Citizen Tea Canteen of Nowhere

Published on November 23, 2021

An Artisanal Tea House in Salad Noi

ชวนเดินลัดเลาะ ‘ย่านตลาดน้อย’ หนึ่งในย่านชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนใจกลางกรุงที่ยังคงเสน่ห์ด้านวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม พร้อมผสานเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เพื่อไปพบกับ Citizen Tea Canteen of Nowhere คาเฟ่ชาไทยหรือโรงน้ำชาสุดชิคแห่งย่านตลาดน้อย ที่เปรียบเหมือนโชว์รูมสินค้าไลฟ์สไตล์ Flagship Store เล็ก ๆ ของแบรนด์หัตถกรรมร่วมสมัยสุดคราฟต์อย่าง Citizen of Nowhere ซึ่งถูกสร้างสรรค์พื้นที่ขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศสุดชิค ชวนสะดุดตาด้วยการปูกระเบื้องสีส้มสดตัดกับลายแพตเทิร์นสีขาว-ดำ และการตกแต่งภายในที่ได้กลิ่นอายของวัฒนธรรมจีนแบบเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร

 

หน้าร้านชวนสะดุดตาด้วยการปูกระเบื้องสีส้มสดตัดกับลายแพตเทิร์นสีขาว-ดำ

From Citizen of Nowhere To Citizen Tea Canteen

สำหรับใครที่ชื่นชอบงานออกแบบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจคุ้นเคยกันดีกับ Citizen of Nowhere แบรนด์หัตถกรรมร่วมสมัยของ คุณศรัณย์ เย็นปัญญา ดีไซเนอร์มากฝีมือแห่ง 56thStudio ซึ่งได้มีการหยิบจับเอาภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม และงานฝีมือท้องถิ่นของเหล่าชาวบ้านชายขอบที่หลายคนอาจมองข้ามมาปัดฝุ่นใหม่ ต่อยอดเป็นงานดีไซน์ร่วมสมัยตามคอนเซ็ปต์ ‘Empowering Underdog Culture’ ก่อนจะนำมาเชื่อมโยงเข้ากับพื้นที่ ‘ย่านตลาดน้อย’ ที่เรียกได้ว่ามีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ผสมผสานความเก่า-ใหม่ ด้วยกลิ่นอายของ ‘วัฒนธรรมโกปี๊’ หรือ ‘สภาชา-กาแฟไทย’ เพื่อให้ที่นี่เป็นเหมือนพื้นที่ที่เปิดโอกาส เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ผู้คนทั่วไปได้เข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุย ใช้ช่วงเวลาดี ๆ ไปกับการจิบชาชิลล์ ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ ได้เข้ามาทำความรู้จักกับแบรนด์ Citizen of Nowhere มากขึ้น พร้อมช้อปสินค้าของทางแบรนด์ไปในตัว ภายใต้ชื่อ ‘Citizen Tea Canteen of Nowhere’

 

บรรยากาศภายในร้าน

The Colours of Chinese Culture

ด้วยความที่ร้านนั้นเติบโตมาจากการเป็นคราฟต์แบรนด์มาก่อน บวกกับทำเลร้านนั้นตั้งอยู่ในย่านตลาดน้อย จึงนำเอกลักษณ์ไทยกลิ่นอายของภูมิปัญญาท้องถิ่นมาหลอมรวมไว้กับวัฒนธรรมจีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโทนสีมงคลส้ม-แดง ไปจนถึงการตกแต่งภายในที่มีการนำเอาลวดลายภาพวาดสัญลักษณ์ของศาลเจ้า วัดจีนอย่างวัดซุนเล่งยี่หรือศาลเจ้าโจวซือกง (ฝั่งตรงข้ามร้าน), สิ่งที่เป็นมงคลอื่น ๆ เช่น น้ำเต้า ดอกกุหลาบ เสือ ฯลฯ มาดีไซน์เป็น Silkscreen Handprint Wallpaper หลากหลายแบบที่ทำด้วยมือ เพื่อให้กลมกลืนไปในทิศทางเดียวกันกับชุมชนย่านตลาดน้อย

 

การตกแต่งภายใน ผนังร้าน กับลวดลายที่ได้กลิ่นอายของวัฒนธรรมจีน

ภายในร้าน บริเวณชั้นล่างได้จัดแบ่งโซนไว้สำหรับนั่งดื่มชา เคาน์เตอร์บาร์น้ำชา โชว์รูมสินค้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หัตถกรรมของแบรนด์ Citizen of Nowhere ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่งแบบจักสาน ประดับลวดลายปักสุดโมเดิร์นจากศิลปินรุ่นใหม่, กระเป๋าสานจากงานเสื่อของชุมชนต่าง ๆ 

