Minimal & Cozy Space in Rama 3
จากคาเฟ่ดังย่านพระราม 8 สู่อีกหนึ่งสาขาใหม่ย่านพระราม 3 ของ Double Slash // Coffee Space คาเฟ่ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความมินิมัล ดีไซน์เรียบง่าย และเน้นฟังก์ชันเท่ ๆ ในโทนสีขาวสบายตาของ คุณวี - กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล ที่ตั้งใจสร้างสรรค์เมนูกาแฟที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่พิเศษด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี รวมไปถึงรสสัมผัสและกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟที่ยังคงความคลาสสิก และเป็น Coffee Space ที่ดีต่อใจของคอคาเฟอีนทุกครั้งที่เข้ามาสัมผัส
ที่มาของชื่อร้าน "Double Slash" (//) เป็นเครื่องหมายที่คุณวีใช้ในการกลั่นกรองไอเดียต่าง ๆ เวลาจดบันทึก จึงนำมาใช้เป็นคอนเซ็ปต์หลักของร้าน หมายถึง ทุก Process ได้ผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาแฟ หรือการคัดสรรวัตถุดิบในการทำเมนูต่าง ๆ
หากใครเคยแวะเวียนไปที่สาขาแรกในย่านพระราม 8 น่าจะจำภาพดีไซน์ร้านที่หยิบเอา Geomentric ของสี่เหลี่ยมมาใช้เพื่อสะท้อนความเรียบง่ายกันมาบ้าง เช่นกันกับสาขาใหม่ที่ย่านพระราม 3 ที่ยังคงแรงบันดาลใจจาก 'สภากาแฟ' และคอนเซ็ปต์การใช้พื้นที่แบบ Functional แต่กลับมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ด้านหนึ่งล้อมรอบด้วยกระจกใสเผยให้เห็นการเคลื่อนไหวของบรรดานักจิบและบาริสต้าด้านใน ในขณะที่อีกฝั่งเปิดโล่งเป็นโซนที่นั่งแบบ Outdoor ที่สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามายังบริเวณของร้านอย่างทั่วถึง ทำให้แขกผู้มาเยือนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น และดีต่อใจทุกครั้งที่ได้เข้ามาสัมผัส
All Specialty Drinks
สำหรับการขยับขยายพื้นที่แห่งความสุขครั้งนี้ ก็มีเมนูใหม่ ๆ เข้ามาให้เราได้ลิ้มลองกันมากมาย และยังคงเปี่ยมไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพในทุก ๆ เมนูที่เสิร์ฟ เพราะคุณวีเชื่อว่า "ทุกเมนูอันแสนเรียบง่าย จะพิเศษได้ด้วยวัตถุดิบที่ดี" อย่างเมล็ดกาแฟ ทางร้านก็เลือกใช้เมล็ดกาแฟจากโรงคั่ว Hands & Heart ในขณะที่กาแฟ Filter จะใช้ Single Origin ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาลเพื่อให้ได้รสชาติใหม่ ๆ รวมไปถึงช็อกโกแลตจากแบรนด์ไทย Shabar และมัทฉะญี่ปุ่นจาก Peace Oriental Tea House ชงด้วยความรักและความพิถีพิถันเพื่อให้ได้แก้วที่ดีที่สุด
สำหรับคอกาแฟที่ต้องการเติมคาเฟอีนในวันนี้ ขอแนะนำ Dirty (120 บาท) กาแฟเข้มข้นจากเมล็ด White Slash ที่ให้รสชาติของเทสต์โน็ตโทนช็อกโกแลต เมื่อผสมผสานกับนมเข้มข้นที่เย็นจัดแล้ว จึงกลายเป็นแก้วที่คุณได้ลองแล้วอยากจะจิบซ้ำหลาย ๆ รอบ
ทางร้านยังครีเอตเมนูอื่น ๆ สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ให้ดื่มง่ายด้วยการเติมลูกเล่นสนุก ๆ ลงไป อย่างเช่น Coco Black (160 บาท) กาแฟดำที่สกัดด้วยน้ำเย็นในเวลากว่า 17 ชั่วโมง จนได้รสชาติที่เข้มข้น Body ชัดเจน และใส่ไอศกรีมมะพร้าวลูกใหญ่ลงไป เมื่อไอศกรีมค่อย ๆ ละลายความหวานหอมของมะพร้าวจะเข้ากันกับกาแฟ เป็นความสดชื่นที่ลงตัวได้อย่างพอดี และอีกหนึ่งเมนู Matcha Yuzu (160 บาท) เมื่อชาเขียวมาผสมลงตัวกับความหวานหอมของน้ำส้มยูซุแท้ ๆ และเติมความสดชื่นด้วยโซดา แก้วนี้อาจจะถูกใจหลาย ๆ คนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟอย่างแน่นอน
เมนูถัดมาเป็น Salted Caramel (130 บาท) กาแฟรสกลมกล่อม ปรุงรสด้วยคาราเมลหอมหวานที่ทางร้านเคี่ยวเอง ตัดรสด้วยเกลือชมพู โดยสูตรของทางร้านจะเป็นสูตรหวานน้อย แต่ครบทุกรสชาติทั้งหวาน มัน เค็มและหอมกลิ่นกาแฟที่ผสมกันอย่างลงตัว ทานคู่กับ Coffee Hazelnut Croissant (55 บาท) ครัวซองต์ชิ้นเล็กกำลังดี ที่พิเศษด้วยเนยและยีสต์สูตรของฝรั่งเศส อบมาจนกรอบนอก นุ่มฉ่ำด้านใน หอมกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ และกรุบกรอบด้วยเฮเซลนัท