Modern Chinese Restaurant in Ari
DAI LOU (ไต่โหล) ร้านอาหารจีนสไตล์ร่วมสมัย แลนด์มาร์กของร้านอาหารจีนในย่านอารีย์ ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูอาหารจีนรสชาติต้นตำรับกับการนำเสนอในรูปแบบใหม่ ซึ่งฉีกกฎร้านอาหารจีนแบบเดิม ๆ ด้วยไอเดียและความตั้งใจที่สอดแทรกไว้ในทุก ๆ จาน ตอบโจทย์เหล่านักชิมทุกเพศทุกวัย ผู้ใหญ่ถูกใจคนรุ่นใหม่เข้าถึงง่าย สามารถแวะมาอิ่มอร่อยกันได้ทั้งครอบครัว ภายใต้บรรยากาศที่ให้กลิ่นอายของความเป็น Modern Chinese ให้คุณได้เช็กอินมุมสวย ๆ หลังอิ่มท้องกับมื้ออร่อยนี้อย่างจุใจ
Hong Kong Vibes
คำว่า 'DAI LOU' ในภาษาจีนนั้นแปลว่า 'เจ้าพ่อ' คอนเซ็ปต์ของการตกแต่งร้านจึงเลือกถ่ายทอดออกมาในมู้ดโทนตามอย่างสไตล์ของผู้ทรงอิทธิพล ที่ดูน่าค้นหาและมีตัวตนที่ทันสมัย ให้บรรยากาศราวกับนั่งทานอาหารอยู่ในฮ่องกง ซึ่งช่วยบรรเทาความคิดถึงการเดินทางไปต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ภายในร้านจึงเน้นการใช้วัสดุไม้ที่สะท้อนถึงความแข็งแรงดูภูมิฐาน ตัดด้วยสีน้ำเงินที่ดูน่าค้นหา แซมด้วยสีทองตามมุมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความหรูหราและดูร่วมสมัย ก่อนจะสอดแทรกวัฒนธรรมความเชื่อด้วยเครื่องราง ภาพเขียน และฮกลกซิ่วที่แอบซ่อนไว้ตามมุมต่าง ๆ ของร้าน
Chinese Cuisine and Tapas with A Modern Twist
สำหรับเมนูต่าง ๆ ภายในร้าน นำเสนอหลากหลายเมนูความอร่อยที่ให้รสชาติและกลิ่นอายสไตล์จีนแท้ ๆ ผสานกับการประยุกต์เทคนิคและกรรมวิธีการทำแบบสมัยใหม่ เริ่มต้นกันที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง หอยเชลล์แมนดาริน (450 บาท) ซึ่งเชฟเลือกใช้หอยเชลล์โฮตาเตะตัวใหญ่ เสิร์ฟกับส้มแมนดารินคลุกเคล้าครีมสลัด เป็นเมนูสดชื่นที่เสิร์ฟเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
จานถัดมาลองเป็น ขนมผักกาด (250 บาท) ที่หลายคนอาจจะรู้จักในหมวดของติ่มซำ แต่ทีมเชฟนำมารังสรรค์ความอร่อยใหม่ให้น่าทานมากขึ้น ด้วยการนำขนมผักกาดไปผัดคลุกเคล้าเข้ากันกับซอส XO เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติ ได้ความเข้มข้นของซอส
อีกหนึ่งจานที่พลาดไม่ได้เห็นทีจะเป็น หมูกรอบ (320 บาท) หมูกรอบสไตล์ฮ่องกงที่สร้างความแตกต่างด้วยวิธีการย่างแทนการทอด จนได้หนังกรอบ เนื้อนุ่ม มันน้อย ให้สัมผัสที่แตกต่างจากหมูกรอบทั่วไป เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน
ต่อกันที่ ผัดโป๊ยเซียนโบราณ (3,500 บาท) เมนูมงคลตำรับโบราณที่ทางร้านจัดเต็มความอร่อยด้วยวัตถุดิบมงคล 8 ชนิด อาทิ กุ้ง ปลิงทะเล เป๋าฮื้อ กระเพาะหมู ตับหมู เป็ด ปลาหมึกและถั่วงอก ผัดคลุกเคล้ากับเครื่องเทศให้รสชาติตามตำรับโบราณแท้ ๆ อิ่มอร่อยได้อย่างเพลิดเพลิน
