River View and Chill Vibes
‘จางวาง’ ชื่อแปลกหูที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นชินมากนัก เพราะเป็นคำโบราณที่ใช้เรียกชื่อตำแหน่งข้าราชการชั้นสูงในกรมมหาดเล็กในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำหน้าที่กำกับดูแลทหารมหาดเล็ก รวมทั้งเรื่องส่วนพระองค์ในกรมพระบรมมหาราชวังและวังเจ้านาย ก่อนจะถูกยกเลิกไป 70 กว่าปีที่แล้วและเลือนหายไปตามกาลเวลา จนถูกนำมาตั้งชื่อร้านอาหารไทยริมน้ำ ‘จางวางอิ่ม The White Pagoda’ ให้ทุกคนลิ้มรสเสน่ห์ปลายจวักแห่งจางวางอิ่ม ผู้ชำนาญการเชี่ยวชาญอาหารไทย เสิร์ฟสำรับข้าวปลาอาหารรสชาติดั้งเดิม ที่สืบทอดรสมือมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่นให้ทุกคนได้ชิม และรับลมชมวิวเจดีย์มุเตา ริมคุ้งน้ำเกาะเกร็ดไปพร้อม ๆ กัน
เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ 'บ้านไพศาลสุข' บ้านหลังงามที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 บริเวณของบ้านสามารถมองออกจากไปเห็นวิวสามแยกเกาะเกร็ดและเจดีย์มุเตาที่ตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมเกาะเกร็ดได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันยังคงโครงสร้างที่สวยงามทันสมัยและแข็งแรง แม้กาลเวลาจะผ่านล่วงเลยไปนานกว่า 62 ปี ก็กลับมามีชีวิตชีวาอย่างในอดีตอีกครั้งผ่านการรีโนเวทเป็นร้าน ‘จางวางอิ่ม The White Pagoda’
บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความคลาสสิก จากแผนผังโครงสร้างเดิมของบ้านที่เลือกใช้วัสดุไม้เป็นหลัก ดีไซน์ทันสมัยช่วยให้ลมเย็น ๆ พัดพาอากาศดี ๆ ริมน้ำเข้าสู่ตัวบ้านได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์สวย เคาน์เตอร์บาร์ไม้ฉลุลายอย่างละเอียด ประดับด้วยข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ทิ้งไว้จากเจ้าของเดิม รวมทั้งรูปภาพจิตรกรรมสวยบนกรอบรูปที่เล่าเรื่องราวของบ้านได้เป็นอย่างดี
บันไดไม้กลางบ้านพาขึ้นไปยังบริเวณชั้นสอง พบกับห้อง Private Room แยกกันถึง 3 ห้อง ให้คุณใช้เวลาไปกับอาหารมื้อพิเศษได้อย่างส่วนตัวพร้อมแอร์เย็นฉ่ำ สำหรับใครที่อยากนั่งรับลม ดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสุดลูกหูลูกตายามพระอาทิตย์ตกดิน ก็สามารถเลือกโซนเอาท์ดอร์นั่งชิลล์ ๆ บริเวณชานไม้ที่ยื่นออกไปด้านนอกได้เช่นกัน ในช่วงคืนวันศุกร์และวันเสาร์จะมีวงดนตรีไทยประยุกต์มาขับกล่อม สร้างบรรยากาศดี ๆ ระหว่างทานอาหารให้พิเศษมากขึ้นไปอีก
Thai Cuisine in Classic House
