Escape Space
“เพราะนอกจากสินค้าแล้ว พื้นที่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถสร้างประสบการณ์ดี ๆ ได้ไม่ยาก เราเลยอย่างสร้างพื้นที่ที่คนสามารถหลีกหนีความวุ่นวายภายนอกมาเจอความสงบที่นี่ได้ครับ” นี่คือคำอธิบายคอนเซ็ปต์ของร้านผ่านน้ำเสียงสบาย ๆ ของคุณนนทน์-เจ้าของร้าน
จากบริษัทสินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์ดี สู่คาเฟ่สุดมินิมัลที่ตั้งใจอยากสร้างความเรียบง่ายให้กับชีวิตอันแสนวุ่นวายของทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปเจอพื้นที่สุดชิลล์กันในย่านรามอินทรา
‘Dash Space’ คือพื้นที่สีขาวสะอาดตา ที่ถูกตั้งใจออกแบบให้เป็นสเปซสำหรับทุกคน เพราะนอกจากจะมีส่วนคาเฟ่ที่มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่งชิลล์ ทั้ง Indoor และ Outdoor แล้ว ที่ Dash Space ยังมีมุมสวย ๆ ที่ถูกจัดไว้เพื่อเอาใจสายถ่ายรูปและใช้สำหรับจัดอีเวนต์อีกเพียบ เรียกได้ว่ามากี่ครั้ง ก็ได้มุมไม่ซ้ำแน่นอน!
Tropical Minimalism
ในเรื่องของการดีไซน์ Dash Space โดดเด่นด้วยการเนรมิตบรรยากาศโดยรอบให้เหมือนหลุดออกมาจากประเทศไทย ด้วยความโปร่ง สบาย ผสมผสานความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไว้กับความเป็นเม็กซิโกนิด ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ลงตัว
Mixology Style
เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทางด้านเมนูเครื่องดื่มที่นี่จึงเน้นความสดชื่นเป็นหลัก โดยให้บริการทั้ง Coffee และ Non Coffee ที่มาพร้อมเทคนิคของ Mixology ให้ครอบคลุมความชอบของคนให้มากที่สุดนั่นเอง มาแล้วลองชิมแก้ว Signature ของทางร้านอย่าง On the Rock (250 บาท) กันก่อน โดยแก้วนี้จะเสิร์ฟเพียงวันละ 30 ที่เท่านั้น ความโดดเด่นอยู่ที่รสชาติและกลิ่นหอมอันนุ่มนวลของกาแฟที่ผ่านการกรองเอาความขมและฝาดของกาแฟออกไปจนหมดโดยใช้เวลาถึง 1 วัน จากนั้นจึงเติมความสดชื่นด้วยกลิ่นของดอกไม้ จนเป็นกาแฟที่กรองแล้วใสเหมือนวิสกี้นั่นเอง
ส่วนใครชอบกาแฟผลไม้ แนะนำเมนู Midnight Cloud (220 บาท) แก้วนี้เป็นกาแฟผสมกับน้ำแอปเปิ้ล ผสานความซาบซ่าด้วยโซดา และท็อปด้วยโฟมยูซุนุ่ม ๆ ได้สัมผัสแสนสดชื่นรวมกันในแก้วเดียว
หรือจะเป็น Sour Passion (180 บาท) ที่มาพร้อมสัมผัสสุด Tropical จากส่วนผสมของสับปะรดและเสาวรส ที่ผ่านเทคนิคการรังสรรค์แบบ Mixology ให้รสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอม ๆ ดับร้อนได้เป็นอย่างดี
ทางด้านขนมหวานก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ลองชิม Affogato (180 บาท) ที่มาพร้อมกิมมิกน่ารัก ๆ โดยไอศกรีมจะลอยอยู่ช่วงกลางแก้ว ช่วงแรกจะได้สัมผัสของวานิลลาและกาแฟหอมหวานเข้มข้น จนถึงช่วงที่ไอศกรีมละลายลงมาผสมกับเกล็ดราสพ์เบอร์รีเปรี้ยว ๆ ในส่วนก้นแก้ว ช่วยตัดเลี่ยนตอนจบได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ปิดท้ายกันที่ Ispahan Soup (180 บาท) อีก Signature ของทางร้านที่เสิร์ฟลิ้นจี่และราสพ์เบอร์รีเย็น ๆ มากับ Aromatic Water หอม ๆ ได้ความสดชื่นแบบเต็มร้อยแน่นอน!