The First Cookshop Restaurant in Chinatown, Bangkok
ชวนลิ้มลองความอร่อยสไตล์จีนโมเดิร์นที่ Chop Chop Cookshop ร้านกุ๊กช็อปใจกลางย่านเยาวราช กับสารพัดเมนูอาหารจีนที่ผ่านการรังสรรค์โดยทีมงานของ เชฟเดวิด ทอมป์สัน (David Thompson) เชฟดาวมิชลินชาวออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเอเชียน ในบรรยากาศสุดครึกครื้น เต็มไปด้วยสีสันจัดจ้านและกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย-จีน
การตามรอยสัญลักษณ์มังกรแดง ไปปักหมุดความอร่อยกันที่ร้านอาหารแนวกุ๊กช็อป (หนึ่งในประเภทร้านอาหารที่ถือกำเนิดโดยชุมชนชาวจีนไหหลำ นิยมเสิร์ฟอาหารแบบผสมผสานหลายสัญชาติ ทั้งตะวันตก อาหารจีน และอาหารไทย) ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของกรุงเทพฯ กับการให้บริการร้านอาหารแนวนี้อย่างเต็มรูปแบบเลยก็ว่าได้ หากแต่เลือกนำเสนอความอร่อยสไตล์จีน-โมเดิร์นในแบบฉบับของเชฟเดวิด ทอมป์สัน (David Thompson)
Chinese Vibes and Pop Art Decoration
Chop Chop Cookshop แห่งนี้ มาพร้อมทำเลดีที่ตั้งอยู่บริเวณมุมถนนเยาวราชตัดกับถนนมังกร เป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นทั้งบ้านและร้านทองที่เจ้าของเดิมใช้จัดแสดงทองรูปพรรณต่าง ๆ และสืบทอดกิจการต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น จากนั้นเมื่อเชฟเดวิด ทอมป์สัน (David Thompson) และทีมงานเข้ามาสานต่ออาคารแห่งนี้ ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันและตั้งชื่อใหม่ให้อาคารนี้ว่า Goldsmith
ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งร้านที่โดดเด่นด้วยดีไซน์งานศิลป์สไตล์ Art Deco มีความเป็น Pop Art ประดับไฟนีออนสีแดง พร้อมหยิบจับเอาคาแรกเตอร์ของร้านห้างทองเยาวราชมาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งแสดงถึงความเป็นเยาวราชได้อย่างลงตัว
ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งร้านนั้นเป็นจุดที่ถนนเยาวราชมาตัดกับถนนมังกร ตามความเชื่อของชาวจีน ถนนเยาวราชเป็นถนนที่มีลักษณะโค้งไปโค้งมา ฉวัดเฉวียนเหมือนกับตัวมังกร สื่อความหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง จุดนี้เองจึงทำให้ Chop Chop Cookshop ได้นำ ‘มังกรแดง’ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้ของทางร้าน
Modern Chinese Cuisine by Chef David Thompson
แน่นอนว่าหลากหลายเมนูอาหารคาว-หวานของที่นี่ เน้นเสิร์ฟอาหารจีนเป็นหลัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ ‘Modern Chinese Cuisine by Chef David Thompson’ ซึ่งเข้าถึงง่าย แต่เลือกชูรสชาติด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีทำอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน รวมถึงการคิดสูตรอาหารหรือส่วนผสมที่คนเอเชียรับประทานแล้วต้องถูกปาก และในระหว่างที่กำลังเอ็นจอยกับมื้ออาหารตรงหน้า ยังรู้สึกเพลิดเพลินตาไปกับการ Live Cooking บริเวนโซนครัวเปิดที่เผยให้เห็นเบื้องหลังการรังสรรค์ความอร่อยของเหล่าเชฟ ไปพร้อมกับชมวิวถนนเยาวราชที่ให้เราได้ซึมซับเสน่ห์วิถีชุมชนของคนไทยเชื้อสายจีนไปในตัวอีกด้วย
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน ส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่นำมารังสรรค์เป็นอาหารคาว-หวานจานเด็ด ส่วนใหญ่แล้วจะทำออกมาในสไตล์โฮมเมด ไม่ว่าจะเป็นซอส น้ำจิ้ม ของทอด และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทางร้านล้วนทำเองทั้งสิ้น รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น (Local Ingredients) เพื่อให้ได้รสชาติ กลิ่นอายของอาหารจีนตามแบบต้นตำรับ อีกทั้งยังจัดสรรวัตถุดิบภายใต้หลักการของ Zero Waste นั่นเอง ที่เลือกใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า พร้อมกับเป็นการสนับสนุนชุมชนละแวกย่านเยาวราชไปในคราวเดียวกัน
