะเมนูท่ีเข้ากับสภาพอากาศของกรุงเทพฯ และสำหรับอาหารจานเนื้อ เชฟจะทำการปรุงและย่างบริเวณเตาบาร์บีคิวซึ่งตั้งอยู่ริมลานเปตอง ซึ่งส่งกลิ่นหอมชวนหิวไปทั่วร้าน เริ่มรองท้องด้วยอาหารทานเล่นแบบฝรั่งเศส Gaby’s Pork Terrine (280 บาท) เทอร์รีนสูตรคุณยายของเชฟที่ใช้หมูและตับไก่บดผสมกันแล้วนำไปหมักสมุนไพรและบรั่นดีอาร์มายัคค้างคืน จากนั้นนำไปทำให้สุกและแช่เย็นหลายวันจนได้เทอร์รีนเนื้อเนียนรสกลมกล่อม ทานคู่กับซอสบีทรูทและดอกกะหล่ำ หรือจะนำไปทาขนมปังก็ได้เช่นกัน
อีกหนึ่งเมนูทานเล่นรองท้อง ลองสั่ง Seabass Carpaccio (230 บาท) ปลากระพงขาวแล่บางหมักซอสโหระพา มะกรูด และมะนาว เพิ่มรสเปรี้ยวหวานจากธรรมชาติด้วยมะม่วงดิบและมะม่วงสุกด้วยความที่กรุงเทพฯ มีอากาศร้อน เชฟนิโคลัสเลือกที่จะครีเอทเมนูซุปเย็นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ Zucchini Soup & Broccoli Tartine (180 บาท) ซุปเย็นที่เสิร์ฟในชามที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งเพื่อให้ตัวซุปมีความเย็นคงที่เสมอ ซุปตัวนี้เป็นซุปข้นที่ใส่เนื้อซุกกีนี่พร้อมกับโหระพา โรยหน้าด้วยน้ำมันมะกอก มาพร้อมขนมปังทาครีมชีสและบร็อคโคลี่ต่อกันที่อาหารจานหลักอย่างอาหารทะเล Grilled Grouper Vierge (270 บาท) สเต๊กปลาเก๋าจี่เตาเหล็กร้อน ๆ ทานคู่กับ Vierge Sauce ที่ทำจากมะเขือเทศ มะกอกดำ โหระพา และน้ำมันมะกอก แนะนำให้สั่ง Veggies (90 บาท) ผักรวมมิตรสไลซ์เส้นยาวผัดเนยต้นหอม ตัดกับรสชาติจากปลาได้ดี
มาถึงของหวานกันบ้าง ที่ไม่ควรพลาด คือ Tropical Sin (150 บาท) เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเข้มข้นของผลไม้ เพราะเชฟนำสับปะรด กล้วย และมะม่วงไปเคลือบน้ำตาลไหม้ร้อน ๆ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับไอศกรีมวานิลลาและครัมเบิลมะพร้าวที่เสิร์ฟมาคู่กัน
สำหรับค็อกเทล จะเน้นเมนูคลาสสิกเป็นหลัก แต่ก็มีซิกเนเจอร์ดริ๊งก์ให้ได้ลองจิบเช่นกัน โดยเครื่องดื่มบางตัวจะนำมาจาก Revolucion Cocktail เครื่องดื่มที่อยากให้ลอง คือ Parrot (290 บาท) ซิกเนเจอร์ประจำร้าน เป็นเครื่องดื่มที่เบสด้วยเหล้ารัม แต่ให้รสชาติที่ไม่เข้มเกินไป โดยผสมน้ำผลไม้หลายชนิดเพื่อให้สัมผัสถึงบรรยากาศทรอปิคอล
