Korean-Style Dessert Cafe
หากใครได้แวะเวียนมายังย่านอุดมสุข ต้องลองแวะมาปักหมุดที่ Cafe.hoo คาเฟ่ขนมหวานสัญชาติเกาหลี ที่ต้อนรับทุกคนด้วยความอบอุ่นแบบเป็นกันเอง ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยการตกแต่งแบบ Minimal Style อันเต็มไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของหลากหลายเมนูเบเกอรี่และมาการองสูตรโฮมเมดที่พร้อมให้ทุกคนได้มาอิ่มอร่อยตลอดวัน
Feels Like Home
จากความตั้งใจของหญิงสาวเจ้าของร้านชาวเกาหลีที่รักในการทำอาหารและขนมหวานให้ลูกทาน นำมาสู่จุดเริ่มต้นดี ๆ ของการเปิดคาเฟ่สีขาวแห่งนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เปรียบเสมือนบ้านอีกหลัง พร้อมครีเอททุกเมนูอาหารและขนมหวานด้วยความใส่ใจให้ลูกค้าเหมือนกับการทำอาหารให้ครอบครัวทาน โดยใช้ชื่อ Cafe.hoo ที่มาจากชื่อ ‘จินฮู’ ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวเธอนั่นเอง
บรรยากาศของทางร้านได้ถูกออกแบบและตกแต่งบนความเรียบง่าย มาพร้อมกลิ่นอายของความเป็น Minimal Style ในธีมสีขาวสบายตา อีกทั้งยังเติมเต็มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อนที่เข้ากันกับตัวร้านได้อย่างกลมกลืน บวกกับกระจกใสบานใหญ่หน้าร้านที่พร้อมเปิดรับแสงแดดอ่อน ๆ เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นตลอดวัน โดยจะสัมผัสได้ถึงความสบาย ๆ ที่มาพร้อมความอบอุ่นเหมือนบ้านตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน
Original Korean Taste
สำหรับความพิเศษของเมนูอาหารและขนมหวานของทางร้าน จะเน้นกรรมวิธีการทำแบบสูตรต้นตำรับของเกาหลีโดยเฉพาะ ทำให้ได้รสชาติในแบบที่ไม่เหมือนใคร เริ่มต้นความอร่อยกันที่เมนูขึ้นชื่อของทางร้านอย่าง Macaron (60 บาท) มาการองสูตรโฮมเมดแสนอร่อย ที่โดดเด่นด้วยความหอม มีหลากหลายรสชาติที่ถูกครีเอทขึ้นแบบสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยใส่ใจในกรรมวิธีการอบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่กลมกล่อม หอมหวานละมุน พร้อมด้วยเนื้อสัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มใน เหมาะกับการทานคู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรดที่มาช่วยผสานความอร่อยได้อย่างลงตัว
สำหรับเมนูเครื่องดื่มแก้วพิเศษ แนะนำ Einspenner (90 บาท) ที่ผสานรสชาติความอร่อยด้วยส่วนผสมของกาแฟอเมริกาโน่แบบเข้มข้น โดยถูกแบ่งเลเยอร์มากับวิปครีมเนียนนุ่ม ให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนและหอมหวานจากวิปครีมตั้งแต่เริ่มดื่ม ตามด้วยรสขมของกาแฟที่ผสมผสานรสชาติออกมาได้อย่างเข้ากัน
ต่อกันที่ Jolly Pong Latte (120 บาท) เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของข้าวพอง ซึ่งเป็นสูตรที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยใช้ข้าวพองนำเข้าจากเกาหลีนำมาปั่นให้เข้ากันกับนมสด แล้วท็อปด้วยข้าวพองแบบกรุบกรอบ ที่มอบกลิ่นหอมละมุนของข้าวพองพร้อมรสชาติกลมกล่อม หวานกำลังดีจากนมสด
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ ต้องลอง Strawberry Latte (100 บาท) นมสตรอเบอร์รีสไตล์เกาหลี ซึ่งมีความพิเศษอยู่ที่ซอสสตรอเบอร์รีสูตรโฮมเมดที่ทางร้านทำเองโดยเฉพาะ จากนั้นนำมาผสมผสานรสชาติหวานมันด้วยนมสด ทำให้เวลาที่ทานจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมพร้อมเนื้อสัมผัสของสตรอเบอร์รีแสนอร่อย
จากนั้นมาเติมความสดชื่นด้วยเมนูเครื่องดื่มอย่าง Lemon Tea (80 บาท) เมนูกาแฟดำผสมน้ำผลไม้อย่างเลมอน โดยให้รสเข้มข้นและความขมนิด ๆ ของกาแฟ ตัดกับรสชาติเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมของเลมอน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะกับการสร้างความสดชื่นในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
นอกจากเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มแล้ว อีกหนึ่งเมนูพิเศษที่พลาดไม่ได้ ต้องลอง Kimchi Fried Rice (150 บาท) เมนูข้าวผัดกิมจิที่เรียกว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อจากทางเกาหลี โดดเด่นด้วยกิมจิที่ทางร้านทำเองแบบสูตรออริจินัล นำมาผัดคลุกเคล้าด้วยแฮม พร้อมเสิร์ฟมาคู่กับไข่ดาว ให้รสชาติกลมกล่อมและเผ็ดนิด ๆ ของกิมจิในแบบที่ไม่เหมือนใคร บวกกับความหอมกรุ่นของข้าวเกาหลีที่นุ่มละมุนแบบเต็มคำ