หรือจะลองเป็น บ็อกฉ่อยกระเพาะปลาราดหอยเป๋าฮื้อและปลิงตุ๋น (4,500 บาท) เมนูกระเพาะปลาทะเลเสิร์ฟมาพร้อมกันกับบ็อกฉ่อย ผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย หอยเป๋าฮื้อตัวโตเต็มคำและปลิงทะเลตุ๋น
ส่วนไฮไลต์ลองเป็น สเต๊กเป๋าฮื้อและฟัวกราส์ (เฉพาะฤดูกาล) สเต๊กเป๋าฮื้อไซส์ใหญ่เนื้อหนึบหนับเต็มคำที่ผ่านกรรมวิธีการต้มนานกว่า 48 ชั่วโมง จนได้เนื้อสัมผัสนุ่มและสุกกำลังดี เสิร์ฟมาคู่กันกับฟัวกราส์เนื้อเนียนนุ่ม และซอสเกรวี่ที่เบสส่วนผสมหลักจากเป๋าฮื้อ
*เมนูเฉพาะฤดูกาล สามารถสอบถามราคาได้ที่หน้าร้าน
นอกจากนี้ยังมี เส้นใหญ่กรอบปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว (950 บาท) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากการหากินของปลาทะเล โดยเชฟดีไซน์เส้นใหญ่แบบกรอบ ๆ ให้เป็นตัวแทนของโขดหิน ตกแต่งด้วยผักและดอกไม้ที่เปรียบกับปะการัง จากนั้นวางเคียงด้วยสเต๊กปลาหิมะเสิร์ฟพร้อมกันกับน้ำซีอิ๊วรสหวานเค็ม กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ที่ผ่านกรรมวิธีการนำหอมไปเจียวจนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นนำไปต้มกับน้ำซีอิ๊วเคี่ยวจนได้รสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมอย่างชัดเจน
และ เต้าหู้คั่วพริกเกลือ (150 บาท) ที่ทางร้านใช้เต้าหู้น้ำคินุมาคั่วพริกเกลือสไตล์แห้ง ๆ ให้เนื้อด้านนอกกรอบด้านในนิ่ม คลุกเคล้ากับเครื่องคั่วพริกเกลือรสแซ่บ ทานได้แบบเพลิน ๆ
Being Proud To Be Asian
ในส่วนของบาร์เครื่องดื่มนั้นทางทีมนำเสนอเครื่องดื่มในคอนเซ็ปต์แบบ East Meet West ที่นำความเป็นเอเชียผสานเข้ากับสไตล์ตะวันตก โดยหยิบเอาวัตถุดิบซิกเนเจอร์มาครีเอตเป็นเมนูใหม่ ๆ ให้ได้ลิ้มลอง โดยไฮไลต์ในครั้งนี้อยู่ที่ Mala Milkshake (170 บาท) เมนูมิลค์เชคสนุก ๆ ที่เลือกใช้ไอศกรีมสตรอเบอร์รีปั่นเข้ากับซอสหม่าล่าสูตรเฉพาะของร้าน ซึ่งเป็นซอสที่นำเสนอความอร่อยสไตล์จีนได้ดีที่สุด ผสมกับนมถั่วเหลืองเพื่อให้ได้รสชาติที่หวานมัน มีความเผ็ดและรสเค็มเล็กน้อย ท็อปด้วยวิปครีมและแครกเกอร์ แนะนำให้ทานคู่กันกับตัวเครื่องดื่มจะได้รสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว
ปิดท้ายด้วย Asian Paradise (150 บาท) เครื่องดื่มที่เป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์และ Welcome Drink ประจำร้าน โดยเลือกนำเสนอผลไม้ไทยอย่างน้ำมะพร้าวน้ำหอมที่ผสานกับน้ำเชื่อมข้าวเหนียวมะม่วงสูตรเฉพาะของทางร้านและชาเขียวคอมบูฉะ ให้กลิ่นอายความเป็นทรอปิคอลฟรุ๊ตตี้ของผลไม้ไทย ที่ผสานกับความซ่าเล็กน้อยจากชาเขียวคอมบูฉะ เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่าย ดื่มได้แบบเพลิน ๆ