Like a Canvas
Canvas ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งในย่านทองหล่อ การันตีด้วยดาวมิชลิน 1ดวง พร้อมต้อนรับเหล่าฟู้ดดี้และผู้ที่สนใจเปิดประสบการณ์ทานอาหารสไตล์ที่แตกต่างจากฝีมือเชฟ Riley Sanders เชฟใหญ่ผู้สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารและเทคนิคต่าง ๆ จากการตระเวนไปเรียนรู้กับเชฟมิชลินชื่อดังและเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกเพื่อค้นหารสชาติและวัตถุดิบใหม่ ๆ มาสรรค์สร้างเป็นอาหารจานพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
Classic Scandinavian & New York Style With Chef Table
บรรยากาศด้านในให้ความผสมผสานระหว่างการตกแต่งแบบสแกนดิเนเวียนกับนิวยอร์ก โซฟาบุหนัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้รูปทรงคลาสสิก นอกจากนี้ยังมี Chef Table ที่หันหน้าเข้าครัวเปิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมฝีไม้ลายมือของเหล่าเชฟและที่มาของอาหารแต่ละจาน ซึ่งบริเวณโต๊ะด้านหน้าครัวเปิดจะเป็นเป็นไดน์นิ่งโซนสำหรับเทสติ้งเมนู
The Bar Upstair
หากมาเป็นกลุ่มใหญ่ลองขึ้นไปยังชั้น 2 ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่า อีกทั้งมีโซนบาร์ที่ชวนให้คิดถึงบรรยากาศของบาร์ยุคเก่า ๆ ซึ่งบาร์แห่งนี้ได้ทีมงานจาก Rabbit Hole มาเป็นผู้ดูและและครีเอทค็อกเทลเมนูใหม่ให้เข้ากับธีมของ Canvas
The Creative Visionary Chef
อาหารที่นี่ ครีเอตโดยเชฟ Riley Sanders ชาวเท็กซัส ผู้มากประสบการณ์จากการท่องเที่ยวเที่ยวโลกเพื่อค้นหารสชาติใหม่ ๆ และชิมอาหารทุกประเภทตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงอาหารฝีมือเชฟมิชลินชื่อดังทั่วโลก รวมถึงประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารมิชลิน จนถึงการเป็นเชฟส่วนตัวบนเรือยอร์ช จนกระทั่งได้มาทำตามความฝันของตัวเองที่จะลงหลักปักฐานทำโปรเจกต์ Canvas เมื่อปี 2016
Bold, colorful, stimulating, and progressive.
สำหรับอาหารของที่นี่ จะเสิร์ฟเป็น Tasting menu ทั้งหมด 22 คอร์ส โดยเน้นใช้วัตถุดิบในประเทศเกือบทั้งหมด โดยเชฟได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารหลากหลายประเภทและหลากหลายสัญชาติ ซึ่งยากจะจำกัดความเอาไว้ได้ และยังเลือกที่จะนำแต่ละเมนูในเชิงศิลปะที่แฝงไปด้วยเรื่องราวและเสน่ห์ของความเป็นกรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว โดยวัตถุดิบและส่วนผสมเป็นสิ่งที่หาได้ตามท้องถิ่น แต่นำมามิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อให้เกิดความแตกต่าง ทุกจานล้วนได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันและเป็นรสชาติที่แปลกใหม่
ใครที่ต้องการมาที่เปิดประสบการณ์ลิ้มลองอาหารแบบแปลกใหม่ สามารถจองโต๊ะล่วงหน้าได้เลย โดยทางร้าน จะเสิร์ฟ 22 Course Menus (6,000 บาท++) เท่านั้น และสามารถเพิ่มไวน์แพริ่งได้เช่นกัน ก่อนเริ่มมื้อทางร้านจะนำหนังสือเล่มเล็กที่เต็มไปด้วยภาพศิลปะและชื่อเมนู ซึ่งใช้แทนคำบรรยายแต่ละเมนูนั่นเอง โดยจะปรับเปลี่ยนเมนูไปตามฤดูกาล สามารถสอบถามร้านเพิ่มเติมได้เลย