Published on December 28, 2018

Turn Back to Good Old Time

บรรดาย่านเมืองเก่าที่น่าหลงใหลหลายแห่งในกรุงเทพฯ กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผ่านแนวคิดการอนุรักษ์บ้านเรือนและรีโนเวทอาคารเก่าแก่ให้เข้ากับยุคสมัยกันมากขึ้น โดยยังคงความคลาสสิกเอาไว้เช่นเดิม หนึ่งในนั้นคือ Buddha & Pals คาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวโบราณย่านนางเลิ้ง อายุกว่า 80 ปี พร้อมพาคุณไปเปลี่ยนบรรยากาศให้ได้ร่วมย้อนเวลาไปกับตึกแถวอันทรงคุณค่าทันทีที่เปิดประตูเข้าไป

 

บริเวณด้านหน้าอาคารเก่าหลังงาม

Buddha & Pals คือสถานที่แห่งความสุขกับเพื่อนฝูง เพราะคำว่า Buddha สื่อถึงความสงบในย่านเมืองเก่าที่ใกล้วัดวาอาราม ส่วนคำว่า Pals เป็นตัวแทนของเพื่อนฝูงและความสนุกสนานครึกครื้นของที่นี่ กลายเป็น Community แห่งใหม่สำหรับพบปะเพื่อน ๆ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถค้นพบความสงบภายในพื้นที่แห่งนี้ได้ด้วย เหมาะสำหรับใครที่อยากแวะมาผ่อนคลาย ซึบซับวิถีชีวิตของผู้คนละแวกนี้
 

แชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ แขวนโดดเด่นอยู่กลางร้าน

มนต์เสน่ห์ของตึกแถวโบราณอายุกว่า 80 ปีแห่งนี้ ถูกถ่ายทอดผ่านประวัติและเรื่องเล่าที่น่าสนใจของผู้เป็นเจ้าของจากรุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่ 'ท่านหลวงสิทธื์ โยธารักษ์' หมอยาที่มีชื่อเสียงในอดีต ผู้คิดค้นต้นกำเนิด 'ยาประสระนอแรด หรือ น้ำมันมวย' ที่หลายคนอาจคุ้นหูหรือรู้จักกันเป็นดี เพราะที่นี่เคยเป็นโรงงานผลิตน้ำมันมวยมาก่อน ซึ่งต่อมาอาคารหลังนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนกิจการไปหลายรูปแบบ ทั้งร้านสูท ร้านเครื่องประดับ จนกระทั่งเมื่อมีโอกาสดี ทายาทของโรงงานน้ำมันมวยรุ่นที่ 4 และ คุณแมค - ภีระสิทธิ์ สีมูลเสถียร จึงสานต่อการอนุรักษ์อาคารนี้ด้วยการรีโนเวทอาคารเก่าแก่ที่เจ้าของได้สิทธิ์ทำการค้าจากสำนักทรัพย์สินฯ มากว่าร้อยปีให้กลายเป็นโฮสเทล Kanvela House และร้านกาแฟ Buddha & Pals ในปัจจุบัน 

 

มุมที่นั่งเป็นส่วนตัว

 

Buddha & Pals

ใช้เวลา 2 ปีกว่าในการรีโนเวทอาคารหลังเก่านี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หากใครกำลังคิดว่าอาคารเก่าจะต้องคับแคบและอึดอัด อาจผิดคาด เพราะที่นี่ถูกรีโนเวทกำแพงให้มีพื้นที่ขยายต่อกันเป็นห้องกว้าง พร้อมทั้งรื้อฝ้าเก่าออกให้เหลือเพียงพื้นไม้ชั้น 2 เพื่อช่วยให้เพดานดูสูงขึ้น บรรยากาศโปร่งโล่ง รู้สึกเย็นสบายทันทีที่เข้ามาภายในร้าน

 

กำแพงสูงถูกรีโนเวท ขยายพื้นที่ต่อกันเป็นห้องกว้าง

 

กระจกใสที่มองออกไปเห็นถนนสายเก่า

Spend Your Time with Heritage Place

พื้นที่บางส่วนยังเพิ่มกิมมิกด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ภายในร้าน และเจาะพื้นของชั้น 2 เพื่อให้ต้นไม้โตขึ้นเรื่อยไปตามธรรมชาติ มีกระจกใสบานใหญ่หน้าร้าน สะท้อนแสงไฟจากแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ที่แขวนโดดเด่นอยู่กลางร้าน และสไตล์การตกแต่งแบบ Rustic ที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Vintage แต่ละชิ้นแบบผสมผสานกันได้อย่างลงตัว 