 

โซนช้อปสินค้าต่าง ๆ ของแบรนด์ Citizen of Nowhere

 

เบาะนั่งจักสาน อีกหนึ่งผลงานผลิตภัณฑ์หัตถกรรมท้องถิ่นที่น่าอุดหนุน

รวมถึงขวดชา กาน้ำชา แก้วชาและเครื่องพวงที่ส่วนใหญ่มักพบเห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารสมัยก่อน โดยทางแบรนด์ได้นำมาครีเอตใหม่ด้วยการใช้ลวดลายกราฟิกร่วมสมัย มิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับความคลาสสิกแบบยุคก่อน ๆ จนออกมาเป็นชิ้นงานใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

ขวดชา กาน้ำชา แก้วน้ำชาลวดลายสไตล์วินเทจอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีให้เลือกช้อปแบบจุใจ

 

แก้วน้ำชาที่ทางแบรนด์ได้นำมาครีเอตใหม่ด้วยการใช้ลวดลายกราฟิกร่วมสมัย

หากเดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก็จะพบกับพื้นที่โชว์รูมสินค้าหัตถกรรมส่วนขยาย ซึ่งมีโต๊ะยาวให้นั่งจิบชาแบบชิลล์ ๆ  บริเวณรอบ ๆ มีงานอาร์ตให้ได้ชมกันแบบเพลิน ๆ ซึ่งในอนาคตพื้นที่นี้ทางร้านจะใช้เป็นที่จัดกิจกรรมเวิร์คช็อป อีเวนต์ต่าง ๆ ให้คนที่สนใจด้านงานหัตกรรมและศาสตร์ของชาได้เข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวสีสันแห่งชุมชนย่านตลาดน้อย สัมผัสถึง Visual Culture ความเก่า-ใหม่ของวัฒนธรรมที่เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

พื้นที่บริเวณชั้น 2 สามารถมองเห็นวิวศาลเจ้าโจวซือกงและบรรยากาศชุมชนย่านตลาดน้อยโดยรอบได้แบบเพลินตา

Thai Tea Specialty Blends

สืบเนื่องจากคอนเซ็ปต์ ‘โรงน้ำชา’ ทางร้านจึงเลือกนำเสนอเครื่องดื่มชาเป็นหลัก เสิร์ฟทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ในลักษณะของ Thai Tea Specialty พร้อมแบ่งประเภทของชาออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ชานม (ชาซีลอนหรือชาส้ม) ครีเอตโดย Tea Master ที่เบลนด์รสชาติของชาตามแบบฉบับของทางภาคใต้ โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของชาและมีรสเข้มข้นที่แตกต่างกันถึง 4 เบลนด์

 

ชานม 4 เบลนด์ 4 รสชาติน่าลอง

เริ่มต้นที่ Blend No.1 - Vanilla Sky (120 บาท) ชานมรสกลมกล่อม ให้กลิ่นหอมหวานของวานิลลานิด ๆ ผสานเข้ากับกลิ่นหอมคั่วของโกโก้

 

Blend No.1 - Vanilla Sky (120 บาท)

เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นอีกนิดด้วย Blend No.2 - Dusty Dawn (120 บาท) ชานมเข้มข้น ให้รสหวานอย่างเป็นธรรมชาติ มาพร้อมกลิ่นหอมโทน Nutty ผสานกลิ่นหอมของโกโก้อย่างลงตัว

 

Blend No.2 - Dusty Dawn (120 บาท)

ส่วนใครที่ชอบดื่มชานมรสชาติเข้ม ๆ ละก็ต้องลอง Blend No.3 - Sweet Sunrise (120 บาท) ชานมเข้มข้นที่ให้กลิ่นหอมของใบชาและวานิลลาที่มากกว่าเบลนด์อื่น ๆ แถมยังทิ้งท้ายไว้ด้วยรสสัมผัสของชาติดปลายลิ้นนานขึ้นอีกด้วย

 

Blend No.3 - Sweet Sunrise (120 บาท)

ก่อนจะหันมาเอาใจสายละมุนกันบ้างกับเมนู Blend No.4 - Suede Sunset (120 บาท) ชานมที่ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ พร้อมซ่อนเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ไว้ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติของกล้วยตากเจืออยู่ด้วยนิด ๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น