ประเดิมความอร่อยกันที่จานเรียกน้ำย่อยอย่าง Marble Eggs and Chrysanthemum Leaves (140 บาท) ไข่ออร์แกนิกที่นำไปต้มในน้ำชาซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรจีนหลากหลายชนิดตามสูตรเฉพาะของทางร้านจนได้ไข่ต้มที่มีลวดลายสวยงามเหมือนหินอ่อน วางท็อปลงบนผัดผักบ๊อกฉ่อย (หรือผักกวางตุ้งขนาดเล็ก) ในน้ำมันหอยที่มีการปรุงรสชาติได้อย่างเข้มข้นกลมกล่อม เข้ากันเป็นอย่างดีกับไข่ต้มยางมะตูม พร้อมตัดรสชาติด้วยการโรยผงเกลือที่มีส่วนผสมของรากขึ้นฉ่ายอบ (Spiced Celery Salt) ลงไปบนไข่ ช่วยเพิ่มความอูมามิให้กับเมนูได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตามมาด้วย Spring Rolls (3pc)(280 บาท) เมนูปอเปี๊ยะทอดสูตรมังสวิรัติที่สอดไส้ด้วยวุ้นเส้น ผักปวยเล้ง ให้เนื้อสัมผัสแบบกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสจิ๊กโฉ่วสูตรโฮมเมดที่ได้รสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี
หลังจากรองท้องกันไปแล้ว เพิ่มความอิ่มท้องกันต่อด้วยเมนูซุปกันบ้าง แนะนำให้ลองสั่ง Prawn Wonton Soup (320 บาท) ซุปเกี๊ยว ที่ทางร้านเลือกใช้เกี๊ยวสดจากร้านวัตถุดิบท้องถิ่น ตัวเกี๊ยวมีส่วนผสมของเนื้อหมูสับและกุ้งสับที่มาช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสให้มีความนุ่มเด้งมากขึ้น ราดด้วยน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวเปลือกกุ้งมาอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน พร้อมโรยกุยช่ายขาวลงไปในน้ำซุปด้วยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมชวนทาน
หรือจะเป็น Roast Duck Soup (390 บาท) เมนูบะหมี่เป็ดที่มีความซับซ้อนของรสชาติ โดดเด่นด้วยน้ำซุปที่นำโครงกระดูกเป็ดมาเคี่ยวแบบข้ามคืน กลมกล่อมด้วยน้ำต้มกระดูกเป็ดที่ทีมเชฟนำไปอบแห้งและตุ๋นจนได้รสชาติที่ลงตัว บวกกับกรรมวิธีการทำเป็ดย่างอย่างพิถีพิถันตามสูตรเฉพาะของทางร้าน คือการอบด้วยวิธีสะดุ้งน้ำมันเป็นระยะเวลา 2 วัน ทาเคลือบตามด้วยซอสเป็ดประมาณ 4-5 รอบ ก่อนจะนำไปอบแห้งจนได้สีที่ชวนรับประทาน มีรสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ และได้เนื้อสัมผัสนุ่มฉ่ำกำลังดี
จากนั้นต่อเนื่องความอร่อยด้วยเมนูข้าวกับ Fried Rice with Chinese Sausage (320 บาท) เมนูข้าวผัดกุนเชียง ใส่กุ้งแห้ง จุดเด่นของเมนูนี้ คือทางร้านพยายามค้นหาวัตถุดิบคุณภาพ เช่น กุนเชียงที่ทางร้านเลือกใช้นั้นจะเป็นกุนเชียงแบบพรีเมียม (Smoked Chinese Sausage) ที่หอมกลิ่นรมควันอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงกุ้งแห้งที่ไม่ใส่สี มีเนื้อใส ๆ ตามธรรมชาติ ผสานความอร่อยออกมาจนได้ข้าวผัดกุนเชียงสไตล์จีนจานเด็ดที่ไม่ว่าใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ!
จัดเต็มกับเมนูอาหารคาวกันไปแล้ว ก็ถึงคิวเอ็นจอยความอร่อยกับเมนูของหวานของทางร้านบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขนมหวานสไตล์ไทยที่ผสานกลิ่นอายสไตล์จีนควบคู่กัน ได้แก่ Lordt Chong (210 บาท) เมนูลอดช่องน้ำกะทิแตงไทยที่ทางร้านทำเองทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นเส้นลอดช่องที่ทำจากใบเตยล้วน เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องขนมที่ประกอบไปด้วย ข้าวเหนียวดำ เนื้อขนุน แตงไทยหั่นชิ้น และน้ำกะทิอบควันเทียนรสหวานหอมละมุน
Tapioca with Longans, Banana and Young Coconut (210 บาท) เมนูสาคูเปียกลำไยที่ทางร้านได้เลือกใช้เม็ดสาคูสีน้ำตาล (Brown Tapioca) จากต้นสาคูแท้ ๆ ให้กลิ่นหอมหวานคล้ายคาราเมล รวมถึงได้รสชาติหลายมิติด้วยน้ำเชื่อมที่มีส่วนผสมของหลากหลายวัตถุดิบ อย่างผลกล้วยน้ำว้าสุกงอมที่ให้รสหวานอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเสริมความอร่อยลงตัวด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนให้เคี้ยวแบบเพลิน ๆ
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยของหวานสไตล์ไทยจีนเข้ากับย่านเยาวราชกับเมนู Ginger Milk Curd with Candied Plums (210 บาท) เต้าฮวยน้ำขิงที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทางร้านเลือกใช้เทคนิคการทำด้วยการนำนมสดไปต้มให้ได้อุณหภูมิที่พอเหมาะ เทลงไปในน้ำขิงคั้นสดที่ให้รสเข้มข้นกำลังดี เพื่อให้เกิดการเซ็ตตัวของเต้าฮวยที่มีเนื้อเนียนละเอียดสวยงาม น่ารับประทาน ได้ความหอมของขิงและมีรสชาติที่ไม่เผ็ดร้อนจนเกินไป ได้ความเผ็ดร้อนนิด ๆ ที่ผสานเข้ากับความนุ่มละมุนของเต้าฮวยนมอย่างลงตัว เป็นหนึ่งในเมนูขนมหวานเพื่อสุขภาพที่ทางร้านแนะนำให้ลิ้มลอง
Must Read!
- สำหรับผู้ที่สนใจอยากลิ้มลองความอร่อยของหลากหลายเมนูอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น ในแบบฉบับของ Chop Chop Cookshop สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ทาง book.bistrochat.com/chop-chop-cook-shop