 

บริเวณชั้นสองของโฮสเทล ชานบ้านสมัยก่อนที่มีลมเย็น ๆ พัดผ่านตลอดเวลา

Delicious Dishes & Signature Drinks

นอกจากเรื่องบรรยากาศแสนคลาสสิกที่พร้อมให้นั่งชิลล์กันได้ยาว ๆ แล้ว ทางด้านเมนูอาหารที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลาย Signature Menu สุดพิเศษไว้พร้อมบริการกันทั้งเครื่องดื่ม ขนมและอาหาร 

 

หลากหลายเมนู Open Sandwich

ตอนนี้ทางร้านมี Brunch พร้อมเสิร์ฟกันตั้งแต่ช่วงสาย ๆ ยาวไปถึงบ่าย แถมเมนูยังหลากหลาย เลือกชิมกันได้อย่างจุใจ แนะนำเมนูสำหรับคนรักสุขภาพกันก่อนในจานของ Quinoa & Vegetable Power Bowl (350 บาท) ควินัวที่มาพร้อมผักหลากหลายชนิด ทั้ง Brussel Sprout ฟักทอง, Paprika, Kale และอะโวคาโด อิ่มท้องกันแบบไม่รู้สึกผิด

 

Quinoa & Vegetable Power Bowl (350 บาท)

หรือจะเป็นเมนูแบบ Open Sandwich อย่าง Crab Cobb (480 บาท) ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมากับส่วนประกอบสุดพรีเมียมที่เข้ากันอย่างลงตัวของเนื้อปูแบบเต็มคำที่เคล้ามากับ Mayo Salad หรือจะเป็น Grilled Prawn with Guacamole (380 บาท) 
ก็มาพร้อมกุ้งย่างตัวโต เพิ่มรสชาติด้วย Avocado Guacamole มะเขือเทศและมะนาว เพิ่มความสดชื่นได้เป็นย่างดี

 

Crab Cobb (480 บาท)

 

Grilled Prawn with Guacamole (380 บาท)

ส่วนใครชอบทานปลา ต้องไม่พลาดชิม Velvet Eggs & Fish (380 บาท) ที่เสิร์ฟ Seared Seabass หรือปลากะพงย่างมาเคียงมากับ Velvet Scramble Eggs นุ่มละมุน ทานคู่ไปกับ Sautéed Spinach โดยเมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับ Green Goddess (175 บาท) น้ำผักสกัดเย็นที่มีส่วนประกอบของ Cucumber, Celery, Green Apple, Pare, Kale, Guava, Young Spinach, และ Indian Pennywort ได้รสธรรมชาติและยังช่วยดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี
 

Velvet Eggs & Fish (380 บาท) และ Green Goddess (175 บาท)

ส่วนเครื่องดื่มอีกแก้วที่ทางร้านแนะนำคือ Cold Brew Negroni (320 บาท) กาแฟ Cold Brew ที่ทางร้านนำมา infuse กับ Campari, Gin และ Sweet Vermouth และเพิ่มความสดชื่นด้วย Orange Twist

 

Cold Brew Negroni (320 บาท)

หรือจะเป็น Espresso Martini (320 บาท) ค็อกเทลที่มาพร้อมส่วนผสมของ Vodka และ Kahlua ท็อปด้วยเอสเพรสโซช็อต ก็ได้สัมผัสแปลกใหม่ เอาใจคนรักค็อกเทลได้ดีไม่แพ้กัน

 

Espresso Martini (320 บาท)

นอกจากนี้ช่วงค่ำถึงดึกยังมีแจ๊สบาร์ ที่ถือเป็นอีก Signature ของทางร้าน พร้อมให้คุณได้จิบค็อกเทลเก๋ ๆ ฟังเพลงเพราะ ๆ จากนักดนตรีทั้งชาวไทยและต่างชาติกันทุกวันอังคาร - วันอาทิตย์เหมือนเดิม

Info
Hours
Today : Closed
Mon : Closed
Tue : 10AM - 7PM
Wed : 10AM - 7PM
Thu : 10AM - 7PM
Fri : 10AM - 7PM
Sat : 10AM - 7PM
Sun : 10AM - 7PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน

Address
ถนนกรุงเกษม (ใกล้วัดโสมนัสราชวรวิหาร) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT หัวลำโพง

BTS ราชเทวี

Facilities
Suggest an Edit