Analogue Bar in The Warehouse
ชวนคุณย้อนเวลามาสัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกกับ Clutch BKK อะนาล็อกบาร์สุดเท่บนชั้นสองของ The Warehouse หรือโกดังเก่าริมถนนเจริญกรุงในย่านตลาดน้อย โดยเดิมทีพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นโกดังเก่าที่ถูกทิ้งร้างมายาวนานกว่า 30 ปี ก่อนจะถูกรีโนเวทให้กลายมาเป็น Community Space สุดเท่ ที่มีทั้ง Cafe, Bar, Market และ Art รวมไว้ในที่แห่งเดียว
Classic Vibes at Bangkok’s Old Town
ด้วยโครงสร้างเดิมของตึกเก่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยความคลาสสิก ทำให้เจ้าของร้านเลือกหยิบคำว่า ‘Clutch’ ที่หมายถึงเกียร์คลัตช์ของรถในสมัยก่อนมาใช้เป็นชื่อร้าน โดดเด่นด้วยผนังปูนเปลือยดิบ ๆ ที่ยังคงทิ้งเรื่องราวในอดีตเอาไว้ได้อย่างน่าหลงใหล ประดับประดาด้วยของสะสมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผ่นไวนิล เครื่องเสียง หรือลำโพงจากยุคเก่า ที่เข้ากับโครงสร้างตึกได้อย่างลงตัวพอดี ผสมผสานสีสันความสนุกด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid Century นอกจากนี้ยังมีมุมเคาน์เตอน์บาร์ขนาดใหญ่ พร้อมเสิร์ฟ Signature Cocktails แก้วถูกใจให้คุณดื่มด่ำไปพร้อมกับเสียงเพลงเพราะ ๆ ในยามค่ำคืน
Signature of Clutch
สำหรับแก้วแรก ขอแนะนำ Amber Gambler (380 บาท) ค็อกเทลที่มีเบสเป็น Rum ก่อนจะนำมาผสมผสานความหอมหวานด้วยน้ำผึ้งและน้ำลำไย ที่ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบของคนท้องถิ่นย่านตลาดน้อย แก้วนี้จึงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของลำไย และได้ความหวานจากน้ำผึ้ง พร้อมเพิ่มความเปรี้ยวสดชื่นด้วยมะนาว
ตามด้วย Drive Me Crazy (380 บาท) คลาสสิกค็อกเทลที่ทวิสต์ให้ดื่มง่ายด้วยส่วนผสมของ Thai Local Gin จากจังหวัดภูเก็ต ผสานรสชาติเข้ากับ Aperol, Sweet Vermouth และ Tea Cordial แล้วเพิ่มความซ่าด้วยโซดา ออกมาเป็นค็อกเทลรสชาติเข้มแต่ดื่มง่าย
ส่วนใครมองหาค็อกเทลที่เหมาะสำหรับจิบในวันสบาย ๆ ต้องลอง Clutch on You (380 บาท) มีส่วนผสมของไวน์ขาวที่ทางร้านนำมาเพิ่มความหอมสดชื่นด้วย Peach และ Tea Cordial พร้อมเพิ่มความเปรี้ยวด้วยเลมอนปิดท้าย เป็นการเปลี่ยนมิติใหม่ในการดื่มไวน์ขาวให้สนุกมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจ ต้องขอยกให้กับ Hide and Ride (380 บาท) ค็อกเทลสีแดงสดใสที่มีส่วนผสมของ Gin และ Aperol นำมาผสมผสานรสชาติเปรี้ยวอมหวานด้วยน้ำกระเจี๊ยบ ที่เพิ่มกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วยขิง เหมาะสำหรับใครที่ชอบเครื่องดื่มกลิ่นสมุนไพร แก้วนี้ถูกใจแน่นอน
มาต่อกันที่ Hitchhiker (380 บาท) ค็อกเทลที่ทวิสต์มาจาก Whisky Sour มีเบสเป็น Whisky ที่นำมาผสานความหอมหวานด้วยอินทผาลัมและน้ำผึ้งโฮมเมดของคนท้องถิ่นในย่านนี้ และยังมีความเปรี้ยวนิด ๆ จากเลมอน ก่อนจะท็อปด้วยโฟมไข่ขาวนุ่มละมุนปิดท้าย
หากใครไม่ใช่สายค็อกเทล ทางร้านยังมี Slow and Steady (250 บาท) ม็อกเทลที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สับปะรด ส้ม เบอร์รี และมะนาว ให้รสชาติเปรี้ยวสดชื่น หอมกลิ่นผลไม้แบบเต็มคำ