 

Blend No.4 - Suede Sunset (120 บาท)

ตามมาด้วยประเภทของ ชาดำหรือชาจีน ซึ่งเบลนด์ออกมาในรูปแบบของชาร้อน ครีเอตโดย Tea Master จากจังหวัดเชียงรายที่เบลนด์รสชาติชาด้วยวัตถุดิบใบชาจากทางภาคเหนือ มีทั้งหมด 4 เบลนด์ให้เลือกสั่งตามชอบอีกเช่นกัน

 

ชาเบลนด์สูตรเฉพาะของทางร้าน มีหลากหลายแบบให้เลือกสรร

ครั้งนี้ทางร้านได้เลือกเสิร์ฟเซ็ตชาร้อนอย่าง Blend No.13 (250 บาท / Pot) ความพิเศษของเบลนด์นี้คือความเป็น Special Blend of The Month ซึ่งทางร้านจะครีเอตรสชาติใหม่ ๆ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป โดยจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหลักที่ทางร้านได้มาในแต่ละเดือน

สำหรับเบลนด์พิเศษประจำเดือนนี้คือ เป็ดตุ๋นเจ้าท่า (Duck Noodle Blend) ชาร้อนที่ให้กลิ่นหอมของเครื่องเทศสมุนไพรจีน เบสรสชาติด้วยชาเขียว ชาดำออร์แกนิก แล้วผสมเข้ากับโป๊ยกั๊กและชะเอม ให้กลิ่นหอมโทน Woody ผสานกลิ่นสมุนไพรที่ชวนนึกถึงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ ให้รสกลมกล่อมหวานติดปลายลิ้น ดื่มแล้วชุ่มคอ

 

Blend No.13 (250 บาท / Pot) - เป็ดตุ๋นเจ้าท่า (Duck Noodle Blend)

อีกหนึ่งกิมมิกที่ทำให้ทางร้านคงความเป็น Thai Tea Specialty สุดคราฟต์ คือการเลือกใช้เครื่องไซฟ่อน (Siphon) ในการชงชา ซึ่งข้อดีของการใช้เครื่องไซฟ่อนนั้นทำให้ชาไม่มีรสฝาด รวมถึงความใส่ใจในการเลือกใช้แก้วทรงสูงเพื่อคงความหอมของกลิ่นชาเอาไว้ให้นานขึ้น เสิร์ฟมาในเครื่องพวงที่ผ่านการรีดีไซน์ใหม่ ดูคลาสสิกและร่วมสมัยไปพร้อม ๆ กัน
 

เครื่องไซฟ่อน (Siphon) ที่ทางร้านใช้ในการชงชา

นอกจากชาเบลนด์สูตรต่าง ๆ แล้ว ทางร้านยังมีเมนูเครื่องดื่มทางเลือกให้กับคนที่ไม่ถนัดดื่มชาอีกด้วย  อย่าง Refreshing Soft Drink แนะนำให้ลองสั่ง Plum Sakura Soda (100 บาท) น้ำบ๊วยโซดาที่ท็อปด้วยพีชสดหั่นชิ้น ให้รสหวานอมเปรี้ยว และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกซากุระ ดื่มแล้วเรียกความสดชื่นได้ดีไม่แพ้เมนูชาไทยเย็น ๆ เลยล่ะ

 

Plum Sakura Soda (100 บาท)

แวะมาที่นี่แล้วรับรองว่าคุณจะได้สัมผัสถึงความกลมกล่อมทั้งในแง่ของรสชาติชาและการผสมผสานวัฒนธรรมเก่าเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ของชุมชนย่านตลาดน้อย เป็นการซึมซับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ ซึ่งโดดเด่นในเรื่องความหลากหลายและยังมีร้านรวงอีกมากมายที่รอให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ในย่านเล็ก ๆ แห่งนี้ที่ยังคงความมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย

 

จิบชาแก้วโปรดแบบชิลล์ ๆ ไปพร้อมกับซึมซับบรรยากาศชุมชนย่านตลาดน้อย

Info
Hours
Open : 10AM - 6PM
Sun : 10AM - 6PM
Mon : Closed
Tue : Closed
Wed : Closed
Thu : Closed
Fri : 10AM - 6PM
Sat : 10AM - 6PM
Price

฿฿ 101-300 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
764 ซอยวานิช 2 (ตลาดน้อย) เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT หัวลำโพง

Facilities
Suggest an Edit