Classy & Comfortable Dining Experience
ถ้าใครกำลังมองหาห้องอาหารบรรยากาศเป็นส่วนตัวสำหรับดินเนอร์กับคนพิเศษ แนะนำให้ลองมาชิมคอร์สอาหารแบบพรีเมียมที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพ ปรุงโดยเชฟมากประสบการณ์ แต่อยู่ในราคาที่เอื้อมถึง อีกทั้งยังสามารถเลือกเมนูภายในคอร์สเองได้ตามชอบที่ห้องอาหาร Café@2 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
Café@2 เป็นห้องอาหารบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลา 15 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simplicity is Tasteful หรือแปลง่าย ๆ ได้ว่า 'ความเรียบง่ายที่มีรสชาติดีที่สุด' เน้นเสิร์ฟเมนูอาหารที่มีความเรียบง่ายแต่ได้รสชาติอร่อยนั่นเอง โดยที่นี่เปิดให้บริการในลักษณะของ All Day Dining พรั่งพร้อมด้วยเมนูอาหารหลากหลายรูปแบบที่หมุนเวียนกันไป แต่ให้บริการตลอดทั้งวัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ได้แก่ Breakfast บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่เปิดให้บริการในช่วงเช้า, Lunch เมนูแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่เปิดให้บริการในช่วงกลางวัน และ Dinner ที่เสิร์ฟอาหารแบบเป็นคอร์ส
ในส่วนของเมนูที่ทางห้องอาหารภูมิใจนำเสนอคือ 3 Course Menu (1,200++ บาท) คอร์สอาหารสำหรับ Dinner ที่เสิร์ฟอาหารตะวันตก ในสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งเน้นการปรุงให้น้อยเพื่อถ่ายทอดรสชาติของวัตถุดิบคุณภาพแต่ละชนิดออกมาให้มากที่สุด รังสรรค์ทุกจานด้วยเทคนิคเฉพาะที่มากด้วยประสบการณ์ของเชฟแอชลีย์ โคลแมน เชฟใหญ่ของที่นี่ ทำให้แต่ละจานมีความพิเศษ ประณีตงดงามราวกับงานศิลปะ ให้เหล่านักชิมทั้งหลายได้เสพความสวยงามก่อนลิ้มลอง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและอรรถรสตลอดการทานอาหารมื้อพิเศษนี้ในทุก ๆ คำ
Create Your Own Course
อีกหนึ่งความพิเศษของอาหารคอร์สนี้ คือผู้ทานมาสามารถเลือกเมนูโปรดภายในคอร์สได้เองทั้งหมด นับตั้งแต่ Appetizer จานเรียกน้ำย่อย, Main Dish จานหลัก และ Dessert เมนูขนมหวาน หรือหากใครอยากจะ Pairing อาหารคู่กับไวน์ล่ะก็ แต่ละเมนูอาหารก็มีลิสต์ของไวน์ให้ได้เลือกจับคู่กัน เพื่อมาเสริมรสชาติของอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่เมนูต่าง ๆ จะถูกเสิร์ฟมาในคอร์สให้ลิ้มลองนั้น Café@2 ก็มีเซตของขนมปังสี่ชนิดอบร้อนหอมกรุ่น ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับ Rosemary Butter, Feta Cheese, มะเขือเทศบด และมะกอกดองมาให้ได้ทานรองท้องก่อนอีกด้วย
Good Start
สำหรับเมนู Appetizer แนะนำเป็น New Zealand Ora King salmon and wild halibut carpaccio rolled with herbs ปลาฮาริบัทและปลาแซลมอนนิวซีแลนด์ห่อเครื่องเทศและซอสฮอสเรดิช เสิร์ฟกับแตงกวาดอง แต่งจานด้วยดอกแตงกวา ส่วนใครไม่ทานเนื้อที่นี่มี Roasted baby beets, marinated Hua Hin buffalo milk feta cheese หรือ สลัดเฟต้าชีส บีทรูท ราดน้ำสลัดรีดิวส์บัลซามิก ออกรสเปรี้ยวช่วยเรียกความสดชื่น และสุดท้ายเป็นเมนูซุปที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของท้องทะเลอย่าง Aromatic seafood broth with Chiang Mai tomatoes หรือซุปทะเลที่เสิร์ฟมากับมะเขือเทศเชียงใหม่ พริกฝรั่งและใบมะกรูด
ส่วนจานหลักหรือ Main Dish แนะนำเนื้อสเต๊กริบอายชุ่มฉ่ำ ที่มีชื่อว่า US Iowa corn fed black Angus prime rib eye chestnut mushroom cream เสิร์ฟแบบ Medium Rare เอาใจคนรักเนื้อให้ได้ลิ้มลองรสสัมผัสนุ่ม ๆ ของเนื้อส่วนริบอายที่ฉ่ำไปด้วยซอสครีมเห็ด เฮเซลนัท มันฝรั่งคริฟเฟอร์ผัดและซอสไวน์แดง
หรือจะเป็นเมนู Boston lobster and black cod set with slow dried cherry tomatoes บอสตันล็อบสเตอร์ ที่เสิร์ฟเคียงมากับหน่อไม้ฝรั่งและมะเขือเทศเชอร์รีจากเชียงใหม่ราดซอสรสเข้มข้น จานนี้โดดเด่นด้วยล็อบสเตอร์เนื้อแน่น ๆ ที่เสิร์ฟมาคู่กับเนื้อปลาค็อตชิ้นโต และมะเขือเทศย่างหอม ๆ จากเชียงใหม่ที่ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ ส่วนเมนูสุดท้ายคือ Hand rolled truffle tortellini filled with a wild mushroom duxelle เกี๊ยวอิตาเลียนเห็ดดำ สอดไส้เห็ด อาร์ติโช้ค แครอท และถั่วลันเตา เสิร์ฟมากับผักนานาชนิด พร้อมซอสเนยและเครื่องเทศ
Sweet Ending
ปิดท้ายด้วย Dessert เมนูของหวานที่มีให้เลือกหลายอย่างตามความชอบ ลองสั่ง Lavender cream set in a sweet shortcrust tartlet ทาร์ตลาเวนเดอร์ แต่งด้วยลาเวนเดอร์เมอร์แรงก์ และดอกไม้ทานได้ เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานน่ารัก ๆ ที่ทานปิดท้ายเพื่อล้างรสชาติอาหารคาวได้ดี
ใครชอบทานเมนูคลาสสิกอาจจะลองสั่ง Tahitian vanilla Crème brûlée คลาสสิกเครมบูเล่ เสิร์ฟพร้อมผลไม้สดตามฤดูกาล และไอศครีมวานิลลา เมนูขายดีของห้องอาหาร Café@2 มาละเลียดเนื้อเครมบูเล่เนียนนุ่ม รสหวานละมุน ทานแบบเพลิน ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่สำหรับ Chocolate Lover แล้วต้องไม่พลาด Valrhona Chocolate ช็อกโกแลตมูสเนื้อเนียน รสชาติไม่หวานจัด เสิร์ฟมาพร้อมกับแผ่นช็อกโกแลตมินต์และไอศกรีมช็อกโกแลตชิพ ทานคู่กันได้รสชาติแสนพิเศษปิดท้ายมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี