Enjoy Great Food & Good Drink
ถ้าถามหาร้านอาหารและบาร์ดี ๆ สักที่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต DIBUKA ก็ติดอยู่ในท็อปลิสต์ได้ไม่ยาก ด้วยสไตล์อาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานความลงตัวระหว่างความจัดจ้านของอาหารใต้ และความกลมกล่อมสไตล์ยุโรป ออกมาเป็นเมนูสุดครีเอทที่หาทานที่ไหนไม่ได้ พร้อมมีบาร์เทนเดอร์ฝีมือดี ที่การันตีความพิเศษในค็อกเทลทุกเเก้วว่าหรอยจังฮู้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในร้านที่ร่วมแคมเปญ Mekhong Thai Spirit Cocktails 2018 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดค็อกเทลสัญชาติไทยที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นและสุราไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 8 ทศวรรษอย่าง Mekhong อีกด้วย
Original From Dibuk Road
‘DIBUKA’ มีที่มาจากร้านที่ตั้งอยู่บนถนนดีบุก ถนนสายสำคัญของเมืองภูเก็ตท่ีเต็มไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิม ภูเก็ตในยุครุ่งเรืองนับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงในการทำเหมืองแร่ดีบุก จึงเป็นที่มาของชื่อ และคอนเซ็ปต์เท่ดุดันของทางร้าน
Industial Loft Style
ต้อนรับเข้าสู่เหมืองแร่แห่งนี้ด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เท่ คุมโทนด้วยสีน้ำตาลเข้มดุดันสไตล์อุตสาหกรรม แต่กลับดูลึกลับน่าค้นหาด้วยแสงไฟจากแชนเดอร์เลียใหญ่กลางร้าน ฟันเฟือง และของตกแต่งที่จัดวางในมุมต่าง ๆ ภายในร้านสะท้อนการตกแต่งแบบ Industial Loft ให้ที่นี่ได้บรรยากาศของการเป็นเหมืองแร่เก่าในอดีต สามารถเดินขึ้นไปดื่มด่ำกับบรรยากาศบนชั้นสอง ที่เมื่อมองลงมาด้านล่างจะพบกับบรรยากาศรึกครื้นจากดนตรีสดตลอดคืน
บรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี่จะครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่มานั่งดื่มนั่งชิลล์ มีพื้นที่สำหรับรองรับการมาเยือนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะดินเนอร์สำหรับคู่รัก ไปจนถึงพื้นที่ปาร์ตี้จัดเลี้ยงกับกลุ่มเพื่อน ๆ
DIBUKA เสิร์ฟความอร่อยแบบจัดจ้านมานานกว่า 6 ปี ด้วยฝีมือในการทำอาหารใต้ของเชฟที่มีความโดดเด่นในสไตล์เผ็ดร้อน จัดจ้านแบบคนใต้แท้ ๆ ผสมผสานกับอาหารยุโรป ทำให้ทุกจานที่สร้างสรรค์ออกมามีความกลมกล่อม เข้ากันอย่างมีเอกลักษณ์
Must-try Signature Menus
เมนูอาหารที่มาถึงภูเก็ตต้องสั่งมาลิ้มลองคือ พิซซ่าแกงปู (290 บาท) ความพิเศษอยู่ที่การนำแกงปูมาฟิวชั่นกับพิซซ่าได้อย่างลงตัว เนื้อปูชิ้นใหญ่กับแกงใต้รสจัด เข้ากันกับแป้งบางกรอบไม่เหมือนใคร ถัดไปเป็น สปาเก็ตตี้กะปิหมูฮ้อง (220 บาท) หมูฮ้องเนื้อนุ่มที่คัดสรรเนื้อหมูสามชั้นคุณภาพดีมาเคี่ยวจนได้น้ำขลุกขลิก รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกะปิอ่อน ๆ เมื่อรวมกับเส้นสปาเก็ตตี้ที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทานคู่กับหอมแดง พริกสด ไข่ต้มยางมะตูม เพิ่มความเปรี้ยวด้วยมะนาวเล็กน้อยรับประกันความอร่อย
อีกหนึ่งเมนูน่าทานอย่าง หมูกะปิ (280 บาท) ที่เลือกกะปิที่ดีที่สุดมาประกอบอาหาร รวมทั้งยังเลือกใช้หมูกรอบที่นำไปคลุกเคล้ากับกะปิก่อนนำไปทอด ทำให้ได้กลิ่นหอมของกะปิเป็นพิเศษในทุก ๆ คำที่ทาน
Finding Thai Spirit in Thai Creative Cocktails
อาหารอร่อย จะชูรสชาติออกมาได้ด้วยการทานคู่กับเครื่องดื่มดี ๆ อีกหนึ่งจุดเด่นของ DUBUKA คือบาร์เครื่องดื่ม ที่หลากหลายไปด้วยเบียร์สด คราฟต์เบียร์ ไวน์ แชมเปญ และเครื่องดื่มค็อกเทลที่เลือกใช้ส่วนผสมคุณภาพเยี่ยมจากทั้งไทย และต่างประเทศ รวมทั้งรัมไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่าง Mekhong ที่มาเล่าเรื่องราวความเป็นไทย ผ่านเครื่องดื่มค็อกเทลและฝีไม้ลายมือการชงของบาเทนเดอร์ระดับประเทศ
สัมผัสร่องรอยของบรรยากาศเหมืองแร่เก่า และรสชาติเครื่องดื่มที่ทำให้คุณระลึกถึงความเป็นไทย กับ ROY THAI (320 บาท) เครื่องดื่มที่เข้าร่วมแข่งขันในงาน Mekhong Thai Spirit Cocktails 2018 เต็มไปด้วยเอกลักษณ์และรสสัมผัสแห่งความเป็นไทย ด้วยแรงบันดาลใจจาก ’ลาบ’ ที่นำเอารสชาติของสองวัฒนธรรม ทั้งลาบเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ มาเป็นส่วนผสมน้ำเชื่อมรสลาบ
ก่อนจะเพิ่มความจัดจ้านด้วยสมุนไพรไทยที่หาได้ในท้องถิ่นอย่าง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชีใบเลื่อย ผักแพว เป็นต้น และเครื่องเทศไทยต่าง ๆ เช่น ดีปลี กานพลู อบเชย มะแขว่น เข้ากันได้ดีกับ Mekhong ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศ เสิร์ฟพร้อมข้าวตังหน้าตั้งรสลาบทานคู่กัน ก็ช่วยชูโรงให้รสชาติของอาหารโดดเด่น และรู้สึกได้ถึงรสชาติของความเป็นไทยอย่างแท้จริง
ถัดมาเป็น นวลละออ (320 บาท) Cocktail Twist ที่เสิร์ฟมาในแก้วสีชมพูพีชสดใส พร้อมวิปปิ้งครีมที่นุ่มละมุน ชวนลิ้มลองเหมือนดังชื่อ ด้วยรสชาติของ Mekhong ที่เบสคู่กันกับพีช ให้ความรู้สึกสดชื่น ทานง่ายราวกับเป็นขนมหวาน ท็อปด้วยฟองวิปปิ้งครีมที่นำไปดรายเชครวมกับไข่ขาวจนฟูฟ่อง รสนุ่ม และเนื้อพีชฉ่ำ ๆ ให้ทานคู่กัน ก็นำเสนอรสชาติของ Mekhong และสปิริตของความเป็นไทยออกมาได้น่าสนใจ