Ebisu 2.0
หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากการเปิดเป็นซูชิบาร์ขนาดเล็กบรรยากาศเรียบง่ายอบอุ่นเป็นเวลา 3 ปี Ebisu ก็ได้รีโนเวทพร้อมปรับคอนเซ็ปต์ร้านใหม่ และกลับมาพร้อมลุคใหม่ที่สนุกสนานมากขึ้น นำเสนอเมนูซูชิแบบเดิม เพิ่มเติมเมนูสไตล์อิซากายะ รวมถึงเมนูปูดองสูตรของร้านที่รับรองว่าไม่เหมือนที่ไหน เอาใจคนรักอาหารและบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
Showa Style
ทางร้านเลือกที่จะตกแต่งร้านในสไตล์ Showa หรือยุคเปลี่ยนผ่านของประเทศญี่ปุ่น หลังช่วงสงคราม หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับสไตล์ของยุคนี้ผ่านหนังสุดฮิตอย่าง Always ทางร้านถอดแบบบรรยากาศแบบญี่ปุ่นมาได้อย่างดี ไม่ว่าจะใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก รวมถึงตามผนังของร้านยังประดับด้วยโปสเตอร์ต่าง ๆ และตุ๊กตาก็อดซิลล่า เพิ่มบรรยากาศสนุก ๆ เป็นกันเอง มีที่นั่ง 2 ชั้น และยังมีบริเวณบาร์เล็ก ๆ ให้นั่งกินดื่มกันด้วย
Super Size Sushis To Share
นอกจากบรรยากาศร้านที่สนุกสนานขึ้นแล้ว เมนูของที่นี่ก็เพิ่มความสนุกสนานด้วยเช่นกับ เริ่มจากเมนูซูชิซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่ร้านเดิม ทางร้านก็ได้มาปรับไซส์ให้มีขนาดพิเศษขึ้น เหมาะกับการแบ่งกันทานหลายคน แนะนำ Jumbo Set (1,113 บาท) จานนี้ประกอบด้วยเมนูซูชิยอดนิยมอย่าง Unagi Jumbo ซูชิปลาไหลญี่ปุ่นขนาด 25 เซนติเมตร จำนวน 2 ชิ้น, Salmon Jumbo ซูชิแซลมอนไซส์จัมโบ้, Hotate Jumbo ซูชิหอยเชลล์โฮตาเตะไซส์จัมโบ้, Ama Ebi Jumbo ซูชิหน้ากุ้งหวานชิ้นใหญ่ และ Kani Roll โรลซูชิเนื้อขาปู เป็นจานใหญ่ที่เหมาะกับการแบ่งกันทานหลายคน
Premium Quality Beef
นอกจากซูชิแล้ว เมนูเนื้อที่นี่ก็น่าลองไม่แพ้กัน เพราะทางร้านใช้เนื้อคุณภาพสูงจากต่างประเทศ ลองเริ่มจาก ABK48 (480 บาท) ซูชิหน้าเนื้อจากออสเตรเลีย ทางร้านนำมาปรุง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบใส่ชีสและซอสสไปซี่, แบบราดด้วยซอสพอนซึและท็อปด้วยไข่นกกะทาดิบ, แบบท็อปด้วยหอมสับและน้ำมันงา และแบบเทริยากิ คนรักเนื้อต้องลองทาน
ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูเนื้อ Wagyu A4 (250 กรัม 1,500 บาท) เนื้อวากิว ระดับ A4 จากญี่ปุ่น ส่วน Rib Eye ที่มีมันแทรกไม่มากและกระจายตัวทำให้มันไม่กองตัวยบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เหมาะแก่การทำสเต็ก ทางร้านเสิร์ฟมาบนกระทะร้อนพร้อมผัดผักรวม
Ebisu's Marinated Crabs
นอกจากเมนูสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ยังมีเมนูที่ทางร้านนำเมนูปูดองสไตล์เกาหลี มาประยุกต์และครีเอทขึ้นมาใหม่เป็น ปูดองน้ำปลา และ ปูดองโชยุ (ราคาตามน้ำหนัก) โดยเลือกใช้ปูดำจากทะเลไทยแทนที่จะเป็นปูม้าแบบเกาหลี และยังเป็นปูธรรมชาติ ไม่ใช่ปูเลี้ยง ทำให้ได้เนื้อที่แน่น และมีมันปูเยอะ สำหรับปูดองโชยุ ใช้เวลาดองถึง 7 วัน ผสมปลาแห้งและผลไม้ลงไปด้วย ทำให้ได้รสหวานนิด ๆ ส่วนปูดองน้ำปลา ทางร้านจะหมักปูกับเครื่องเทศและน้ำปลาเป็นเวลา 4 วัน ก่อนเสิร์ฟ ซึ่งปูดองของทางร้าน รสไม่จัดมาก และไม่คาว สามารถทานเปล่า ๆ ได้เลย หรือจะเพิ่มรสแซ่บด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ดีไม่แพ้กัน สำหรับมันของปูดองยังนำไปทำเป็นซูชิได้ด้วย
Sake, Sake
อิ่มแล้วอย่าลืมลองสั่งสาเกที่ทางร้านเลือกมาเป็นพิเศษ สำหรับใครไม่รู้จะเริ่มต้นสั่งแบบไหน แนะนำ Japanese Liqueur Set Of 3 (ราคา 290 บาท) เซ็ตนี้รวมสาเก 3 ชนิด ทั้ง Kozaemon Junmai Yuzu สาเกรสส้มยูซุจากเมือง Gifu, Returner Earl Grey Tea Liqueur ลิเคียวร์ผสมชาเอิร์ลเกรย์ออร์แกนิกแท้ ๆ จาก Kanagawa และ Yoshino Monogatari Momo สาเกหวานรสกลมกล่อมผสมเนื้อลูกพีช