Art & Cuisine
Jim Thompson แบรนด์ผ้าไหมไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก เปิดตัว Bombyx ร้านอาหารและบาร์แห่งที่ 5 ซึ่งมาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่ต้องการผสมผสานไลฟ์สไตล์การกินดื่มอย่างมีระดับเข้ากับศิลปะ
Inspired By Bombyx Mori
ตัวร้านตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น M ภายในร้านค่อนข้างมืด ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าและลายเส้นต่าง ๆ โดยมาในแนวคิด Art & Cuisine ตั้งใจออกแบบร้านให้เป็นเหมือน Black Box ที่สามารถปรับเปลี่ยนธีมร้านได้ ผสมผสานระหว่างพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่เชื่อมโยง Jim Thompson ให้เข้ากับความเป็นร้านอาหารได้อย่างลงตัว
Jim Thompson และทีมออกแบบได้ต่อยอดผลงานสร้างสรรค์เป็นลวดลายบนผ้าพันคอ และนำเอาลายเส้นมาเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการตกแต่งร้านและลวดลายของเฟอร์นิเจอร์ ชื่อร้านนี้ได้มาจากชื่อวิทยาศาสตร์ของผีเสื้อไหม (Bombyx mori) สะท้อนภาพวงจรชีวิตที่หมุนไปอย่างไม่หยุดยั้ง เช่นเดียวกับตัวร้านอาหารที่ตั้งใจให้เป็นพื้นที่หมุนเวียนแสดงงานศิลปะของศิลปินไทยอย่างต่อเนื่อง
Thai Contemporary Cuisine
ทางร้านได้คุณพงษ์ศักดิ์ มิขุนทอง มาเป็นเชฟใหญ่ โดยได้นำทักษะทางด้านอาหารมาครีเอทเมนูรูปแบบ Innovative Thai Cuisine ที่ยังคงรสชาติจัดจ้านแบบไทย ๆ โดยมีการใช้เทคนิคการปรุงอาหารและนำเสนออาหารทุกจานให้มีความเป็นศิลปะและดูแปลกตา เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อย สะเต๊ะรวมกับยำแตงกวาญี่ปุ่น (240 บาท) เสิร์ฟสะเต๊ะพร้อมยำแตงกวาญี่ปุ่นในน้ำอาจาดสูตรพิเศษที่ทานได้เพลินทั้งสะเต๊ะและยำแตงกวา ตกแต่งจานด้วยกลีบดอกไม้ที่สามารถทานได้
ถัดมาเป็น เมี่ยงทูน่ากระทงทอง (260 บาท) กระทงทองกรุบกรอบ ด้านในเป็นปลาทูน่าสดพร้อมด้วยเครื่องเคียงเมี่ยงคำ เป็นการรวมตัวที่เข้ากันได้อย่างดีระหว่างความกรอบของแผ่นแป้ง ความหอมหวานจากสมุนไพรและซอสเมี่ยงคำ และความนุ่มของเนื้อปลา
แนะนำให้ลองอาหารไทยที่หาทานยากอย่าง แกงปูใบชะคราม (380 บาท) ที่ใช้ผักพื้นบ้านของภาคตะวันออกอย่างชะอม และชะครามที่ขึ้นตามป่าชายเลน ปรุงรสด้วยพริกแกงที่ทางร้านคั่วเอง โดยเน้นพริกไทยเพื่อให้รสเผ็ดร้อน ตามด้วยเนื้อปูม้าอันดามัน รสแกงเข้มข้นและจัดจ้านแบบไทย ๆ
Desserts To Share
สำหรับขนมหวานของที่นี่ จะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ สามารถแบ่งทานได้ 2 - 3 คน ทางร้านแนะนำ Lemon Cream Tart with Raspberry and Kaffir Lime (250 บาท) ทาร์ตเลมอนรสกลมกล่อม ท็อปด้วยครีมชีสมะนาวที่ผสมกลิ่นหอมจากมะกรูดและเรดเคอร์แรนท์ ทานคู่ไอศกรีมวานิลลาและครัมเบิล
Time For Drinks
นอกจากอาหารแล้ว ที่นี่ยังเน้นโซนบาร์ค็อกเทลสำหรับต้อนรับทุกคนมานั่งดริงก์กันหลังเลิกงาน สำหรับหนุ่ม ๆ ลองสั่ง Booth Bombastic (280 บาท) ดาร์กรัมและเบอร์เบินรสเข้ม ผสมน้ำสับปะรดและน้ำมะนาว เสิร์ฟพร้อมกับแกนสับปะรดโรยน้ำตาลทรายแดงที่นำไปเบิร์นไฟเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอม แนะนำให้ดื่มค็อกเทลสลับกับชิมรสชาติหวาน ๆ จากสับปะรด
สำหรับสาว ๆ ลองสั่ง Cocoon (280 บาท) เครื่องดื่มสีชมพูอ่อนรสชาติเปรี้ยวซ่า เบสด้วยเหล้าจิน ผสมน้ำแตงโมและโรสเลมอนเนด ตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมอบอวล