บางครั้งแค่ได้จิบเครื่องดื่มดี ๆ คลอเคล้าไปกับเสียงดนตรี ก็ช่วยเติมเต็มโมเมนต์ดี ๆ ให้เราได้ สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ผ่อนคลาย จิบเครื่องดื่มสักแก้วที่ถูกใจ ไปพร้อมกับการดื่มด่ำเสียงเพลง ต้องลองแวะมาที่ Cannabis Culture Club ไวนิลบาร์สุดเท่ของหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่หลงใหลในวัฒนธรรมแผ่นเสียง ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ความเป็น Listening Bar ดื่มด่ำเสียงเพลงจากไวนิลสไตล์ Jazzy Groove ช้า ๆ และจิบเครื่องดื่มไปพร้อม ๆ กัน
Comfortable Mood
บรรยากาศของทางร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายจากการตกแต่งด้วยวัสดุไม้ ทันทีที่เข้าไปก็ชวนสะดุดตาด้วยมุมที่นั่งวงกลมดีไซน์สวยกลางร้าน ส่วนด้านข้างเป็นมุมเคาน์เตอร์บาร์ที่มี Organic Cannabis ให้เลือกสรร ในขณะเดียวกันก็จะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงสุดคลาสสิก นอกจากนี้ยังมีโซนเสื้อผ้าสุดชิคและแผ่นไวนิลมากมายให้ได้เลือกช้อปกัน
จากนั้นเข้ามาถึงโซน Listening Bar ก็ยังคงอบอวลไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นด้วยมู้ดแอนด์โทนร้านสีขาวสบายตา ผสมผสานเข้ากับวัสดุไม้ พร้อมเปิดรับแสงด้วยกระจกใส ยิ่งช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูผ่อนคลาย เหมาะสำหรับเข้ามาจิบเครื่องดื่มในวันสบาย ๆ คลอเคล้าไปกับเสียงเพลงไวนิลยุคเก่าแบบเพลิน ๆ
Craft Drinks and Japanese Desserts
ทางด้านเมนูของทางร้าน มีความน่าสนใจด้วยการเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลที่เน้นส่วนผสมของวัตถุดิบไทย ให้ Pairing คู่กับขนมหวานที่ครีเอตอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งยังมี Custom Premium Cocktails ไม่ว่าคุณอยากดื่มอะไร ก็สามารถให้บาร์เทนเดอร์ครีเอตเป็นเมนูส่วนตัวของคุณเองได้ ควบคู่กับการฟังเพลงจากไวนิล ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย!
สำหรับเมนูแรก ขอแนะนำ Espresso Matini (380 บาท) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของกาแฟเอสเพรสโซ นำมาผสมผสานรสชาติด้วย Vodka และ Coffee Liqueur หรือเหล้าหวานกลิ่นกาแฟ ออกมาเป็นรสชาติเข้มข้น แต่ก็สอดแทรกความหอมละมุนของกาแฟได้แบบลงตัว จับคู่กับ Warabi Mochi (170 บาท) ขนมที่ชาวญี่ปุ่นมักนิยมทานกันในฤดูร้อน มีส่วนผสมของแป้งจากต้นวาราบิเหนียวนุ่ม โรยด้วยผงคินาโกะหอมหวาน ก่อนทานแนะนำให้ราดด้วยน้ำตาล Brown Sugar ยิ่งช่วยเสริมความอร่อยได้มากยิ่งขึ้น (Set ราคา 500 บาท)
ตามด้วยเมนูเครื่องดื่มสุดสดชื่นอย่าง Watermelon Mezcal Margarita (450 บาท) มาร์การิต้าที่มีส่วนผสมของ Mezcal ผสานรสชาติเข้ากับน้ำแตงโมสกัดเย็นหอมหวาน แนะนำให้ทานคู่กับ Sakura Mochi (80 บาท) ขนมประจำฤดูใบไม้ผลิของชาวญี่ปุ่น ที่ประกอบไปด้วยแป้งข้าวเหนียวสีชมพูสอดไส้ด้วยถั่วแดงกวน ก่อนจะห่อด้วยใบซากุระดองเกลือด้านนอก ออกมาเป็นรสชาติหอมหวานจากโมจิและถั่วแดงกวน ตัดกับรสเค็มนิด ๆ จากใบซากุระดองที่เข้ากันได้แบบพอดี (Set ราคา 500 บาท)
ปิดท้ายวันสบาย ๆ ด้วยการมาผ่อนคลายกับเมนู Organic Unique Tea (250 บาท) ชาร้อนสุด Unique ที่ไม่เหมือนใคร เพราะทางร้านได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวเหนียวมะม่วงของไทย มีส่วนผสมของกัญชาออร์แกนิก ที่เบลนด์ระหว่างมะม่วง มะพร้าว และใบเตย เข้าด้วยกัน ให้สัมผัสได้ถึงความละมุน กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์และกลิ่นหอมแบบชัดเจนของตัวชา เหมาะสำหรับจิบช้า ๆ เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายและผ่อนคลายใจได้เป็นอย่างดี