ทางร้านพิถีพิถันในการถ่ายทอดเมนูอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมและเมนูแปลกใหม่ที่หาทานที่ไหนไม่ได้ โดยชูวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติและวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยในปริมาณและราคาที่จับต้องได้ ทำให้แต่ละเมนูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมนูชื่อแปลก อย่างข้าวผัดกากหมู ยำไข่ไล่ทุ่ง หมึกหลบแดด จางวางปราณ น้ำพริกคู่ตุนาหงัน กุ้งกระเบื้องหลังคาโบสถ์ ฯลฯ ที่หากได้ลิ้มลองก็จะหวนนึกถึงรสชาติที่เคยได้ทานในวัยเยาว์ เริ่มที่ของทานเล่นอย่าง ของว่างจางวาง (220 บาท) สารพัดผักพื้นบ้านที่นำไปชุบแป้งทอดจนกรอบเป็นสีเหลืองทอง ทานคู่กับน้ำจิ้มสะเต๊ะรสเด็ดเรียกน้ำย่อย
ต่อด้วยเมนูน้ำพริกรสเเซ่บคู่ครัวไทยภาคใต้ อย่างน้ำพริกคู่ตุนาหงัน (280 บาท) น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้างตำสด หอมพริกแห้ง กุ้งแห้ง และปลาฉิ้งฉ้างทอดกรอบเข้ากันครบทั้ง 3 รสชาติไม่ว่าจะเป็นหวาน เปรี้ยว เค็ม เสิร์ฟคู่กับสะตอที่นำลงไปทอดทั้งฝักไม่เหมือนใคร เพื่อลดความขมและกลิ่นฉุน เมื่อทานคู่กันก็ได้รสชาติสไตล์ปักษ์ใต้ถูกปากหร่อยจังฮู้ ถัดมาเป็นเมนูที่อยู่เคียงคู่กับสายน้ำมานาน คือ กุ้งแม่น้ำ (ขนาด 3 ตัว 1 โล/ ตัวละ 620 บาท) กุ้งแม่น้ำคัดไซส์จัมโบ้จากภาคใต้ ย่างบนเตาถ่านจนสุกหอมน่าทานและได้รสหวานของเนื้อกุ้งและมันที่ฉ่ำเยิ้ม นอกจากจะทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บแล้ว ยังสามารถสั่งเมนู แม่สะเดาเย้ายวนกุ้ง (150 บาท) ผักสะเดาพื้นบ้านมาลวกจิ้มน้ำปลาหวาน ทานแกล้มกับกุ้งเเม่น้ำเพื่อเพิ่มอรรถรสในรสชาติมากยิ่งขึ้น
มาถึงเมนูไฮไลต์ของทางร้าน ปูจางวางอิ่ม (850 บาท) ปูม้าไซส์ใหญ่เนื้อเต็มทุกสัดส่วน นำมาผัดด้วยสูตรเฉพาะตัวของร้าน ที่ให้ทั้งความหอมของเนยและใบกระวาน อบอวลไปกับรสชาติที่ผสมผสานทั้งอาหารไทยและกลิ่นอายของอาหารยุโรปเข้าด้วยกัน พร้อมซดน้ำซุปร้อน ๆ จากแกงจืดบ๊วยหมูสับใบโหระพา (220 บาท) ที่ลองแล้วจะต้องลืมภาพแกงจืดแบบเดิม ๆ เพราะแกงจืดของที่นี่เพิ่มเติมความพิเศษของบ๊วยลงไปสร้างสีสันให้รสชาติแกงจืดหมูสับธรรมดา โดดเด่นด้วยรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม โดยเฉพาะใบโหระพาที่ใส่ลงไปแทนที่ผักกาดขาวก็หอมและเรียกความสดชื่นขึ้นมาทันที
ปิดท้ายด้วยคลาสสิกค็อกเทลที่ทุกคนสามารถเอ็นจอยได้ตลอดจนถึงเที่ยงคืน ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลรสชาติสดชื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของ Light Rum อย่าง Mojito และ Blue Hawaii หรือค็อกเทลที่มีส่วนผสมของ Gordon's Gin เช่น Pink Lady, Gin Sling และอื่น ๆ อีกมากมายให้เลือก Pairing กับอาหาร เติมเต็มทุกมื้อของคุณให้พิเศษและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น